วันนี้เราจะมาแนะนำทริกง่าย ๆ ที่จะเปลี่ยนวันที่เหนื่อยล้าให้เป็นวันที่พลังงานเต็มร้อย พร้อมรีดทุกขีดความสามารถให้ออกมาใช้ ทำให้ 24 ชั่วโมงของทุกวันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอนหลับดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
หลายสถาบันให้ความเห็นตรงกันว่า การนอน คือหัวใจสำคัญที่ทำให้การใช้ชีวิตมีประสิทธิภาพขั้นสุด แต่คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดคิดว่าการนอนที่ดี เท่ากับจำนวนชั่วโมงนอนในแต่ละวัน ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งสำคัญกว่าการนอนคือการนอนอย่างมีคุณภาพต่างหาก
วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าตัวเองนอนหลับอย่างมีคุณภาพหรือไม่ ให้ดูที่เวลาตื่นนอน ถ้ารู้สึกสดชื่นแจ่มใสโดยไม่ต้องเพิ่งนาฬิกา นั่นแปลว่ามาถูกทางแล้ว แต่ถ้าหากมีอาการสะลืมสะลือ ไม่ยอมลุกจากเตียงเรามีทริกง่าย ๆ มาแนะนำ ดังนี้
1.ง่วงให้รีบนอน อย่าต่อรองเวลาในการนอนของตัวเอง อีก 1 ชั่วโมงเพื่อดูซี่รีส์หรือละครทีวี เพราะมันจะเป็น 1 ชั่วโมงที่ทำให้คุณได้รับความสุขจากการเสพซี่รีส์ไม่เต็มที่ ดังนั้นหลับให้อิ่มแล้วตื่นให้เช้าเพื่อมารับอากาศตอนเช้าดีกว่า
2.งดกินอาหารก่อนนอน 4 ชั่วโมง รวมถึงงดดื่มกาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3.ตอนนอนอย่าวางสมาร์ทโฟนไว้ใกล้ตัว ลงทุนซื้อนาฬิกาปลุกมาใช้แทนโทรศัพท์ยังคุ้มกว่าซะอีก
ตื่นมาออกกำลังกายกันดีไหม
ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ควรทำ แน่นอนว่าการกำลังกายกายนั้นช่วยทำให้หุ่นกระชับ สมองดีขึ้น แถมยังงานวิจัยบอกว่าช่วยชะลอความแก่อีกด้วย แต่สิ่งที่ยากคือจะทำยังไงให้ตัวเองตื่นเช้ามาออกกำลังกายได้จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน วันนี้เรามีทริกง่าย ๆ มาให้คุณลองทำกันค่ะ
1.จัดเตรียมชุดออกกำลังกายเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนนอน
2.เชื่อมั่นในตัวเอง พาตัวเองลุกจากเตียงให้ได้ ก่อนที่ความขี้เกียจจะมาฉุดเราให้เอนตัวนอนต่อ
3.เริ่มต้นก้าวแรกให้สำเร็จ แล้วก้าวต่อไปก็จะตามมาเอง
สร้างนิสัยที่ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน
หลังจากวิ่งเสร็จ ขั้นตอนต่อไปเราต้องสร้างนิสัยที่ทำให้ร่างกายคุ้นเคย เช่น ถ้าราชอบดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาวทุกเช้า ร่างกายจะจดจำและคุ้นเคยกับมันจนกลายเป็นนิสัย
จัดลำดับความสำคัญของงานให้เป็น
สมองคนเรามีช่วงเวลาที่ทำงานได้ดีมากสุดไม่เกิน 4 ชั่วโมง หรือเรียกว่า Prime Time ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเช้า คำถามสำคัญคือคุณทำอะไรในช่วงเวลานั้น ถ้าบริหารมันได้ดี เท่ากับคุณสร้างกิจวัตรได้ถูกทางแล้ว แต่หากไม่คล่องตัวลองเริ่มต้นจาการเขียน To do list ของสิ่งที่ต้องทำออกมาอย่างละเอียด และพิจารณาว่าสิ่งไหนสำคัญที่สุด ให้ลงมือทำได้เลย
ใช้เวลากับคนรอบตัวให้มาก และให้มากกว่าใช้เวลากับสมาร์ทโฟน
แม้จะเหนื่อยกับงานที่ทำมาตลอดทั้งวันมากแค่ไหนและอยากใช้เวลาไปกับการเล่นโทรศัพท์หรือแม้กระทั่งดูซีรีส์ผ่านเน็ตฟลิกซ์แต่อย่าลืมว่าพ่อแม่เราแก่ไปทุกวัน เช่นเดียวกันคนที่มีครอบครัวที่ลูกก็ต้องโตขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง ควรแบ่งเวลาให้พวกเขาให้มากขึ้นอีกสักนิดหรือหากิจกรรมทำร่วมกันเพื่อสานสัมพันธ์กันในครอบครัว
