จอดรถหน้าบ้านคนอื่น ขวางทางเข้าออก ผิดกฎหมายจริงหรือไม่?

เนื้อหาของบทความ

ข่าวจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น เป็นหนึ่งในปัญหาโลกแตกระหว่างเจ้าของบ้านกับเพื่อนบ้าน แก้ไขด้วยการติดป้ายห้ามจอดขวางหน้าบ้านก็แล้ว เดินไปเรียกให้ย้ายรถก็แล้ว ปัญหานี้ก็ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข และยังสร้างความหงุดหงิดใจ และเสียเวลาให้กับเจ้าของบ้านไม่น้อย แล้วการจอดรถหน้าบ้านคนอื่นมีความผิดตามกฎหมาย ฟ้องร้องได้หรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ

จอดรถหน้าบ้านคนอื่น ผิดกฎหมายไหม?

การจอดรถหน้าบ้านคนอื่น เป็นปัญหาโลกแตกของหลายบ้าน ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่อาศัยในหมู่บ้าน หรือมีหน้าบ้านติดกับถนน ที่มักจะมีรถคันอื่นมาจอดขวางหน้าบ้านหรือจอดขวางประตูบ้าน จากเหตุการณ์จอดรถหน้าบ้านคนอื่นนี้ ทำให้แต่ละบ้านต้องติดป้ายห้ามจอดขวางทางเข้าออก เพื่อแก้ปัญหา แต่รู้หรือไม่ว่าการจอดรถหน้าบ้านคนอื่น มีความผิดตามกฎหมาย ไม่ใช่ใครก็สามารถจอดรถหน้าบ้านคนอื่นได้ แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าการจอดรถหน้าบ้านคนอื่นมีความผิด

1.ความผิดฐานก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้เสียหาย โดยเจ้าของบ้านที่ถูกคุณจอดรถขวางหน้าบ้านสามารถแจ้งความเอาผิดข้อกฎหมายอาญามาตรา 397 วรรคสอง ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ความผิดพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 55 ฐานที่จอดรถหรือหยุดรถเพื่อกีดขวางเส้นทางสัญจร ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

บางคนอาจจะเคยคิดว่าการจอดรถหน้าบ้านคนอื่นไม่มีความผิดตามกฎหมาย แต่ความจริงแล้วการจอดรถหน้าบ้านคนอื่น กลับมีความผิดตรามกฎหมายทั้งกฎหมายอาญาและพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2552 อีกด้วย นอกจากจะผิดกฎหมาย อีกสิ่งหนึ่งที่ตามมาคือการผิดใจกับเพื่อนบ้าน หรือปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้าน ในมุมมองของคนที่จอดรถหน้าบ้านคนอื่น อาจจะคิดเพียงว่า จอดแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ออกแล้ว หรือถ้าเจ้าของบ้านอยากจะเอารถออกค่อยเดินมาเรียกก็ได้ แต่ในมุมของเจ้าของบ้านที่ถูกจอดรถขวางหน้าบ้านนั้น ถือเป็นการถูกละเมิดสิทธิของเขา เพราะถูกปิดทางเข้าออกไม่สามารถนำรถออกไปไหนมาไหนได้ มิหนำซ้ำ หากเกิดเหตุฉุกเฉินภายในบ้าน และต้องรีบเดินทางออกจากบ้าน เช่น คนในบ้านได้รับบาดเจ็บ หรือป่วนกระทันหัน การที่มีรถจอดขวางหน้าบ้าน ขวางทางเข้าออก อาจะทำให้คนในบ้านไม่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลได้ทัน เพราะในสถานการณ์เช่นนี้เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตายได้เสมอ

จอดรถหน้าบ้านคนอื่น แจ้งใครได้บ้าง

เราจะเห็นว่าปัญหาการจอดรถหน้าบ้านคนอื่น เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ใครหลายคนทะเลาะเบาะแว้งถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาแล้ว ทั้งนี้หากคุณเจอปัญหารถคันอื่นจอดขวางหน้าบ้านเป็นประจำ เบื้องต้นจะต้องทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบานปลาย เรามาดูกันว่าเบื้องต้นจะหากพบปัญหาถูกจอดรถขวางหน้าบ้าน จะแจ้งใครได้บ้าง

1.แจ้งคู่กรณี

เชื่อว่าหลายบ้านที่มักประสบปัญหารถคันอื่นจอดรถขวางหน้าบ้าน มักจะแก้ปัญหาเบื้องต้นโดยการติดป้ายห้ามจอดรถขวางทางเข้าออกบ้าน แต่อาจจะไม่ค่อยได้ผลมากนัก หากเป็นบ้านใกล้เรือนเคียง อาจจำเป็นจะต้องคุยกับเพื่อนบ้าน เพื่อลดปัญหาการกระทบกระทั่ง และอีกฝ่ายอาจเกิดความเกรงใจเพราะเราเข้าไปพูดคุยด้วยความสุภาพนั่นเอง

2.แจ้งนิติบุคคล

หากบ้านของคุณเป็นหมู่บ้านจัดสรร และเกิดปัญหารถจอดขวางหน้าบ้านเป็นประจำ ควรจะนำเรื่องไปแจ้งกับนิติบุคคล เพื่อให้นิติบุคคลเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว

3.แจ้งตำรวจ

เมื่อถึงขั้นสุด บอกก็แล้ว ติดป้ายก็แล้ว ยังไม่ได้รับการแก้ไข ก็จำเป็นที่จะต้องแจ้งตำรวจ เพื่อเข้ามาช่วยจัดการในเรื่องนี้แทน เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าการจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นมีความผิดตามกฎหมาย

และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตักเตือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา อาจจะต้องถึงขั้นแจ้งความและฟ้องร้องศาล เพื่อเรียกค่าเสียหายตามกฎหมายต่อไป

จอดรถหน้าบ้านอื่น เสี่ยงถูกแก้เผ็ดได้

การแก้ปัญหาจอดรถขวางหน้าบ้าน ในแต่ละบ้านอาจมีหลายรูปแบบ แต่หลายบ้านอาจจะเริ่มต้นด้วยการติดป้ายห้ามจอดขวางทางเข้า-ออก การเดินออกมาบอก เดินไปเรียกเจ้าของรถ บางครั้งหากเกิดปัญหานี้ซ้ำซาก อาจทำให้เจ้าของบ้านหมดความอดทน แก้เผ็ดพวกที่ชอบจอดขวางหน้าบ้านด้วยการทำความเสียหายให้กับรถ เช่น ขูดรถจนเป็นรอย หักที่พับกระจก ซึ่งมักจะพบบ่อยครั้งกับพวกที่จอดรถข้างทางในที่ห้ามจอด หรือซอยแคบ ๆ หรือการถูกทุบกระจก เป็นต้น แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะมีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน แต่จุดเริ่มต้นของการแก้เผ็ดนี้ก็มาจากความเห็นแก่ตัวในการจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นนั่นเอง ทั้งนี้หากรถคุณทำประกันชั้น 1 ไว้ก็สามารถครอบคลุมในกรณีนี้ด้วย

แต่ทางที่ดีการจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น ถือเป็นความผิดตามกฎหมายทั้งกฎหมายอาญา และพ.ร.บ.จราจรทางบก และยังทำให้เกิดความบาดหมางกันระหว่างเพื่อนบ้าน เราควรเคารพสิทธิกัน เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

จอดรถหน้าบ้านตัวเอง มีความผิดตามกฎหมายหรือไม่

จากที่ได้กล่าวไปแล้วว่าการจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น มีความผิดตามกฎหมาย อาจมีคนสงสัยว่าถ้าจอดรถหน้าบ้านหรือข้างบ้านตัวเอง จะมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าก่อนว่า พื้นที่หน้าบ้านไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของเจ้าของบ้าน แต่เนื่องด้วยจากพื้นที่ติดกับตัวบ้าน จึงทำให้เจ้าของบ้านได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่นั้นก่อน แต่ในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่นั้นต้องไม่ผิดกฎหมาย ไม่กีดขวางทาง หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น นอกจากนี้สิทธิ์ที่เจ้าของบ้านจะได้เพิ่มเติมก็คือ ช่องประตูที่ขออนุญาตไว้เรียบร้อยแล้วว่าเป็นทางเข้าออก โดยจะถูกระบุไว้ว่าเป็นทางสัญจร ถือเป็นทางสัญจรสำหรับเจ้าของบ้านคนเดียว

บริเวณใดบ้างที่กฎหมายระบุให้ห้ามจอดรถ

การจอดรถขวางทางเข้าออกบ้านคนอื่น มีความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 55 โดยพื้นที่ที่ห้ามหยุดรถเพราะผิดกฎหมายมีดังนี้

หยุดรถในช่องเดินรถ (เว้นแต่ว่าจะจอดรถชิดทางซ้ายสุดของเลน และไม่มีช่องเดินรถประจำทาง)
หยุดรถบนทางเท้า หรือฟุตบาทคนเดินถนน
หยุดรถบนสะพาน หรือในอุโมงค์
หยุดรถในทางร่วมทางแยก
หยุดรถในเขตที่มีป้ายห้ามหยุดรถ
หยุดรถตรงปากทางเข้าออกของอาคาร หรือทางเดินรถ
หยุดรถในเขตปลอดภัย
หยุดรถหรือจอดรถในลักษณะที่กีดขวางทางจราจร

สรุปแล้วแม้ว่าเจ้าของบ้านจะมีสิทธิใช้พื้นที่ทางเข้าออกบ้านของตัวเองหรือพื้นที่ติดตัวบ้าน แต่ทั้งนี้ต้องไม่ผิดกฎหมาย ไม่กีดขวางทาง หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น เพราะอย่างไรแล้วพื้นที่นอกรั้วบ้านที่ติดกับบ้านยังคงเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับสัญจรไปมา เราควรเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่กระทบกระทั่งกัน และเกิดไม่เกิดปัญหาถึงขั้นฟ้องร้องกันเพราะเรื่องเล็กแค่นี้นั่นเองค่ะ

สรุปแล้วการจอดรถหน้าบ้านคนอื่น ขวางทางเข้าออกถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีโทษปรับ และที่สำคัญยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านไม่ดีมากนักอีกด้วย ทางที่ดีที่สุดคือ ควรจอดรถในบ้านของตัวเอง เพราะเราควรเคารพสิทธิในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น พยายามรักษาความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้าน จะได้ลดการกระทบกระทั่งกันที่อาจจะนำไปสู่การฟ้องร้องกันวุ่นวาย รวมไปถึงหากเกิดเหตุฉุกเฉินภายในบ้านหลังที่รถจอดขวางไว้ แล้วคนในบ้านหลังนั้นไม่สามารถออกจากบ้านได้ทันเวลา เพียงเพราะรถคันอื่นจอดขวางทางเข้าออก อาจจะทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าตามมาได้ เพราะฉะนั้นการจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น ไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ เราควรจะจอดรถในบ้านตัวเองจึงจะดีที่สุดค่ะ