ใกล้ถึงเวลาที่ต้องตรวจสภาพรถประจำปีแล้ว หลายคนอาจจะมี ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. ใกล้บ้าน ซึ่งเป็นที่ประจำในการตรวจสภาพรถประจำปี รวมไปถึงฝากต่อภาษีและพ.ร.บ.ในที่เดียวกันเลย ซึ่งมีความสะดวก ง่าย แล้วทำไมเราตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำอีกด้วย

ค้นหา ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. ใกล้บ้าน

การตรวจสภาพรถประจำปี เป็นการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเสียภาษีรถยนต์ประจำปี ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 รถที่จะนำมาใช้ในการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับรถ ผู้โดยสารไปกับรถคันนั้น ผู้ขับขี่รถคันอื่น ๆ คนเดินถนน รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่าง ๆ โดยสามารถนำรถไปตรวจสภาพรถประจำปีที่ไหนได้บ้างนั้น ก็คือ ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. ใกล้บ้าน ที่ได้รับอนุญาตจากรมการขนส่งทางบกเท่านั้น แต่มีข้อยกเว้นสำหรับรถบางประเภท ที่ต้องไปตรวจสภาพรถที่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น ได้แก่ รถที่มีการดัดแปลงสภาพ รถที่ขาดต่ออายุทะเบียนเกิน 1 ปี

สำหรับการค้นหา ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. ใกล้บ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะเดี๋ยวนี้แค่คุณมีคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเลต และอินเตอร์เน็ต ก็สามารถค้นหาศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. ใกล้บ้านได้ง่าย ๆ เพียงแค่ค้นหาคำว่า ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. ใกล้บ้านในเว็บไซต์ Google จากนั้นระบบก็จะทำการค้นหาศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. ในบริเวณใกล้เคียงกับตำแหน่งของคุณ หากดูแล้วคุณใกล้กับศูนย์ตรวจสภาพรถตรอ. ใกล้บ้านสาขาไหน ก็สามารถกดให้ระบบนำทางคุณไปยังศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. ใกล้บ้านนั้น ๆ ได้เลย ซึ่งง่ายและสะดวกมาก

ทำไมต้องตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี

ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ได้มีบัญญัติว่า รถที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี โดยนับตั้งแต่วันจดทะเบียนครั้งแรก จนถึงวันสิ้นสุดอายุภาษีประจำปี เช่น หากรถเก๋งของคุณจดทะเบียนปี พ.ศ.2565 เมื่อครบ 7 ปี จะต้องเข้ารับตรวจสภาพรถปี พ.ศ.2572 ทั้งนี้การตรวจสภาพรถก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่น และสภาพแวดล้อมด้วย ซึ่งรถที่นำมาใช้บนท้องถนน ต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง โดยรถที่ต้องตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปีนั้น ได้แก่

1.รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป

2.รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป

3.รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป

4.รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้คุณสามารถนำรถไปตรวจสภาพรถล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนถึงวันสิ้นอายุภาษีประจำปี โดยนำเอกสารเข้าไปศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. หากผลการตรวจสภาพรถผ่าน สถานตรวจสภาพรถจะออกใบรับรองการตรวจสภาพรถตามแบบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด แต่หากพบว่ารถไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจสภาพ สถานตรวจสภาพจะแจ้งให้เจ้าของรถทราบ เพื่อนำรถไปแก้ไขข้อบกพร่องก่อน แล้วจึงนำรถมาตรวจสภาพรถใหม่ที่ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. เดิมอีกครั้งภายใน 15 วัน แต่จะเสียค่าตรวจสภาพในอัตราครึ่งหนึ่งของค่าบริการเดิม แต่หากเกิน 15 วัน หรือนำรถไปตรวจสภาพที่ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. อื่น จะเสียค่าบริการตรวจสภาพรถเต็มอัตราเหมือนเดิม

ตรวจสภาพรถใช้อะไรบ้าง

ทุกปีสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถทุกคนจะต้องมีการนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ของคุณไปต่อภาษี จะต้องนำรถของตนไปตรวจสภาพรถก่อนทำการเสียภาษีรถ รถที่จะนำไปตรวจสภาพจะต้องเป็นรถยนต์ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป แต่สำหรับคนที่เพิ่งมีรถอายุใช้งานครบตามที่กำหนด อาจจะสงสัยว่าจะ ตรวจสภาพรถใช้อะไรบ้าง  สำหรับการตรวจสภาพรถใช้อะไรบ้าง นั้นมีอยู่ 3 อย่างด้วยกัน

สิ่งที่ต้องเตรียมในการตรวจสภาพรถใช้อะไรบ้าง ได้แก่

1.สมุดทะเบียนรถ หรือสำหรับผู้ที่เอารถเข้าไฟแนนซ์อยู่ หรือรถที่กำลังผ่อนอยู่ จะไม่มีสมุดทะเบียนรถ ก็สามารถนำสำเนาทะเบียนรถใช้ในการตรวจสภาพรถได้

2.รถที่จะนำไปตรวจสภาพ

3.ค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพรถประจำปี โดยรถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 200 บาท รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 2,000 บาท กิโลกรัม คันละ 300 บาท

รถที่ไม่สามารถนำไปตรวจสภาพรถที่ ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ.

โดยปกติแล้ว หลายคนเลือกให้บริการตรอ.เพื่อตรวจสภาพรถและฝากต่อภาษี แต่มีรถบางลักษณะที่ต้องนำไปให้นายทะเบียนตรวจสภาพที่หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น คือรถที่ดัดแปลงสภาพผิดไปจากที่ได้จดทะเบียนไว้ ดังนี้

1.รถที่เปลี่ยนสี หรือเปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ในสมุดคู่มือทะเบียนรถ ยกตัวอย่างเช่น รถเคยยกเครื่องแล้วเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ใส่แทน เปลี่ยนลักษณะรถผิดไปจากเดิม เป็นต้น

2.รถที่ไม่สามารถตรวจสอบเลขตัวรถหรือเลขเครื่องยนต์ได้ ซึ่งอาจจะมีการแก้ไขเลข ขูด ลบ หรือไม่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้

3.รถที่เจ้าของแจ้งไม่ใช่รถชั่วคราว หรือไม่ใช้ตลอดไปไว้

4.รถเก่าที่มีเลขทะเบียนเป็นเลขทะเบียนรุ่นเก่า เช่น กท-00001,กทจ-0001 จึงต้องเปลี่ยนทะเบียนรถใหม่เมื่อนำมาเสียภาษีประจำปี

5.รถที่มีปัญหาเคยถูกขโมยแล้วได้คืน

6.รถที่ขาดต่อทะเบียนเกิน 1 ปี

ตรวจสภาพรถ ตรวจอะไรบ้าง

การตรวจสภาพรถเบื้องต้น จะต้องมีการตรวจสอบให้ตรงกับข้อมูลในคู่มือจดทะเบียนรถของรถคันนั้น และตรวจสอบตัวรถดังนี้

1.ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลรถ เช่น แผ่นป้ายทะเบียนรถ ลักษณะรถ หมายเลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์

2.ตรวจสภาพของตัวรถ ตัวถัง สี อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยว่าพร้อมใช้งานมากน้อยเพียงใด เช่น  พวงมาลัย ที่ปัดน้ำฝน เป็นต้น

3.ตรวจสอบการทำงานของระบบบังคับเลี้ยว ระบบเบรก ว่าสามารถงานได้ปกติหรือไม่

4.ทดสอบการทำงานและประสิทธิภาพของระบบเบรกทุกชิ้น ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

5.ตรวจสอบวัดโคมไฟหน้า ทิศทางการเบี่ยงเบนของแสง และวัดค่าความเข้มของแสง

6.ตรวจสอบวัดค่า CO ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ HC ก๊าซไฮโดรคาร์บอน สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง

7.การตรวจวัดเสียงรถต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล

8.รถยนต์เครื่องดีเซล ต้องตรวจควันดำ ระบบการกรองต้องไม่เกินร้อยละ 50 และระบบความทึบแสงต้องไม่เกินร้อยละ 45

9.รถยนต์ที่ติดแก๊ส ต้องมีการตรวจ ทดสอบ เช็คตามข้อ ตลอดจนท่อและอุปกรณ์แก๊สทั้งระบบว่าสมบูรณ์พร้อมใช้งานหรือไม่ โดยถังแก๊สต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปี แต่หากถังแก๊สมีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี จะต้องตรวจสอบ พิจารณาความพร้อมของอุปกรณ์ติดตั้งว่ายังสมบูรณ์พร้อมใช้งานต่อได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากตรวจสอบแล้วจะมีการออกใบรับรองเพื่อยืดอายุการใช้งานต่อได้อีก 5 ปีตามกฎหมาย

ตรวจสภาพรถแล้ว อย่าลืมซื้อพ.ร.บ.ก่อนต่อภาษี

หลังจากที่ตรวจสภาพรถเรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยก่อนที่จะต่อภาษีรถคือ การซื้อพ.ร.บ.เพื่อเป็นการทำประกันภัยให้แก้ผู้ประสบภัยจากรถในกรณีที่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุ โดยคุ้มครองทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณีหรือบุคคลภายนอก หากไม่ต่อพ.ร.บ.ก็จะไม่สามารถต่อภาษีรถได้ จึงจำเป็นจะต้องซื้อพ.ร.บ.ทุกปี โดยจะได้รับความคุ้มครองเป็นค่าเสียหายเบื้องต้น และค่าสินไหมทดแทนดังนี้

ค่ารักษาพยาบาลตามจริงคนละไม่เกิน 80,000 บาท

ค่าสินไหมทดแทน กรณี สูญเสียอวัยวะ*/ทุพพลภาพอย่างถาวรหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูงสุดคนละ 500,000 บาท  

ค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิต สูงสุดคนละ 500,000 บาท

เงินชดเชยกรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในสถานพยาบาล วันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน

หมายเหตุ *กรณีสูญเสียอวัยวะ เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

พ.ร.บ.จะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถที่ได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่บริษัท พ.ร.บ.ได้รับคำร้องขอ โดยไม่รอการพิสูจน์ความรับผิด ดังนี้

ค่ารักษาพยาบาลตามจริง คนละไม่เกิน 30,000 บาท

ค่าเสียหายเบื้องต้น กรณีผู้ประสบภัยสูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพอย่างถาวร   คนละไม่เกิน 35,000 บาท

ค่าปลงศพ ไม่เกิน 35,000 บาท

หากเกิดความเสียหาย หลายกรณีรวมกัน จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นรวมกันแล้วไม่เกินคนละ 65,000 บาท

หมายเหตุ :กรณี ผู้ประสบภัยเป็นผู้ขับขี่รถคันที่เอาประกัน  จะได้รับความคุ้มครองไม่เกินค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น

หลังจากที่ซื้อพ.ร.บ.เรียบร้อยแล้วก็สามารถต่อภาษีรถได้ โดยสามารถศึกษาขั้นตอนการต่อภาษีเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก (link ไปที่บทความ ต่อภาษีรถยนต์ )

การนำรถไปตรวจสภาพที่ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. ใกล้บ้าน เป็นเรื่องที่สะดวกสำหรับใครหลายคน เพราะศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ. ส่วนใหญ่อยู่ใกล้บ้าน ทำให้การนำรถไปตรวจสภาพทำได้ง่าย และยังสามารถฝากต่อภาษีและพ.ร.บ.ในคราวเดียวกันได้ด้วย  ทั้งนี้การที่กฎหมายบังคับให้ผู้ขับขี่รถต้องนำรถไปตรวจสภาพรถประจำปี ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับรถ ผู้โดยสารไปกับรถคันนั้น ผู้ขับขี่รถคันอื่น ๆ คนเดินถนน รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่าง ๆ หรือสำหรับที่นำรถมาตรวจสภาพก่อนโอนรถสามารถศึกษาการโอนรถเพิ่มเติมได้ที่นี่ นอกจากนี้เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถ เลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะกับคุณและรถ ซื้อง่าย ผ่อนสบาย ไม่มีดอกเบี้ย นาน 12 งวด* เติมความมั่นใจให้กับทุกการขับขี่ของคุณ เลือกแผนประกันภัยรถยนต์ได้ที่นี่ หรือสอบถามได้ตามช่องทางนี้เลยค่ะ