เนื้อหาของบทความ

หลังจากทำประกันภัยรถยนต์เรียบร้อยแล้ว ผู้เอาประกันจะได้รับ กรมธรรม์รถ เสมือนเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า เราจะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้างตามที่ระบุในใบกรมธรรม์รถยนต์ที่เราได้รับ ทั้งนี้เมื่อได้กรมธรรม์รถแล้ว จะต้องเช็คความถูกต้องของรายละเอียดในกรมธรรม์รถให้เรียบร้อย เพราะหากมีข้อมูลผิดพลาดจะได้รีบแก้ไขได้

เช็คความถูกต้องของ กรมธรรม์รถ จุดไหนบ้าง 

กรมธรรม์รถ คือ เอกสารที่ใช้เป็นหลักฐานที่ใช้แสดงว่าเราได้ตกลงทำประกันภัยกับบริษัทประกันเรียบร้อย และเราจะได้รับการคุ้มครองตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในใบกรมธรรม์รถยนต์ ส่วนรายละเอียดในกรมธรรม์รถ เช่น ชื่อผู้เอาประกัน รายการรถยนต์ที่เอาประกัน จำนวนเงินเอาประกัน ราคาเบี้ยประกัน และส่วนลดเบี้ยประกัน เป็นต้น ซึ่งมีทั้งกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับหรือการทำพ.ร.บ. อย่างไรก็ตามหลังจากที่คุณได้รับกรมธรรม์รถมาแล้วเรียบร้อย อย่าเพิ่งเก็บไว้ในลิ้นชักรถทันที ขอให้คุณลองเปิดอ่านข้อมูลในกรมธรรม์รถยนต์สักนิด เพราะบางครั้งอาจเกิดความผิดพลาดในการพิมพ์เอกสารของเจ้าหน้าที่ หากคุณนำกรมธรรม์มาตรวจสอบข้อมูลหลังจากที่ได้รับกรมธรรม์รถแล้ว จะได้สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ไขข้อมูลในกรมธรรม์ได้ทัน จะได้ไม่เสียเวลาในการเคลมประกันในภายหลัง ทั้งนี้ข้อมูลที่ต้องเช็คในกรมธรรม์รถมีอะไรบ้าง เรามาดูกันค่ะ

รายละเอียดผู้เอาประกันภัย ผู้รับผลประโยชน์

ลองเช็คดูว่าชื่อผู้เอาประกันถูกต้องหรือไม่ ส่วนผู้รับผลประโยชน์ คือ ผู้ที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นคนเดียวกับผู้เอาประกันภัย หรือกรณีที่รถติดผ่อนอยู่ ชื่อผู้เอาประกันจะเป็นชื่อไฟแนนซ์ นอกจากนี้ระยะเวลาประกันภัย จะเริ่มคุ้มครองตั้งแต่ 00.01 น. ของวันที่ระบุไว้ ส่วนระยะเวลาสิ้นสุดประกันจะระบุวันและเวลาเอาไว้

รายละเอียดรถ

เลขตัวถัง เป็นรายละเอียดสำคัญที่ต้องเช็คให้ถูกต้อง เพราะบริษัทประกันภัยจะใช้เลขนี้เป็นหลัก ซึ่งหากเลขตัวถังผิดจะไม่สามารถขอเคลมประกันได้เลย

ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

บุคคลภายนอกในที่นี้ คือ ทุกคนที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถของเรา ยกเว้นคนในครอบครัว โดยจะต้องมีการเบิกพ.ร.บ.ก่อน หากเงินที่ได้รับไม่เพียงพอ บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้จ่ายส่วนต่างเพิ่มเติม

ความคุ้มครองเกี่ยวกับตัวรถ

ทุนประกันหรือหรือค่าความเสียหายต่อรถจะคุ้มครองตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ จะจ่ายคืนก็ต่อเมื่อเกิดความเสียหายมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของค่าซ่อม โดยยังแยกออกเป็นความเสียหายส่วนแรก คือ ค่าเสียหายที่จะต้องจ่ายร่วม ซึ่งในที่นี้ไม่ได้ระบุเอาไว้ นั่นหมายความว่าหากเราเป็นฝ่ายผิด ก็ไม่ต้องร่วมจ่ายนั่นเอง นอกจากนี้ในกรณีรถยนต์สูญหายหรือเกิดอัคคีภัย บริษัทประกันภัยจะจ่ายให้ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้

ความคุ้มครองตามเอกสารท้ายแนบ

เป็นการคุ้มครองคนภายในรถรวมไปถึงคนขับ โดยให้ความคุ้มครองตามที่ได้ระบุไว้ในเอกสาร ค่ารักษาพยาบาล รวมไปถึงหากผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิดและมีการดำเนินคดี บริษัทประกันจะมาประกันตัวเรา โดยตามจำนวนเงินที่ระบุไว้

ข้อมูลในใบกรมธรรม์รถผิด แก้ไขได้หรือไม่?

หลังจากเช็คข้อมูลในกรมธรรม์รถยนต์ แล้วพบว่ามีการพิมพ์ข้อมูลของคุณผิด จะต้องทำการสลักหลังกรมธรรม์ เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้ถูกต้อง โดย 3 กรณีที่สามารถขอใบสลักหลังกรมธรรม์ได้ ดังนี้

  • ข้อมูลในกรมธรรม์รถยนต์ผิด
  • การเปลี่ยนแปลงชื่อ-สกุลใหม่
  • เปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์

หากข้อมูลผิดพลาดอาจสร้างความลำบาก ยุ่งยากในการเคลมประกันในอนาคต หลังจากที่ได้รับใบกรมธรรม์แล้ว ผู้เอาประกันควรตรวจสอบรายละเอียดในใบกรมธรรม์รถยนต์อย่างละเอียด หากข้อมูลผิดพลาด ให้แจ้งเรื่องไปยังโบรกเกอร์ประกันภัย หรือบริษัทประกันเพื่อขอใบสลักหลังกรมธรรม์ทันที

กรมธรรม์รถยนต์หาย ต้องทำอย่างไร

กรมธรรม์รถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเก็บไว้อย่าให้หายเด็ดขาด แต่ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัย กรมธรรม์รถยนต์หายไป หายังไงก็หาไม่เจอ ก็ไม่ต้องวิตกกังวลไป เพราะสามารถทำเรื่องขอกรมธรรม์รถยนต์ใหม่ได้ โดยต้องไปแจ้งความว่ากรมธรรม์รถยนต์หาย จากนั้นเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อขอสำเนากรมธรรม์รถยนต์ของคุณได้ใหม่ โดยใช้ระยะเวลาในการอประมาณ 14 วัน โดยบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่เราทำเรื่องไป จะทำการจัดส่งทางไปรษณีย์มาให้เรา ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่ได้รับกรมธรรม์รถยนต์ใบใหม่ ก็สามารถเอาเลขกรมธรรม์รถยนต์ของคุณแจ้งกับบริษัทประกันได้เช่นเดียวกันค่ะ แต่ทางที่ดีเพื่อจะไม่เป็นการเสียเวลาในการทำเรื่องขอกรมธรรม์รถยนต์ใหม่ในภายหลัง เราควรเก็บรักษากรมธรรม์รถยนต์ของเราไว้ให้ดี เพราะถือเป็นเอกสารสำคัญเช่นเดียวกับเอกสารส่วนตัวของเราเช่นเดียวกันค่ะ

เช็คประกันรถยนต์ทำไว้ที่ไหน ต้องทำอย่างไร

โดยปกติแล้วการต่อกรมธรรม์รถยนต์หรือการทำประกันรถยนต์ทั้งแบบภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.และภาคสมัครใจ จะต้องมีการต่ออายุปีต่อปี แต่บางคนอาจจะลืมไปว่าได้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้กับบริษัทไหน เบื้องต้นสามารถเช็คข้อมูลได้ ตามช่องทางดังนี้

คปภ.

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เราสามารถโทรสอบถามที่สายด่วนประกันภัย 1186,หรือยื่นเรื่องเพื่อตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยได้ที่ สำนักงานคปภ.ประจำจังหวัดในวันและเวลาราชการ

บริษัทประกันภัยรถยนต์

หากลืมข้อมูลกรมธรรม์รถยนต์ที่เคยซื้อไว้ อาจลองเริ่มต้นด้วยการติดต่อคอลเซ็นเตอร์ของบริษัทประกันภัยที่คาดว่าเคยทำไว้ เพื่อให้ลองเช็คข้อมูลกรมธรรม์รถยนต์ของตน โดยขอตรวจสอบข้อมูลด้วยชื่อ-สกุล เลขบัตรประชาชน ข้อมูลเลขทะเบียนรถ และหมายเลขตัวถังรถ

ฐานข้อมูลกลางวินาศภัย (TID)

บริษัทที่รวบรวมฐานข้อมูลกลางด้านการรับประกันวินาศภัยทุกประเภทเพื่อประโยชน์สำหรับผู้ทำประกันภัยและกลุ่มธุรกิจประกันภัย ทั้งประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ประกันภัยอัคคีภัยและทรัพย์สิน ประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ ประกันภัยเบ็ดเตล็ด และประกันภัยทางทะเลและขนส่ง เราสามารถทราบข้อมูลประกันรถยนต์ของเราว่าทำที่ไหน หรือแม้แต่กรมธรรม์รถยนต์หาย ก็ยังสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ฐานข้อมูลกลางวินาศภัย www.insure.co.th, เบอร์โทรศัพท์ 02-108-8388 ต่อ 4308-4312

ทำไมทำพ.ร.บ.แล้ว ควรทำประกันรถภาคสมัครใจด้วย

กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องทำพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 โดย พ.ร.บ. จะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคลลเท่านั้น หรือเรียกได้ว่า คุ้มครองคน ไม่คุ้มครองรถ เช่น ค่าซ่อมรถ หรือความเสียหายของรถนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนอาจจะไม่กังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลมากนัก เพราะยังพอได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลที่ได้จากการทำพ.ร.บ. เงินชดเชยจากประกันสังคม หรือจากการเคลมประกันอุบัติเหตุ แต่สำหรับรถแล้วหากไม่มีการทำประกันภัยรถยนต์ไว้ ก็อาจจะได้ทำให้เจ้าของรถต้องเหงื่อตกกับค่าซ่อมรถที่แพงกว่าเบี้ยประกันเสียอีก ทั้งนี้ประกันรถยนต์มีให้เลือกหลายแผนประกัน ดังนี้

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ให้ความคุ้มครองแก่ตัวรถของผู้เอาประกัน รถของคู่กรณี หรือสามารถเคลมได้แม้ไม่มีคู่กรณี เช่น  รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุด รถใหม่สภาพดีอายุไม่เกิน 7 ปี

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ให้ความคุ้มครองแก่ตัวรถของผู้เอาประกัน สามารถเคลมได้ในกรณีที่มีคู่กรณี รถชนรถ / รถหาย /ไฟไหม้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำประกันเพื่อป้องกันกรณีรถชน ป้องกันรถหาย ไฟไหม้ หรือรถที่มีความเสี่ยงไฟไหม้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะอายุรถเกิน 7 ปี หรือมูลค่ารถไม่ถึงเกณฑ์ที่บริษัทประกันกำหนด

ประกันรถยนต์ชั้น 3+

ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันในกรณีเกิดอุบัติเหตุชนกับรถคันอื่น ไม่คุ้มครองรถหายหรือไฟไหม้ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไหม้หรือการโจรกรรมต่ำ เช่น รถไม่ติดแก๊ส รถจอดภายในบ้าน เป็นต้น

ประกันรถยนต์ชั้น 3

ให้ความคุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณี ไม่มีวงเงินซ่อมรถของผู้เอาประกัน ป้องกันความเสียหายจากการขับรถไปชนคันอื่น โดยผู้เอาประกันพร้อมรับผิดชอบค่าซ่อมของรถตัวเองได้หากจำเป็น

เทคนิคเลือกประกันรถยนต์ให้คุ้มค่า

เราจะเห็นว่าการเลือกทำประกันรถยนต์นั้น มีให้เลือกหลากหลายแผนประกันทั้งนี้ในการเลือกซื้อประกัน จะต้องเลือกแผนประกันที่ให้ความคุ้มค่ากับคุณมากที่สุด  โดยมีเทคนิคเล็กน้อยในการเลือกแผนประกันดังนี้

พฤติกรรมการใช้รถ

พฤติกรรมการใช้รถเป็นส่วนหนึ่งในการเลือกซื้อประกันรถยนต์ บางคนเป็นมือใหม่หัดขับ บางคนขับรถชำนาญ ก็อาจจะเลือกทำประกันรถยนต์ที่แตกต่างกัน มือใหม่หัดขับมีความเสี่ยงในการขับขี่ค่อนข้างสูง การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สำหรับมือใหม่หัดขับที่ใช้รถปีใหม่ อายุไม่เกิน 7 ปี ก็จะช่วยคุ้มครองในเรื่องความเสียหายของรถ และคุ้มครองคนอีกด้วย หรือหากเป็นมือใหม่หัดขับแต่ใช้รถอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป อาจจะแนะนำให้ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ เพื่อคุ้มครองได้ใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 นอกจากนี้หากคุณใช้รถเป็นประจำทุกวัน การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือชั้น 1 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากบางคนไม่ค่อยได้ใช้รถสักเท่าไหร่ ขับแค่ใกล้ ๆ บ้าน หรือใช้รถเฉพาะวันหยุด อาจจะเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ 2 แทน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการเลือกซื้อประกันรถยนต์เช่นกัน

