หลายคนติดกล้องภายในรถเพื่อช่วยเป็นหลักฐานหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน แต่หากเจอกรณีรถชนแล้วหนี ต้องการ ค้นหาทะเบียนรถ อยากหาชื่อเจ้าของทะเบียน จะเช็คด้วยตัวเองต่องทำอย่างไร

ค้นหาทะเบียนรถ หาชื่อเจ้าของทะเบียน ทำเองได้ไหม

เชื่อว่าหลายคนที่โดนรถชนแล้วหนี และจำทะเบียนรถของคู่กรณีได้ จะต้องนำทะเบียนรถของคู่กรณีไป ค้นหาทะเบียนรถ หาชื่อของผู้ที่เป็นเจ้าของรถว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน แต่เรามักจะพบว่ามีการโฆษณาให้บริการค้นหาทะเบียนรถ แอพเช็คทะเบียนรถ รับเช็คทะเบียนรถฟรี หรือบริการค้นหาทะเบียนรถ ตามอินเตอร์เน็ต ซึ่งแบบนี้ใคร ๆ ก็สามารถดูข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นได้ง่ายแบบนี้จริงหรือ ? คำตอบคือ แม้ว่าคุณจะเป็นฝ่ายที่ถูกชน แต่ก็ไม่สามารถนำเลขทะเบียนรถของคู่กรณีไปค้นหาทะเบียนรถว่าใครเป็นเจ้าของรถ บ้านอยู่ที่ไหน ด้วยวิธีการที่ได้กล่าวไปแล้ว เนื่องจากถือเป็นความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 “ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา 12 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ” รวมไปถึงเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายนั่นเอง

แม้ว่าคุณจะเป็นฝ่ายเสียหายแต่ก็ไม่สามารถค้นหาทะเบียนรถเพื่อทราบข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตัวเองได้ แม้กระทั่งจะเดินเข้าไปที่ขนส่งเพื่อขอค้นหาทะเบียนรถของคู่กรณีที่ชนแล้วหนีในฐานะบุคคลทั่วไปก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แล้วแบบนี้จะเอาผิดกับคู่กรณีที่ที่มาชนได้อย่างไรนั้น คุณสามารถค้นหาทะเบียนรถ เช็คป้ายทะเบียนรถว่าใครเป็นเจ้าของได้ด้วยวิธีที่ถูกกฎหมายดังต่อไปนี้ค่ะ

ค้นหาทะเบียนรถคู่กรณีชนแล้วหนี ต้องทำอย่างไร

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า คุณไม่สามารถหาชื่อเจ้าของทะเบียนรถ เช็คประวัติทะเบียนรถได้ โดยเฉพาะพวกบริการรับเช็คประวัติรถ หรือแอพเช็คทะเบียนรถที่เห็นปรากฏในอินเตอร์เน็ต แต่คุณสามารถค้นหาทะเบียนรถ เช็คทะเบียนรถได้หากคุณโดนรถชนแล้วหนี โดยการยื่นคำร้องขอตรวจสอบเช็คประวัติทะเบียนรถของคู่กรณีได้ที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งของจังหวัดเท่านั้น และต้องเตรียมเอกสารที่ใช้ในการยื่นขอเช็คทะเบียนรถและหลักฐานในการถูกชน เพื่อเป็นเหตุผลในการค้นหาประวัติและชื่อเจ้าของทะเบียนรถคู่กรณีได้ ดังนี้

เอกสารที่ใช้ในการขอตรวจสอบประวัติทะเบียนรถ กรมการขนส่งทางบก

1.บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริงพร้อมสำเนาพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
2.หนังสือรับรองนิติบุคคล (ฉบับจริงพร้อมสำเนา แนบสำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจลงนามให้ครบทุกคน) กรณีสำเนาต้องลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามให้ครบถ้วนพร้อมประทับตรานิติบุคคลในเอกสารทุกฉบับ (ถ้ามี) และแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มีอำนาจลงนามทุกคน
3.หนังสือนำส่งเรื่องของหน่วยงานของรัฐขอตรวจดูหรือขอสำเนาเอกสาร (ฉบับจริง) กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมายเป็นผู้ขอตรวจดูหรือขอสำเนาเอกสาร
4.สำเนาหนังสือแต่งตั้งเป็นตัวแทนบริษัทประกันภัย พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาให้ครบถ้วน กรณีบริษัทประกันภัยเป็นผู้ขอตรวจดูหรือขอสำเนาเอกสาร
5.สำเนาใบอนุญาตทนายความ หรือสำเนาใบแต่งทนาย กรณีทนายความเป็นผู้ขอตรวจดูหรือขอสำเนาเอกสาร สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีของสถานีตำรวจที่เกิดเหตุ (ฉบับจริง และสำเนา พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาให้ครบถ้วน)

ค่าธรรมเนียมในการขอตรวจสอบประวัติทะเบียนรถ ค้นหาทะเบียนรถ

1.ค่าคำขอ ฉบับละ 5 บาท
2.ค่าขอค้นเอกสาร รถยนต์ ครั้งละ 50 บาท รถจักรยานยนต์ ครั้งละ 10 บาท
3.ค่ารับรองสำเนา แผ่นละ 20 บาท
โดยระยะเวลาในการดำเนินการ ตรวจสอบคำขอและเอกสารประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ทำการชำระค่าธรรมเนียมตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นนี้

โดนชนแล้วหนี ประกันคุ้มครองหรือไม่

หลายคนที่ทำประกัน เมื่อเจอกรณีโดนรถชนแล้วหนีแบบนี้ อาจจะกำลังสงสัยว่าประกันรถยนต์ที่ทำไว้นั้น จะให้ความคุ้มครองในกรณีนี้หรือไม่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยรถยนต์ที่คุณเลือกเอาไว้ มาดูกันว่าประกันภัยรถยนต์ประเภทไหนที่ให้ความคุ้มครองในกรณีนี้บ้างค่ะ

1.ประกันรถยนต์ชั้น 1

สบายใจได้สำหรับผู้ที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 หากเกิดอุบัติเหตุโดนรถชนแล้วหนี ประกันจะคุ้มครองในส่วนนี้ด้วย เพราะการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองทุกกรณีไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่มีก็ตาม ซึ่งทำให้คนที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เบาใจในเรื่องนี้ได้ เพราะสามารถเคลมได้ทุกกรณี

2.ประกันรถยนต์ชั้น 2+,3+

ประกันรถยนต์ชั้นนี้ ให้ความคุ้มครองกรณีรถชนรถเท่านั้น แต่หากสามารถระบุตัวตนหรือเลขทะเบียนรถได้ ก็สามารถนำมายืนยันกับบริษัทประกันเพื่อเคลมประกันหรือนำไปแจ้งความได้

3.ประกันรถยนต์ชั้น 3

ประกันรถยนต์ชั้น 3 ให้ความคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น จึงทำให้ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่าซ่อมและค่าเสียหายเองทั้งหมดนั่นเองค่ะ

สามารถศึกษาความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์แต่ละชั้นเพิ่มเติมได้ ที่นี่

จะเห็นว่ากรณีโดนรถชนแล้วหนี ผู้ที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะได้รับความคุ้มครองโดยไม่ต้องระบุตัวตนของคู่กรณีใด ๆ ส่วนประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะได้รับความคุ้มครองในกรณีนี้เช่นกัน แต่ต้องสามารถระบุตัวตนหรือเลขทะเบียนรถของคู่กรณีได้เท่านั้น แล้วสำหรับผู้ที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 3 หรือไม่ได้ทำประกันใดไว้เลย จะโดนชนฟรี เจ็บตัวฟรีใช่มั้ย คำตอบคือ ไม่ค่ะ เพราะยังมีหน่วยงานที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้ได้นั่นคือ กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย

โดนชนแล้วหนีไม่มีประกัน ต้องทำอย่างไร

ใช่ว่ารถทุกคันจะทำประกันรถยนต์ติดรถเอาไว้ เพราะคิดว่าไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นกับเรา หรือทำประกันรถยนต์แล้ว แต่กลับไม่คุ้มครองกรณีโดนชนแล้วหนี แบบนี้จะโดนชนฟรีหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ค่ะ เพราะยังมีหน่วยงานที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้ได้นั่นคือ กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ซึ่งตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 มีหน้าที่จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย ในกรณีที่ผู้ประสบภัยไม่ได้รับการชดใช้จากบริษัทประกันภัย หรือรถคันที่เกิดเหตุไม่ได้ทำประกันภัย พ.ร.บ.หรือไม่สามารถเรียกร้องได้ เช่น

1.รถที่ก่อเหตุไม่มีพ.ร.บ. ไม่มีประกัน หรือเจ้าของรถไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย

2.รถที่ก่อเหตุเป็นรถที่ถูกขโมยและได้มีการแจ้งความไว้แล้ว

3.รถที่ก่อเหตุ ไม่มีใครมาแสดงว่าเป็นเจ้าของรถ

4.กรณีถูกชนแล้วหนี

5.บริษัทประกันไม่จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้ผู้เอาประกัน

6.รถที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย เช่น รถยนต์หน่วยงานราชการ

เอกสารยื่นขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย

ในการร้องขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ให้ผู้ประสบภัยหรือทายาททำการยื่นขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นภายใน 180 วัน โดยสามารถเดินทางไปยื่นคำร้องขอรัยค่าเสียหายเบื้องต้นได้ที่ สำนักงานกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย สำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเขต พร้อมเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้

1.ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล

2.ใบรับรองแพทย์

3.สำเนาบัตรประชาชนของผู้ประสบภัย

4.สำเนาในมรณบัตร (กรณีเสียชีวิต)

5.สำเนาบัตรประชาชน+สำเนาทะเบียนบ้านของทายาท

6.สำเนาบันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อกองทุนฯได้จ่ายเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยแล้ว จะไล่เบี้ยเรียกค่าเสียหายเบื้องต้นคืนจากผู้กระทำผิดหรือเจ้าของรถผู้ประสบภัยต่อไป เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าการทำพ.ร.บ.รถยนต์มีความสำคัญต่อผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก อย่าปล่อยให้ขาดต่อพ.ร.บ.เพื่อจะได้รับการคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั่นเองค่ะ

กล้องหน้ารถยนต์ ช่วยค้นหาทะเบียนรถง่ายขึ้น

จากที่ได้กล่าวไปแล้วว่า การค้นหาทะเบียนรถ หาชื่อเจ้าของทะเบียนรถที่มาชนคุณ แม้ว่าคุณจะเป็นฝ่ายเสียหายแต่ก็ไม่สามารถค้นหาทะเบียนรถเพื่อทราบข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตัวเองได้ จำเป็นต้องทำเรื่องขอตรวจสอบประวัติทะเบียนรถ ที่กรมการขนส่ง โดยเตรียมเอกสารที่ได้แจ้งไว้พร้อมหลักฐานที่ถูกชน ซึ่งหากคุณมีกล้องติดหน้ารถเอาไว้อยู่ หลักฐานนี้ก็สามารถนำไปเป็นเหตุผลในการขอยื่นค้นหาทะเบียนรถ เพื่อหาเจ้าของรถที่กระทำผิดมารับผิดชอบตามกฎหมายได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งบริการรับเช็คประวัติทะเบียนรถ แอพเช็คทะเบียนรถ ซึ่งเป็นการทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นอกจากจะประกอบเป็นหลักฐานในการเช็คประวัติทะเบียนรถเพื่อหาเจ้าของรถคันที่กระทำผิดแล้ว ยังเป็นหลักฐานสำคัญสำหรับการเคลมประกันรถของผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์โดยเฉพาะชั้น 2+ ที่มีการคุ้มครองกรณีชนแล้วหนี แต่ต้องมีหลักฐานในการระบุตัวตนหรือเลขทะเบียนรถของคู่กรณีได้ ซึ่งวีดีโอคลิปจากกล้องหน้ารถยนต์ของคุณ จะเป็นหลักฐานสำคัญในการเคลมประกันภัยรถอีกด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้กล้องติดหน้ารถยนต์ก็มีราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับการเป็นหลักฐานสำคัญในกรณีโดนชนแล้วหนีแบบนี้แล้ว การติดกล้องหน้ารถสักตัว ก็ถือว่ามีประโยชน์และคุ้มค่ามากทีเดียวค่ะ

หากคุณเจอกรณีโดนรถชนแล้วหนี คุณยังพอมีทางออกในการตามหาผู้กระทำผิดได้ ด้วยการยื่นคำขอค้นหาทะเบียนรถที่กรมการขนส่งของจังหวัด เพื่อหาผู้กระทำผิดมารับผิดชอบได้ โดยเตรียมเอกสาร-หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าทำไมคุณจำเป็นต้องมายื่นคำร้องเพื่อเช็คประวัติเจ้าของรถจากทะเบียนรถ เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลส่วนตัว ที่เราไม่สามารถเดินเข้าไปขอได้เอง หากไม่มีหลักฐานประกอบแม้ว่าเราจะเป็นเจ้าทุกข์ก็ตาม อย่างน้อยกันไว้ดีกว่าแก้ด้วยการซื้อกล้องติดรถยนต์สักตัว ติดที่รถของคุณก็ช่วยให้คุณมีหลักฐานในการตามหาผู้กระทำผิดเพื่อมารับผิดชอบได้ รวมไปถึงเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ติดรถไว้ โดยเลือกที่คุ้มครอง ในกรณีชนแล้วหนี เพื่อความสบายใจในการใช้รถใช้ถนนด้วยค่ะ หากสนใจทำประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมกรณีโดนชนแล้วหนี สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ สอบถามได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้ค่ะ

Heng Call center : โทร 1361

คุยกับเจ้าหน้าที่ของเราแบบ real – time ได้ แถมยังสามารถ ปรึกษา สอบถามข้อมูล ได้ทันที ไม่ต้องรอนาน กดเลย

ทักแชทกับเจ้าหน้าที่ผ่าน FB:Hengleasing และ Line:@Hengleasing ของเรา แล้วรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่

สมัครสินเชื่อออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง คลิก