นอกจากปัญหารถสตาร์ทไม่ติด ที่อาจจะเคยกวนใจกับบรรดาผู้ใช้รถกันมาบ้างแล้ว  อีกหนึ่งจุดที่คุณควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับรถของคุณคือ ท่อไอเสีย ของรถ เพราะท่อไอเสียจุดหนึ่งที่บ่งบอกความผิดปกติของรถยนต์ได้อย่างชัดเจน วันนี้เราได้รวมอาการผิดปกติเกี่ยวกับท่อไอเสียที่คนใช้รถต้องรู้

ความสำคัญของ ท่อไอเสีย รถ

ท่อไอเสีย เป็นอุปกรณ์หนึ่งของเครื่องยนต์ที่เราสามารถสังเกตได้ง่ายที่สุด ท่อไอเสีย มีหน้าที่หลักในเรื่องของการเป็นทางเดินเพื่อระบายไอเสียออกจากเครื่องยนต์ ช่วยลดเสียงระเบิดให้น้อยลง และยังช่วยกรองมลพิษออกสู่ภายนอกน้อยลงผ่านแคทตาไลติก หรือตัวกรองไอเสีย โดยสิ่งที่เหลือจากการเผาไหม้นั้น จะออกมาเป็นควันจากท่อไอเสียรถนั่นเอง โดยสิ่งที่ออกมาจากท่อไอเสียรถ จะเดินทางตามส่วนประกอบของท่อไอเสียรถดังนี้

ส่วนประกอบของ ท่อไอเสีย

ท่อไอเสียรถที่เราเห็นยื่นออกมาจากท้ายรถ ไม่ได้มีแค่ปลายท่อที่เราเห็นกัน เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าท่อไอเสียรถ ทำหน้าที่ระบายไอเสียจากเครื่องยนต์ ทำให้ท่อไอเสียรถมความยาวพอ ๆ กับตัวรถ โดยส่วนประกอบของท่อไอเสียแบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้

1.ท่อรวมไอเสีย

ท่อรวมไอเสีย แบ่งออกเป็น  2 ประเภท ได้แก่ ท่อรวมไอเสียเฮดเดอร์ เป็นท่อไอเสียโดยมีท่อแยกแต่ละสูบแล้วค่อยรวมออกมาเป็นท่อเดียว เฮดเดอร์มีหน้าที่ระบายไอเสียออกจากเครื่องยนต์ ส่วนท่อรวมไอเสียแบบธรรมดา เป็นท่อไอเสียที่ติดมากับรถยนต์ส่วนใหญ่ ทำมาจากเหล็กหล่อขึ้นรูป

2.หม้อพักกลาง

หม้อพักกลางมีลักษณะไส้ตรงหรือตรงเกลียว ช่วยซับเสียงที่มาจากท่อรวมไอเสียและหม้อพักท้าย ไม่ให้ดังเข้าไปในภายในห้องโดยสาร

3.หม้อพักท้าย

หม้อพักท้าย เป็นส่วนสุดท้ายก่อนถึงปลายท่อที่เราเห็นกัน นอกจากจะซับเสียงไม่ต่างจากหม้อพักกลางแล้ว ยังมีการวางไส้ต่างกัน ได้แก่

3.1หม้อพักไส้ย้อน พบในรถยนต์ผลิตจากโรงงาน มีความเงียบที่สุด มีแรงอั้นสูงทำให้การออกตัวดีกว่า หรือรอบต้นจัด ใช้ได้ทั้ง 2 ระบบเกียร์

3.2 หม้อพักไส้เยื้อง มีความโล่งกว่าหม้อพักไส้ย้อน แรงอั้นน้อย ทำให้กำลังรอบต้นอืดแต่รอบปลายจัด ใช้ได้ทั้ง 2 ระบบเกียร์

3.3 หม้อพักไส้ตรง มีความโล่งที่สุด ไม่มีแรงอั้น เหมาะกับรถเกียร์ธรรมดาหรือรถที่มีระบบเทอร์โบ

เพื่อช่วยสร้างแรงอั้นให้เหมาะกับรถยนต์แต่ละขนาดเครื่องยนต์และระบบเกียร์

โดยสิ่งเหลือจากการเผาไหม้แล้วออกมาเป็นควันจากท่อไอเสีย ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ CO2, คาร์บอนมอนอกไซด์ CO,ไนโตรเจนไดออกไซด์ NO2, ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ SO2,ฟอสฟอรัส P และโลหะหนักต่าง ๆ ซึ่งหากมีการสูดดมจะมีผลต่อทางเดินหายใจ ปวดศีรษะ เซื่องซึม หายใจติด หรือหมดสติไม่รู้ตัว

อาการใดบ้างที่บ่งบอกว่าท่อไอเสียมีปัญหา?

ท่อไอเสีย เป็นจุดหนึ่งที่สามารถบ่งบอกสัญญาณผิดปกติของเครื่องยนต์ได้ เพราะฉะนั้นผู้ใช้รถควรจะทำความเข้าใจและรู้จักสัญญาณความผิดปกติที่มาจากท่อไอเสียรถ ซึ่งมีหลายอาการด้วยกัน วันนี้เราจะมาดูกันว่าอาการใดบ้างที่บ่งบอกว่าท่อไอเสียมีปัญหาอาจเสี่ยงเครื่องยนต์พังได้

ท่อไอเสียรั่ว

หากท่อไอเสียรั่วจะมีการแสดงอาการออกมาเช่น รถอืด เหยียบคันเร่งแล้วรถไม่พุ่งเหมือนเดิม เสียงเครื่องยนต์ดังผิดปกติ หรือ มีกลิ่นควันรถหรือได้กลิ่นเหม็นไหม้เข้ามาห้องโดยสาร

เสียงเครื่องยนต์ผิดปกติ

เสียงเครื่องยนต์ผิดปกติ เป็นสัญญาณหนึ่งที่กำลังบอกคุณว่าท่อไอเสียรถยนต์กำลังเกิดความผิดปกติ หากคุณได้ยินดังแปลก ๆ  แบบที่ไม่เคยดิ้นมาก่อน หรือคุณต้องเร่งเสียงเพลงให้ดังกว่าปกติเพื่อกลบเสียงเครื่องยนต์  

คันเร่งสั่นสะท้าน

หากคันเร่งของคุณมีอาการสั่นสะท้านผิดปกติจากเดิม แสดงว่าอาจมีท่อไอเสียรั่ว หากรอยรั่วมีขนาดใหญ่จะมีเสียงดังก้องตอนติดเครื่อง ให้นำรถไปอู่ซ่อมรถทันที

รถอืด เร่งไม่ค่อยขึ้น

หากรถยนต์มีอาการเร่งไม่ค่อยขึ้น เหยียบคันเร่งแล้วรถไม่ค่อยพุ่ง หรือรถกินน้ำมันมากกว่าปกติแต่ใช้รถด้วยความเร็วและระยะทางเดิม แสดงว่าท่อไอเสียรถกำลังมีปัญหา

ท่อไอเสียผุเป็นสนิม

ลองก้มไปดูท่อไอเสียรถหรือลองใช้แม่แรงยกรถขึ้น สังเกตที่ท่อไอเสียรถดูว่ามีสนิม รอยแตก หรือรูหรือไม่ ถ้าหากท่อไอเสียเริ่มมีสภาพผิดปกติตามที่ได้กล่าวมา ควรจะเปลี่ยนท่อไอเสียรถใหม่

อุณหภูมิรถยนต์สูง

ในขณะที่คุณขับรถ ลองสังเกตที่อุณหภูมิของรถดูว่าหากอุณหภูมิความร้อนสูงขึ้นกว่าปกติ สามารถสันนิษฐานได้ว่าท่อไอเสียรถอาจเกิดความเสียหาย ต้องนำรถไปอู่ซ่อมรถเพื่อแก้ไขปัญหา

รถควันขาว รถควันดำ เกิดจากสาเหตุใด

เคยสังเกตหรือไม่ว่า ควันฟุ้งที่ออกมาจากปลายท่อไอเสียรถแต่ละคันมีลักษณะแตกต่างกัน สำหรับรถรุ่นใหม่อาจจะพบปัญหานี้ได้น้อยมาก แต่สำหรับรถปีเก่าหรือรถที่มีการใช้งานมานาน อาจจะกำลังประสบปัญหามีควันฟุ้งออกมาจากท่อไอเสีย บ้างก็มีรถควันขาว หรือรถควันดำ ซึ่งถือสัญญาณที่คุณต้องเตรียมนำรถไปอู่ซ่อมรถได้แล้ว

รถควันขาว เกิดจากอะไร?

หากรถของคุณมีปัญหาควันขาว เกิดจากความผิดปกติของเครื่องยนต์ทำให้การเผาไหม้ที่ไม่หมดจด ชิ้นส่วนภายในสึกหรอจนปล่อยให้น้ำมันเครื่องหลุดเขาไปในขั้นตอนการจุดระเบิด เมื่อเผาไหม้ไม่หมดแล้วจึงกลายเป็นควันขาว โดยชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพที่ทำให้รถควันขาว ได้แก่

1.วาล์ว เป็นตัวกำหนดจังหวะการจุดระเบิด หากมีปัญหาในจุดนี้จะเรียกว่า อาการวาล์วยัน แก้ปัญหาโดยการเปิดฝาสูบตั้งวาล์วใหม่

2.เครื่องยนต์หลวม เกิดจากการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนในหลายจุด

3.ฝาสูบโก่ง เกิดจากเครื่องยนต์ร้อนเกินไปจนทำให้ฝาสูบโก่ง โดยสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปนั้น มาจากการที่ระบบหล่อเย็นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

รถควันดำ เกิดจากอะไร?

เรามักจะพบปัญหารถควันดำในรถกระบะ รถบรรทุก หรือรถโดยสาร เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ดีเซล  ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่

1.ระบบ EGR (Exhaust Gas Recirculation) มีปัญหาไม่สามารถดูดไอเสียวนกลับมาใช้ใหม่หมด

2.เครื่องยนต์หลวม

3.ปัญหาระบบจ่ายน้ำมัน

4.น้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้มาตรฐาน

เบื้องต้นหากไม่อยากให้รถของคุณเจอปัญหารถควันขาวหรือรถควันดำ ผู้ใช้รถจะต้องหมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด หมั่นเช็คระดับน้ำมันเครื่อง หมั่นสังเกตอุณหภูมิเครื่องยนต์ขณะขับขี่ และหมั่นตรวจเช็คน้ำในหม้อน้ำให้อยู่ตามระดับที่กำหนด แต่หากเกิดปัญหาเหล่านี้แล้ว จำเป็นจะต้องมีการเปิดฝาสูบ เพื่อเช็คว่าชิ้นส่วนไหนในเครื่องยนต์มีปัญหาบ้างโดยช่างซ่อมรถที่ชำนาญต่อไป  

ควันจากท่อไอเสีย ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร?

ควันจากท่อไอเสียรถ ประกอบไปด้วยได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ CO2, คาร์บอนมอนอกไซด์ CO,ไนโตรเจนไดออกไซด์ NO2, ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ SO2,ฟอสฟอรัส P  โลหะหนัก รวมไปถึงเขม่าควันที่ประกอบไปด้วย ผงคาร์บอน สารประกอบของตะกั่ว สารจำพวกฟีนอลส์ น้ำมันรถยนต์ สารอินทรีย์จำพวกไนโตร ยางเหนียว เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นมลภาวะทางอากาศเป็นพิษแล้ว ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพหากมีการสูดดมเข้าไป โดยอาการที่เรามักพบได้แก่

1.เกิดอาการอ่อนเพลีย

2.ปวดศีรษะ เซื่องซึม

3.สั่นกระตุก

4.หายใจติดขัด

5.หมดสติโดยไม่รู้ตัว

ทั้งนี้หากผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางไกล สามารถป้องกันตัวเองได้ โดยการพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนออกเดินทาง เพื่อลดอาการอ่อนเพลียที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทาง สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องเข้าไปในที่เสี่ยงควันรถเพื่อลดการสูดดมควันจากท่อไอเสียรถและมลภาวะอื่น ๆ ได้

ท่อไอเสีย เป็นจุดหนึ่งที่ผู้ใช้รถสามารถสังเกตความผิดปกติของเครื่องยนต์ได้ นอกจากนี้ท่อไอเสียรถยังช่วยเพิ่มกำลังให้กับเครื่องยนต์อีกด้วย จึงทำให้เราเห็นว่าหลายคนที่ชอบความเร็วหรือชอบแต่งรถมักจะใส่ท่อแต่ง เพื่อให้รถแรงขึ้นและมีเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไม่ควรเกิน 95 เดซิเบล สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ รวมกฎหมายจราจรที่ควรรู้ เพื่อไม่ให้เกินกฎหมายกำหนดและไม่เป็นการรบกวน หรือสร้างความรำคาญแก่ให้ผู้อื่นนั่นเอง ทั้งนี้หากพบว่าเกิดความผิดปกติใดตามที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น คุณควรรีบนำรถไปรับการตรวจเช็คกับอู่ซ่อมรถที่คุณไว้ใจค่ะ หากคุณต้องการเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถ แนะนำประกันรถยนต์ผ่อน 0% มีให้เลือกหลากหลายแผน ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน ผ่อนง่ายสบายกระเป๋า สูงสุด 12 งวด* เพื่อให้ทุกเส้นทางที่คุณเดินทางมีความปลอดภัย และอุ่นใจ ไร้กังวล เลือกแผนประกันรถยนต์ก่อนตัดสินใจซื้อ คลิกที่นี่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร.1361