อายุของรถที่ใช้

เราจะเห็นว่าในการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สำหรับรถใหม่ป้ายแดง หรือรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี หากคุณเป็นรถเก่าที่มีอายุเกิน 7 ปี แต่รถก็ยังไม่เก่ามากนัก แต่ก็อยากได้รับความคุ้มครองที่ไม่ต่างจากประกันชั้น 1   จึงแนะนำให้ทำประกันรถยนต์ 2+ แทน จะเห็นว่าอายุของรถมีผลต่อการเลือกซื้อประกันรถยนต์ แม้ว่าจะเป็นรถปีเก่าก็ยังสามารถเลือกซื้อประกันรถยนต์ เพื่อเพิ่มความคุ้มครองในการใช้รถใช้ถนน แม้ว่าอาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองเท่ากับรถใหม่หรือการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ตาม แต่อย่างน้อยการเลือกซื้อประกันรถยนต์ติดไว้สักแผน ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความคุ้มครองที่นอกเหนือไปจากการทำพ.ร.บ.เพียงอย่างเดียว

เลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ

การค้นหารีวิวคนที่เคยทำใช้บริการบริษัทประกันแต่ละแห่งในอินเตอร์เน็ต หรือสอบถามคนข้างเคียง เพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับประสบการณ์การซื้อหรือเคลมประกัน แต่ทางที่ดีเลือกซื้อประกันรถยนต์กับบริษัทที่คุ้นหู น่าเชื่อถือ เพราะการเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่น่าเชื่อถือ จะช่วยให้คุณได้รับการบริการที่เป็นมาตรฐาน ถูกกฎหมาย นอกจากนี้การเลือกบริษัทประกันที่มีอู่ซ่อมรถครอบคลุมหลายแห่งที่ได้รับมาตรฐาน รวมไปถึงอู่ซ่อมรถประจำของคุณเองอยู่ในเครือของบริษัทประกันรถที่คุณด้วยแล้ว ก็จะช่วยให้คุณลดความกังวลในการนำรถไปส่งซ่อม และได้รับมาตรฐานในการซ่อมอีกด้วย

เบี้ยประกันรถยนต์

การเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์และข้อเสนอของแต่ละแห่ง ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ได้ง่ายขึ้น เลือกที่ให้ความคุ้มค่าว่าที่ไหนให้ความคุ้มครองมากกว่า เบี้ยประกันถูกกว่ากัน รวมไปถึงรูปแบบในการซื้อประกันรถยนต์ว่าสามารถแบ่งจ่ายได้หรือไม่ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเบี้ยประกันรถยนต์แต่ละชั้น มีราคาค่อนข้างสูงแต่เมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่จะได้รับนั้นมีความคุ้มค่ามาก เพราะฉะนั้นหากสามารถเลือกทำประกันรถยนต์ผ่อนชำระ 0% ได้นาน 12 เดือน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้การซื้อประกันรถยนต์ของคุณ ง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งกังวลใจกับราคาเบี้ยประกันช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อประกันได้ง่ายขึ้น 

กรมธรรม์รถ คือหลักฐานสำคัญในการแสดงว่าคุณได้ตกลงทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัยนั้นเรียบร้อยแล้ว และบริษัทประกันจะส่งกรมธรรม์รถยนต์มาให้ผู้เอาประกันเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยภายในกรมธรรม์รถยนต์จะระบุรายละเอียดความคุ้มครองที่เราจะได้รับ ได้แก่ ชื่อผู้เอาประกัน รายการรถยนต์ที่เอาประกัน ทุนประกัน ราคาเบี้ยประกัน และส่วนลดเบี้ยประกัน ซึ่งหากมีข้อมูลส่วนไหนผิดพลาดซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จะทำให้เกิดปัญหาในการเคลมประกันในภายหลัง  สำหรับใครที่กำลังอยากทำประกันรถยนต์ แนะนำประกันภัยรถยนต์ผ่อน 0% จากเฮงลิสซิ่ง เลือกแผนประกันภัยที่เหมาะกับคุณ ซื้อง่าย แบ่งจ่ายได้ ไม่มีดอกเบี้ยนานสูงสุด 12 เดือน คนไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถซื้อได้ง่าย รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก