เนื้อหาของบทความ

การทำใบขับขี่ครั้งแรกของหลายคน อาจจะมีความกังวลว่าข้อสอบจะออกอะไรบ้าง ยากหรือไม่อย่างไร หรือ ต้องทำให้ได้กี่ข้อถึงสอบผ่าน วันนี้เราได้รวบรวมแนวข้อสอบ ข้อสอบใบขับขี่ 2566 มีเนื้อหาที่จะต้องเตรียมตัวสำหรับการสอบอย่างไรบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมแนวข้อสอบเพื่อใช้เตรียมตัวทำข้อสอบใบขับขี่ 2566 มาฝากกันค่ะ

เตรียมตัวทำ ข้อสอบใบขับขี่ 2566   

การเตรียมตัวทำ ข้อสอบใบขับขี่ 2566 สำหรับผู้เริ่มทำใบขับขี่ครั้งแรกอาจจะกังวลใจ หรืออยากจะรู้ว่าในการทำข้อสอบใบขับขี่ 2566 มีแนวข้อสอบอย่างไร ข้อสอบใบขับขี่มีกี่ข้อ ต้องทำให้ได้กี่ข้อจึงจะถือว่าทำข้อสอบใบขับขี่ผ่าน ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าคนที่ต้องเตรียมตัวทำข้อสอบใบขับขี่นั้น ได้แก่  ผู้ที่ทำใบขับขี่ครั้งแรก ผู้ที่มีใบขับขี่แบบชั่วคราวอายุ 2 ปีหมดอายุเกิน 1 ปี  หรือผู้ที่มีใบขับขี่ชนิด 5 ปี ขาดต่อเกิน 1 ปี โดบข้อสอบใบขับขี่จะมีทั้งหทด 50 ข้อ 9 หมวด ผู้สอบจะต้องทำข้อสอบให้ได้ 45 ข้อขึ้นไป หรือทำได้ 90% ขึ้นไปจึงจะถือว่าทำข้อสอบใบขับขี่ 2566 ภาคทฤษฎีผ่าน ก่อนที่จะทำข้อสอบใบขับขี่ 2566 จะต้องเตรียมตัวดังนี้ 

คุณสมบัติการทำใบขับขี่ใหม่

  • อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
  • ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับรถได้
  • ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
  • ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
  • ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ

ระยะเวลาการทำใบขับขี่ใหม่

วันที่ 1  

  • ทดสอบสมรรถภาพทางกาย
  • อบรมการขับขี่ 5 ชั่วโมงโดยประมาณ  ช่วงเช้า (9.30-12.00) และช่วงบ่าย (13.00-15.30)
  • ทำการทดสอบทฤษฎี และข้อสอบใบขับขี่ข้อเขียนภายในวันนั้น

วันที่ 2  

  • จะต้องทำการนัดหมายล่วงหน้า เป็นการสอบภาคปฏิบัติ
  • รับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวมีอายุ 2 ปี
  • ชำระเงิน/ออกใบเสร็จรับเงิน/พิมพ์ใบอนุญาตขับรถ/จ่ายใบอนุญาตขับรถ

แนว ข้อสอบใบขับขี่ 2566 มีอะไรบ้าง

แนวข้อสอบใบขับขี่ 2566 มีทั้งหมด 50 ข้อ ซึ่งผู้สอบต้องทำข้อสอบใบขับขี่ 2566 ให้ได้ 45 ข้อขึ้นไป หรือ 90% ถึงจะผ่านการทดสอบใบขับขี่ 2566 โดยหมวดหมู่ข้อสอบใบขับขี่ 2566 มี 9 หมวด ได้แก่ 

  1. หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
  2. หมวดกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก
  3. หมวดเครื่องหมายพื้นทาง
  4. หมวดป้ายบังคับ
  5. หมวดป้ายเตือน
  6. หมวดป้ายแนะนำ
  7. หมวดมารยาทและจิตสำนึก
  8. หมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย
  9. หมวดการบำรุงรักษารถ

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์

  1. ในขณะขับรถผู้ขับขี่จะต้องมีสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถ ใช้คู่กับใบอนุญาตขับรถหรือใบขับขี่ด้วย
  2. ผู้ขับรถกระทำผิดตามกฎหมายจราจรทางบกและได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานจราจร ต้องไปติดต่อชำระค่าปรับภายใน 7 วัน
  3. เมื่อใบอนุญาตขับรถสูญหายหรือชำรุด ต้องยื่นขอรับใบแทนต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน
  4. ผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  5. ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวมีอายุ 1 ปี
  6. ผู้ขับรถใช้ใบอนุญาตขับรถที่สิ้นอายุมีโทษปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท
  7. รถที่ไม่เสียภาษีประจำปีภายในกำหนดจะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1 ต่อเดือน
  8. การโอนรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน
  9. การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 7 วัน
  10. การต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (5 ปี) สามารถต่อก่อนล่วงหน้าได้ 3 เดือน
  11. รถต่อไปนี้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเว้นแต่ค่าธรรมเนียมแผ่นป้ายทะเบียนรถ ได้แก่ รถบดของรัฐวิสาหกิจ รถแทรกเตอร์ของรัฐวิสาหกิจ รถของสภากาชาดไทย รถของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต รถดับเพลิงของ อบต. 

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก

  1. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้อง ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
  2. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องชะลอและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร
  3. การหยุดรถบริเวณทางแยกผู้ขับขี่ต้องหยุดหลังเส้นแนวหยุด
  4. บริเวณทางโค้งรัศมีแคบห้ามแซง
  5. การจอดรถต้องจอดให้ห่างจากขอบทางโดยห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร
  6. การขับรถแซงรถคันหน้าต้องแซงด้านขวามือ ยกเว้นเมื่อรถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวา หรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวาที่สามารถแซงด้านซ้ายมือได้
  7. รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้วสามารถนำมาใช้ในทางได้
  8. เขตปลอดภัย หมายความว่า พื้นที่ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นได้ชัดเจนทุกเวลาสำหรับให้คนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอ หรือให้คนที่ขึ้นหรือลงจากรถหยุดรอก่อนจะข้ามทางต่อไป
  9. รถที่มีเสียงเครื่องยนต์ดังในระดับ 80 เดซิเบลสามารถนำมาใช้ในทางเดินรถได้
  10. สัญญาณจราจรไฟสีแดงที่ทำเป็นรูปกากบาทเฉียงอยู่เหนือช่องเดินรถ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถในช่องเดินรถนั้น

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดเครื่องหมายพื้นทาง 

ในหมวดนี้จะทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของเครื่องหมายพื้นทางต่าง ๆ เช่น เส้นชะลอความเร็ว ขับรถในช่องจราจร ห้ามแซง หรือคร่อมเส้นแต่สามารถแซงได้ เป็นต้น 

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดป้ายบังคับ 

ในหมวดนี้จะทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของป้ายบังคับต่าง ๆ เช่น ป้ายห้ามกลับรถไปทางขวา ป้ายห้ามจอดรถทุกชนิด ป้ายห้ามใช้เสียง เป็นต้น 

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดป้ายเตือน

ในหมวดนี้จะทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของป้ายเตือน ต่าง ๆ 

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดป้ายแนะนำ 

ในหมวดนี้จะทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของป้ายแนะนำต่าง ๆ 

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดมารยาทและจิตสำนึก

  1. ทัศนคติและจิตสำนึกในการขับรถอย่างปลอดภัยของผู้ขับรถคือ ขับรถอย่างมีสติเคร่งครัดวินัยจราจรแสดงออกถึงมารยาทและน้ำใจ
  2. คนขับรถและผู้โดยสารทุกคนทั้งผู้ใหญ่และเด็กที่นั่งตอนหน้าและตอนหลังรถ จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารไปในรถยนต์เพื่อความปลอดภัยของชีวิต
  3. เพื่อให้แซงรถได้อย่างปลอดภัยและไม่เสียมารยาท ผู้ขับรถควรให้สัญญาณไฟก่อนแซง เร่งความเร็วแซงขึ้นไป เว้นระยะห่างก่อนให้สัญญาณไฟขอกลับช่องจราจรเดิม เร่งความเร็วรถให้เหมาะสมกับรถที่อยู่ด้านหน้า
  4. การให้สัญญาณไฟที่ถูกต้องเมื่อขับรถเข้าสู่ทางร่วมทางแยก ให้สัญญาณไฟทุกครั้งเมื่อต้องการเลี้ยวซ้ายหรือขวา
  5. แตะเบรกเตือนให้รถหลังรู้ว่าท่านกำลังจะหยุดรถ และหยุดรถตรงทางม้าลาย เมื่อเห็นคนยืนบนฟุตบาทและแสดงท่าที่จะข้ามถนนตรงทางม้าลาย
  6.  การขับรถเข้าวงเวียนที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรควรให้รถทางขวามือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
  7. การขับรถเข้าวงเวียนที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรควรให้รถทางขวามือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
  8. ในกรณีที่ท่านขับรถผ่านซอยที่มีรถรอออกเป็นจำนวนมากควรเปิดทางให้รถออกจากซอยได้บ้างสลับกับรถทางตรง
  9. ในกรณีที่ท่านขับรถผ่านซอยที่มีรถรอออกเป็นจำนวนมากควรเปิดทางให้รถออกจากซอยได้บ้างสลับกับรถทางตรง
  10. ข้อใดเป็นพฤติกรรมที่ถูกต้องและแสดงมารยาทที่ดีของผู้ขับรถยนต์ กลับรถที่จุดกลับรถทุกครั้งแม้จะอยู่ไกล

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย

  1. การหยุดรถบนทางลาดชัน ควรเหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ และปลดเกียร์ว่าง
  2. การขับรถขณะฝนตก ผู้ขับขี่ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง
  3. สัญญาณไฟสีแดง ไม่ควรปรากฏบนแผงหน้าปัดรถขณะขับรถ
  4. การจับพวงมาลัย วิธีที่ถูกต้องสุด ก็คือ นิ้วมือทั้งห้า จับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว พยายามอย่าจับให้มือทั้งสองข้างพันกัน เพราะจะทำให้เราขับไม่ถนัด หรือเลี้ยวรถไม่ได้
  5. การคาดเข็มขัดนิรภัย จะต้องตรวจสอบการใช้งานของเข็มขัดนิรภัยก่อน ด้วยการ กระตุกดึงสายเข็มขัดอย่างเร็ว แล้วสายเข็มขัดต้องล็อค ให้แน่นสนิท เพื่อความปลอดภัยขณะขับรถ
  6. ห้ามเปิดไฟฉุกเฉิน หรือเร่งความเร็วขณะผ่านทางเเยกเด็ดขาด
  7. เพื่อความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอุปกรณ์ที่ปัดน้ำฝนของรถก่อนเป็นอันดับแรก
  8. การหมุนพวงมาลัยรถ ขณะจอดรถอยู่กับที่จะทำใหดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ
  9. เมื่อรถเกิดไฟฟ้าลัดวงจร  ให้ตัดกระแสไฟ หรือหาทางงัดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน
  10. หากเกิดฝนตกหนักจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่จะต้องจอดรถบริเวณที่ปลอดภัย เปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน

ข้อสอบใบขับขี่ หมวดการบำรุงรักษารถ

  1. รถสตาร์ทไม่ติดเกิดจาก แบตเตอรี่ไม่มีไฟ
  2. การตรวจเช็กแบตเตอรี่แบบง่าย ๆ ว่ามีไฟปกติหรือไม่ ทำได้โดย บีบแตรและฟังเสียงว่าปกติหรือเบาลง
  3. ผู้ขับขี่ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน เมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ
  4. ถ้าขั้วแบตเตอรี่มีคราบขี้เกลือให้ใช้น้ำอุ่นล้างและทาจาระบี
  5. ในการถอดขั้วแบตเตอรี่ ควรถอดขั้วลบก่อน
  6. น้ำที่ใช้เติมในแบตเตอรี่ควรใช้น้ำกลั่น
  7. การเติมน้ำกลั่นควรให้อยู่ระหว่างขีดที่กำหนด
  8. แบตเตอรี่รถยนต์จะมีขนาดแรงดันไฟฟ้า 12 โวลท์
  9. ความตึงของสายพานและไดชาร์ตอยู่ที่ 5-15 มิลลิเมตร
  10. หากเติมน้ำมันผิดประเภทต้องเปลี่ยนถ่ายออกทันที

ใบขับขี่หมดอายุ ต้องทำอย่างไร

หลังจากที่ได้รับใบขับขี่มาแล้ว จนมาถึงวันที่ใบขับขี่ใกล้หมดอายุ เป็นประจำทุกปีสำหรับผู้ที่ขับขี่รถแต่ละท่าน ที่อาจจะถึงเวลาที่ต้องต่ออายุใบขับขี่ ในปี 2566 แล้ว สำหรับการต่ออายุใบขับขี่ 2566 จะมีอยู่ 2 ประเภท โดยที่บางคนอาจจะถึงคราวที่ต้องต่ออายุใบขับขี่ 2566 จากชนิดชั่วคราว (2ปี) เป็น 5 ปี หรือการต่ออายุใบขับขี่ 2566 ชนิด 5 ปี หากกลัวลืมต่ออายุขับขี่ก็สามารถต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าได้ก่อนหมดอายุ 6 เดือน หรือ 180 วัน โดยมีค่าใช้จ่ายในการต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าตามประเภทรถดังนี้

1.รถจักรยานยนต์ ต่ออายุใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 255 บาท

2.รถยนต์ ต่ออายุใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 505 บาท

ทั้งนี้หากปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุและมีการนำไปใช้งาน จะผิดกฎหมายพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มีโทษปรับ 2,000 บาทตามมาตรา 66

โดยก่อนอื่นจะต้องเข้ารับการอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์จะต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ในการเข้าระบบ DLT e-learning สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้ทั้งสมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ได้ทั้งคู่ แต่สำคัญคือต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้คุณยังต้องเตรียมเอกสารเพื่อใช้สำหรับกรอกข้อมูลลงในระบบดังนี้

1.เตรียมข้อมูลให้พร้อม ได้แก่ บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และวันเดือนปีเกิด สำหรับลงทะเบียนในระบบ DLT e-learning

2.เตรียมเวลาให้ว่าง ในการอบรมเพื่อต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ แม้ว่าจะสามารถนั่งอบรมที่ไหนก็ได้ แต่เนื่องจากต้องใช้เวลาในการอบรมไม่ต่างจากการไปอบรมที่ขนส่ง เพราะฉะนั้นคุณจำเป็นต้องหาเวลาที่ว่าง สะดวก และไม่มีธุระ เพื่อนั่งอบรมใบขับขี่ออนไลน์นี้ ประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ใบขับขี่แต่ละประเภทจะใช้เวลาในการอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์แตกต่างกัน จากนั้นเริ่มทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

เข้าไปที่เว็บไซต์  https://www.dlt-elearning.com/Home คลิก

2.กดปุ่ม “ลงทะเบียน” สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนเข้าใช้งาน

3.กรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน ประกอบไปด้วยเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด

4.เลือกการอบรมตามใบอนุญาตขับรถที่ต้องการต่ออายุ ประกอบไปด้วย ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) ระยะเวลาการอบรม 1 ชั่วโมง ใบอนุญาตขับรถขนส่ง ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง และใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ) ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง

4.เลือกข้อ1.แบบทดสอบก่อนอบรม

5.ทำแบบทดสอบก่อนอบรม 

6.ดูวิดีโออบรมใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล

7.ทำแบบทดสอบหลังอบรม เมื่อเรียบร้อยแล้วให้กดส่งข้อสอบ

8.เมื่อผ่านการอบรมแล้ว ให้บันทึกหน้าจอผลการอบรมเก็บไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอต่อใบอนุญาตที่กรมการขนส่งต่อไป โดยผลการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์จะมีอายุ 90 วัน นับจากวันที่ผ่านการอบรม

เกณฑ์การตัดแต้มใบขับขี่ 2566

เมื่อทุกคนมีใบขับขี่รถเรียบร้อยแล้ว จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนนเต็ม จะถูกตัดแต้มใบขับขี่เมื่อทำผิดทันที โดยเกณฑ์การตัดแต้มใบขับขี่ 2566 จะแบ่งกลุ่มความผิดออกเป็น 4 ระดับ 20 ฐานความผิดที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้

ตัดแต้มใบขับขี่ 1 คะแนน ตัดแต้มใบขับขี่ 2 คะแนน ตัดแต้มใบขับขี่ 3 คะแนน ตัดแต้มใบขับขี่ 4 คะแนน
1.ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ

2.ไม่สวมหมวกกันน็อก

3.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

4.ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด

5.ขับรถบนทางเท้า

6.ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย

7.ไม่หลบรถฉุกเฉิน

8.ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว

9.ขับรถไม่ติดป้ายทะเบียน หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไข

10.ไม่ติดป้ายภาษี

1.ขับรถฝ่าไฟแดง

2.ขับรถย้อนศร

3.ขับรถในระหว่างโดยพักใช้หรือเพิกถอนใบขับขี่

1.ขับรถในขณะหย่อนความสามารถ

2.ขับผิดวิสัยคนขับรถธรรมดา

3.ขับรถชนแล้วหนี

1.เมาแล้วขับ

2.ขับรถในขณะเสพยาเสพติด

3.แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต

4.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น

สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 1.หากถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน  จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน (รถทุกประเภท)

2.หากฝ่าฝืนขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3.หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน และหากยังถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

 

หวังว่าแนวข้อสอบที่เราได้รวบรวมไปข้างต้นนี้ จะเป็นแนวทางช่วยให้คุณสามารถเตรียมตัวสำหรับการทำ ข้อสอบใบขับขี่ 2566 นี้ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น นอกจากจะเตรียมตัวสำหรับการสอบข้อเขียนแล้ว การสอบภาคปฏิบัติ ผู้สอบจะต้องมีทักษะการขับขี่รถ เข้าใจกฎหมายจราจร  และเมื่อคุณสอบข้อสอบใบขับขี่ผ่านแล้วผ่านเรียบร้อยแล้ว  เราอยากแนะนำให้คุณทำประกันรถติดเอาไว้สักกรมธรรม์ เพื่อช่วยคุ้มครองคุณและรถจากอุบัติเหตุรถชน หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ อย่างน้อยการมีประกันติดรถไว้ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุอีกด้วย หากสนใจทำประกันรถยนต์แนะนำ ประกันรถยนต์ผ่อน 0% ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน มีให้เลือกหลากหลายแผนประกันตามความต้องการ คุ้มครองคุณ อุ่นใจทุกการเดินทาง