การทำประกันภัยบ้าน หรือประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราไม่น้อย หลายคนทำประกันภัยบ้านเพราะถูกบังคับให้ทำจากการกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร แต่สำหรับบ้านที่ปลอดภาระ จะทำประกันภัยบ้านหรือไม่ทำนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเจ้าของบ้าน ทั้งนี้การทำประกันภัยบ้านดีกว่าที่คุณคิดอย่างไร บทความนี้มีคำแนะนำมาฝากค่ะ

ประกันภัยบ้าน คุ้มครองอะไรบ้าง?

บ้าน คือ สถานที่ที่ปลอดภัยมากที่สุดสำหรับเรา ทั้งนี้การทำประกันภัยบ้าน หรือประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการทำประกันภัยบ้านเท่ากับว่าบ้านของคุณจะได้รับการคุ้มครองหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ประกันภัยบ้าน ไม่เพียงแต่คุ้มครองในเรื่องของไฟไหม้เท่านั้น แต่ประกันภัยบ้านยังคุ้มครองภัยธรรมชาติที่อาจสร้างความเสียหายให้กับบ้านได้เช่นกัน สำหรับประกันภัยบ้าน ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ให้ความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้าง (ไม่รวมฐานราก) ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย เช่น บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด ตึกแถวสำหรับอยู่อาศัย ห้องชุดสำหรับอยู่อาศัยในแฟลต อาคารชุด คอนโดมิเนียม และทรัพย์สิน ภายในสิ่งปลูกสร้างนั้น เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่ง สิ่งติดตั้งตรึงตรา เครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เครื่องดนตรี เครื่องเสียง เครื่องครัว เครื่องนุ่งห่ม และทรัพย์สินอื่น ๆ เพื่อการอยู่อาศัยของผู้เอาประกันภัย ทั้งนี้ความคุ้มครองของประกันภัยบ้าน โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

  1. ประกันอัคคีภัย คุ้มครองเหตุไฟไหม้ที่เกิดจากภัยธรรมชาติ และทั้งเหตุสุดวิสัยจากมนุษย์
  2. ประกันภัยพิบัติ ได้แก่ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ลมพายุ หรือภัยพิบัติอื่น
  3. ประกันภัยคุ้มครองการโจรกรรม (กฎหมายไม่บังคับ)

เราจะเห็นว่าประกันภัยบ้าน ไม่เพียงแต่คุ้มครองบ้านของคุณในกรณีไฟไหม้เท่านั้น แต่ยังให้ความคุ้มครองภัยที่เกิดจากภัยพิบัติและที่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้ คือประกันภัยบ้านประเภทคุ้มครองการโจรกรรม สามารถจำแนกความคุ้มครองพื้นฐานของประกันภัยบ้านได้ดังนี้

1.ไฟไหม้ แต่ไม่รวมถึงความเสียหาย

1.1จากแรงระเบิด อันเป็นผลมาจากไฟไหม้ เว้นแต่แรงระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย

1.2 โดยตรงหรือโดยอ้อมจากแผ่นดินไหว

1.3 ต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัย อันเกิดจาก

1.3.1 การบูดเน่าหรือการระอุตามธรรมชาติ หรือ การลุกไหม้ขึ้นเองเฉพาะที่เกิดจากตัวทรัพย์สินนั้นเองเท่านั้น หรือ

1.3.2 การที่ทรัพย์สินนั้นอยู่ในระหว่างกรรมวิธีใด ๆ ซึ่งใช้ความร้อนหรือการทำให้แห้ง

2.ฟ้าผ่า

3.แรงระเบิดของแก๊ส ที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ไม่รวมถึงความเสียหายจากการระเบิดของแก๊สจากแผ่นดินไหว

4.ความเสียหายเนื่องจากภัยเพิ่มพิเศษ ที่ได้ระบุไว้ชัดเจนในกรมธรรม์ประกันภัย

เราจะเห็นว่าประกันภัยบ้าน ไม่ได้คุ้มครองเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านเท่านั้น แต่ยังให้ความคุ้มครองภัยอื่นที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่บ้านของเราด้วย เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่กู้ซื้อบ้านกับธนาคาร ธนาคารจะมีการบังคับให้ผู้กู้ทำประกันภัยบ้านไปด้วยซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งผู้กู้และธนาคารนั่นเอง แต่สำหรับบ้านที่ปลอดภาระแม้ว่าจะไม่มีการบังคับให้ทำประกันอัคคีภัยก็ตาม แต่การทำประกันอัคคีภัยไว้ก็เป็นสิ่งที่ดีไม่น้อย เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันซึ่งเราเห็นเป็นข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้บ้านขึ้นมา เห็นความเสียหายที่ไม่มีวันได้คืน เปรียบกับสำนวนที่ว่า “โจรปล้นสิบครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” เพราะไฟไหม้บ้านครั้งเดียวกลับทำให้เจ้าของบ้านแทบจะสูญเสียทรัพย์สินหมดทุกอย่าง อย่างน้อยหากทำประกันอัคคีภัยนี้ ก็ยังช่วยคุ้มครองและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากไฟไหม้บ้านได้  แนะนำประกันอัคคีภัยบ้านอุ่นใจกับบมจ.วิริยะประกันภัยที่เฮงลิสซิ่ง ทางเลือกใหม่ประกันภัยบ้าน 6 คุ้ม เพียง 500 บาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท*

ประกันภัยบ้าน จำเป็นต้องทำหรือไม่

ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนเรามักจะเห็นข่าวไฟไหมบ้านเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรบ้าง ความประมาทจากคนในบ้านที่จุดธูปเทียนบูชาพระ หรือหุงหาอาหารทิ้งไว้โดยไม่มีอยู่เฝ้าจนทำให้เกิดไฟไหม้บ้าน เป็นต้น จากสาเหตุเล็ก ๆ นำมาซึ่งความเสียหายอันใหญ่หลวงต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ดังสุภาษิตที่ว่า “โจรขึ้นบ้านสิบครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” เพราะไฟไหม้ครั้งเดียวเจ้าของบ้านแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีทั้งบ้าน ไม่มีทรัพย์สินมีค่าติดตัวใด ๆ เลย จึงทำให้การทำประกันภัยบ้าน จะช่วยคุ้มครองจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกบ้านอย่างไม่คาดฝัน ส่วนคำถามที่ว่าประกันภัยบ้าน จำเป็นต้องทำหรือไม่นั้น เราจะขอแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ คนที่กู้ซื้อบ้าน กับ บ้านที่ปลอดภาระหรือบ้านที่ซื้อเงินสด 

คนที่กู้ซื้อบ้าน จำเป็นต้องทำประกันภัยบ้าน

หากคุณเป็นคนที่กู้ซื้อบ้านกับธนาคาร กฎหมายจะบังคับให้ผู้กู้ทำประกันภัยบ้านเสมอ จนกว่าจะผ่อนบ้านหมดตามสัญญา เพราะประกันภัยบ้าน เป็นประกันภาคบังคับตามระเบียบผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องมีเพื่อรองรับความเสี่ยงแก่สถาบันการเงินต่าง ๆ ที่ปล่อยกู้สินเชื่อบ้านให้แก่เรา โดยระยะเวลาประกันภัยบ้านจะมีทั้งคราวละ 2-3 ปี หรือระยะยาว 5 ปีขึ้นไปก็มี และต้องต่อประกันภัยบ้านจนกว่าจะผ่อนบ้านหมด ส่วนข้อดีสำหรับผู้กู้แล้วการทำประกันภัยบ้าน ช่วยรองรับความเสี่ยงและเพิ่มความคุ้มครองหากเกิดเหตุไฟไหม้และเหตุภัยพิบัติอื่น อย่างน้อยหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา คุณจะมีเงินก้อนหนึ่งติดตัว ไม่หมดตัวไปสักทีเดียว

คนที่ซื้อบ้านด้วยเงินสดทำได้ตามความสมัครใจ

หากคุณซื้อบ้านด้วยเงินสด หรือบ้านปลอดภาระ กฎหมายไม่ได้บังคับให้ซื้อประกันภัยบ้าน แต่หากทำประกันภัยบ้านไว้จะเป็นผลดีกับเจ้าของบ้าน เพราะเหตุการณ์ไฟไหม้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกบ้าน หรืออาจจะมีไฟลุกลามมาจากละแวกบ้านของคุณได้เช่นเดียวกัน เราจึงอยากแนะนำให้ทำประกันภัยบ้านเอาไว้ เพื่อความอุ่นใจ อย่างน้อยจะมีเงินสินไหมทดแทนจากการทำประกันภัยบ้านที่พอจะช่วยบรรเทาความเสียหายและมีเงินก้อนเพื่อต่อลมหายใจไม่สิ้นเนื้อประดาตัวไปสักทีเดียวได้

เบี้ยประกันภัยบ้าน ต้องจ่ายเท่าไหร่

ในแต่ละบริษัทนั้นจะมีเบี้ยประกันภัยบ้านที่แตกต่างกัน โดยเบี้ยประกันต่อปีจะคิดประมาณ 0.1% จากทุนประกัน แต่เบี้ยประกันภัยบ้านจะถูกลงเมื่อซื้อประกันครอบคลุมต่อเนื่อง 2-3 ปี แต่ถ้าหากผู้ซื้อประกันต้องการความคุ้มครองความเสียหายอื่นเพิ่มเติม เช่น การโจรกรรม หรือ น้ำท่วม ก็จะทำให้เบี้ยประกันภัยบ้านเพิ่มสูงขึ้นทั้งนี้ก็แลกกับความคุ้มครองที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยสำหรับผู้ที่กู้ซื้อบ้าน ธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อให้เราจะเสนอประกันภัยบ้านให้เอง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือหรือพันธมิตรของธนาคารนั้น ทั้งนี้ผู้กู้ควรเลือกทุนประกันที่ให้ความคุ้มครองไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าบ้าน เช่น บ้านราคา 4 ล้าน ควรเลือกทุนประกันอย่างน้อย 2.8 ล้านบาท เพราะหากเกิดความเสียหายผู้ทำประกันจะได้สินไหมทดแทนเต็ม 100% จากมูลค่าความเสียหายที่ไม่เกินทุนประกัน แต่หากเลือกทุนประกันต่ำกว่านั้น สินไหมทดแทนจะลดลงตามสัดส่วนของทุนประกันด้วยนั่นเอง โดยข้อสังเกตของการคำนวณเบี้ยประกันภัยบ้านมีดังนี้

1.ราคาเบี้ยประกันจะสัมพันธ์ไปกับมูลค่าของบ้าน ระยะเวลา และความคุ้มครอง เสมอ ยิ่งบ้านราคาแพง ค่าเบี้ยประกันภัยก็อาจจะสูง และหากซื้อแบบระยะยาว เบี้ยจะยิ่งแพงขึ้นแต่เมื่อหารเฉลี่ยแล้วจะถูกกว่าแผนประกันแบบปีต่อปี และยิ่งถ้าให้คุ้มครองเต็ม 100% เวลาที่เกิดเหตุไม่คาดฝันเจ้าของบ้านไม่ต้องจ่ายค่าความเสียหายใด เพราะประกันจะรับผิดชอบให้หมด

2.ประกันอัคคีภัยจะคุ้มครองมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น สูงสุดไม่เกิน  100% ของมูลค่าที่อยู่อาศัย และเบี้ยประกันภัยบ้านควรสัมพันธ์ไปกับมูลค่าของบ้านและทรัพย์สิน ไม่น้อยกว่า 70%

3.เบี้ยประกันภัยบ้านที่เหมาะสม จะอยู่ที่ประมาณ 0.1% ต่อปีของทุนประกันหรืออยู่ที่ล้านละ 1,000 บาท ตัวอย่างบ้านกับมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ ราคา 4,500,000 บาท ทุนประกันที่ควรจ่ายอยู่ที่ 0.1% ต่อปี หรือ ล้านละ 1,000 บาท หรือ 4,500 บาทต่อปี และยิ่งหากซื้อแผนระยะยาว เบี้ยประกันเฉลี่ยต่อปีจะจ่ายถูกกว่าแบบซื้อปีต่อปีอีกด้วย

ประกันอัคคีภัยบ้านอุ่นใจ กับ บมจ. วิริยะประกันภัย ที่เฮงลิสซิ่ง

ทางเลือกใหม่ประกันภัยบ้าน 6 คุ้ม เพียง 500 บาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 500,000 บาท*

แผนที่ 01 บ้านคอนกรีต จ่ายจริงไม่เกินทุนประกันภัย 500,000 บาท

แผนที่ 02 บ้านกึ่งคอนกรีตกึ่งไม้ จ่ายจริงไม่เกินทุนประกันภัย 200,000 บาท

แผนที่ 03 บ้านไม้ล้วน จ่ายจริงไม่เกินทุนประกันภัย 100,000 บาท

โดยให้ความคุ้มครองดังนี้

1.1 ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด 100,000-500,000 บาท

1.2 ภัยจากลมพายุ ภัยจากน้ำท่วม ภัยจากแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดหรือคลื่นใต้น้ำ หรือสึนามิ ภัยจากลูกเห็บ ทุกภัยรวมกันแล้วไม่เกิน 10,000 บาทต่อปี

1.3 ค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราว 300 บาท / วัน (ไม่เกิน 30 วัน)

สามารถซื้อได้ที่เฮงลิสซิ่งทุกสาขา สามารถรอรับกรมธรรม์ได้เลย

การทำประกันภัยบ้าน หรือการทำประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ไม่ได้เพียงแต่คุ้มครองแค่เรื่องของไฟไหม้เท่านั้น แต่ยังให้ความคุ้มครองไปถึงเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้กู้ซื้อบ้านไม่สามารถปฏิเสธการทำประกันภัยบ้านได้ ส่วนผู้ที่มีบ้านปลอดภาระหรือซื้อบ้านด้วยเงินสด แม้ว่ากฎหมายจะไม่ได้บังคับให้มีการทำประกันภัยบ้าน แต่การทำประกันภัยบ้านจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับเจ้าของบ้าน ช่วยคุ้มครองและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากไฟไหม้บ้าน และเหตุภัยพิบัติธรรมชาติ อย่างน้อยยังมีเงินสินไหมทดแทนช่วยคุณหลังจากเกิดเหตุไม่คาดฝันนี้ได้ แนะนำประกันอัคคีภัยบ้านอุ่นใจกับบมจ.วิริยะประกันภัยที่เฮงลิสซิ่ง ทางเลือกใหม่ประกันภัยบ้าน 6 คุ้ม เพียง 500 บาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท* สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก