ถ้าในวันที่รีบเร่งหรือกำลังจะเดินทางไปไหนสักแห่ง แต่ รถสตาร์ทไม่ติด นอกจากจะต้องเสียเวลา เสียอารมณ์แล้ว อาจจะมีแววว่าคุณจะได้เสียเงินซ่อมอะไรบางอย่างที่เป็นสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดจะมีอะไรบ้างนั้น เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ

สาเหตุที่ทำให้ รถสตาร์ทไม่ติด

เชื่อว่าปัญหา รถสตาร์ทไม่ติด เป็นปัญหาหนึ่งที่สร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของรถหลายคนมาแล้ว นอกจากจะต้องเสียเวลา เสียอารมณ์แล้ว อาจจะมีแววว่าคุณจะได้เสียเงินซ่อมอะไรบางอย่างที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ รถสตาร์ทไม่ติดอีกด้วย ยิ่งถ้าหากรถสตาร์ทไม่ติดในวันสำคัญ วันรีบเร่ง หรือวันที่มีแผนเดินทางจะไปที่ไหนสักแห่ง ทำให้แผนที่วางเอาไว้อาจจะต้องล่มไปด้วย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดมีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะน้ำมันรถหมด แบตเตอรี่เสื่อม ขั้วแบตเตอรี่สกปรก ก็ยังสามารถพอแก้ไขปัญหาได้ทัน แต่หากเกิดจากสาเหตุอื่นที่เจ้าของรถไม่สามารถแก้ไขได้เองจำเป็นต้องให้ช่างซ่อมรถหรือผู้เชี่ยวชาญเป็นคนแก้ไขให้ เช่น  ไดชาร์จเสื่อม ไดสตาร์ทเสีย ปั๊มติ๊กเสีย ระบบไฟฟ้ามีปัญหา หนูกัดสายไฟขาด หรือสาเหตุอื่น ๆ อาจจะต้องเสียเวลาและต้องเตรียมงบสำหรับซ่อมรถต่อไป เพราะฉะนั้นเราลองมาดูกันว่าจะมีสาเหตุใดบ้างที่ทำให้ รถสตาร์ทไม่ติด กันค่ะ

น้ำมันรถหมด

น้ำมันรถหมด ถือเป็นสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดที่พบได้บ่อย อาจจะลืมเติมน้ำมันรถ เดินทางไกลแล้วปั๊มน้ำมันค่อนข้าหายาก หรืออาจจะรอไปเติมในวันถัดไป แต่ปริมาณน้ำมันในถังอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ปั๊มติ๊กดูดเชื้อเพลิงในถังได้ ทำใหเกิดอาการรถสตาร์ทไม่ติด ทางที่ดีไม่ควรปล่อยให้น้ำมันหมดเกือบเกลี้ยงถังหรืออย่ารอให้ถึงขีดแดงก่อนค่อยเติม

แบตเตอรี่รถเสื่อม

โดยปกติแล้วอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 2 ปี หากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม มักจะแสดงอาการเช่น สตาร์ทรถติดยากในตอนเช้า จอดรถทิ้งไว้นาน ๆ จอดรถข้ามวันพอเช้ามาก็สตาร์ทรถไม่ค่อยติด แต่หากแบตเตอรี่เสื่อมจนไม่มีไฟเหลือเลย อาการคือรถสตาร์ทไม่ติดเลย

ขั้วแบตเตอรี่รถสกปรก

เราสามารถสังเกตได้ว่าขั้วแบตเตอรี่สกปรกหรือไม่ จากคราบขี้เกลือเกาะที่ขั้วแบตเตอรี่ มีลักษณะเป็นคราบสีเขียวอมฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของรถได้สะดวกนักจึงทำให้รถรถสตาร์ทไม่ติด เบื้องต้นคุณสามารถทำความสะอาดคราบขี้เกลือนี้ได้ด้วยการใช้น้ำโซดากับแปรงสีฟัน ขัดไปที่ขั้วแบตเตอรี่ โดยค่อย ๆ ขัดสักพักขั้วแบตเตอรี่ก็จะกลับมาสะอาดเหมือนเดิม

ไดชาร์จเสื่อม/ไดชาร์จเสีย

ไดชาร์จมีหน้าที่สร้างกระแสไฟจากการที่เครื่องยนต์ทำงานแล้วส่งไปเก็บไว้ยังแบตเตอรี่  หากไดชาร์จเสียแล้วจะไม่สามารถส่งไฟไปยังแบตเตอรี่ ทำให้มีอาการคล้ายแบตเตอรี่เสื่อมและทำให้รถสตาร์ทไม่ติดเช่นเดียวกัน

ไดสตาร์ทเสีย

หากรถสตาร์ทไม่ติด และมีการพ่วงแบตเตอรี่แล้ว เปลี่ยนแบตเตอรี่ก็แล้วแต่รถสตาร์ทไม่ติด อาจจะเกิดจากไดสตาร์ท หรือมอเตอร์สตาร์ทเสีย สามารถทดสอบโดยการลองดูที่หน้าปัดไฟถ้าไฟแบตเตอรี่ขึ้นตามมปกติ ให้ลองสตาร์ทรถแล้วฟังเสียง ถ้ามีเสียงแชะ ๆ และรถสตาร์ทไม่ติด นั่นแสดงว่าไดสตาร์ทของรถคุณเสียแล้ว

ปั๊มติ๊กเสีย

ปั๊มติ๊ก มีหน้าที่ดูดน้ำมันจากตัวถังไปยังเครื่องยนต์ ถ้าปั๊มติ๊กเสียทำให้ปั๊มติ๊กไม่สามารถดูดน้ำมันขึ้นมาและไม่สามรถจุดระเบิดครื่องยนต์ได้ ส่วนใหญ่ปั๊มติ๊กเสียมักจะเกิดสาเหตุจากการปล่อยให้ไฟเตือนน้ำมันโชว์อยู่บ่อยครั้งทำให้รถสตาร์ทไม่ติด โดยมักพบในรถรุ่นเก่าซึ่งในรถรุ่นใหม่ปั๊มติ๊กจะไม่เหมือนกับรถรุ่นเก่าแล้ว ทำให้ปั๊มติ๊กรถรุ่นเก่าค่อนข้างหาได้ยากอีกด้วย

รถจอดทิ้งไว้นานไม่ได้ใช้งานเลย

รถที่จอดทิ้งไว้นาน ๆ หรือไม่ได้มีการเอารถออกมาใช้งานเลย เมื่อคิดจะเอารถออกมาใช้งานหรือมาอุ่นเครื่องรถ เจ้าของรถมักจะเจออาการสตาร์ทรถไม่ติด จนทำให้แบตเตอรี่หมด เมื่อจอดทิ้งไว้นาน ๆ แนะนำให้ถอดสายพ่วงแบตเตอรี่ออกไว้เลย หรือหากไม่ค่อยได้ใช้รถหรือนาน ๆ ใช้รถ ควรจะหมั่นสตาร์ทรถทิ้งไว้สัก 10 นาที อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ป้องกันไม่ใช้แบตเตอรี่เสื่อมจนทำให้รถสตาร์ทรถไม่ติดนั่นเอง

ระบบไฟฟ้ามีปัญหา

หากรถสตาร์ทไม่ติด บิดกุญแจแล้วไม่มีไฟหน้าปัดโชว์ขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าระบบไฟฟ้าของรถมีปัญหาโดยมีสาเหตุมาจากหนูเข้ามากัดสายไฟขาด หรือกล่องควบคุมเครื่องยนต์ หรือ ECU ของรถคุณมีปัญหา ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง

อุปกรณ์ที่รถทุกคันต้องมีติดรถไว้

โดยส่วนใหญ่แล้วรถสตาร์ทไม่ติด เบื้องต้นมักจะเกิดจากแบตเตอรี่รถเสื่อม อย่างน้อยการพ่วงแบตเตอรี่รถที่เสื่อมกับแบตเตอรี่รถที่มีไฟปกติ ก็จะช่วยให้รถสตาร์ทไม่ติดมีไฟเข้ามาเลี้ยงแบตเตอรี่ เพื่อสามารถทำให้รถสตาร์ทติดได้ แนะนำให้รถทุกคันควรมี สายพ่วงแบตเตอรี่ ติดรถเอาไว้ เพราะเมื่อเกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติด คุณยังสามารถขอความช่วยเหลือจากรถคันอื่น เพื่อมาพ่วงแบตเตอรี่ให้กับคุณได้ เพราะหากไม่มีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้ ก็จะไม่สามารถให้อุปกรณ์ใด ๆ มาช่วยชาร์จแบตเตอรี่รถของคุณได้เลย เว้นเสียแต่ว่ารถอีกคันที่เข้ามาช่วยเหลือคุณมีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้ แต่หากพ่วงแบตเตอรี่แล้ว รถสตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิม จำเป็นจะต้องโทรเรียกช่างซ่อมรถเพื่อนำรถไปตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และแก้ไขเพื่อให้รถของคุณกลับมาใช้งานได้ตามปกติหรือใครที่ทำประกันรถเอาไว้ ก็ยังสามารถใช้บริการรถยกตลอด 24 ชั่วโมงในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินได้อีกด้วยนั่นเองค่ะ

สาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดมีหลายสาเหตุ  แนะนำว่าให้เตรียมสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้ หากเกิดรถดับกลางทางหรือรถสตาร์ทไม่ติด คุณยังสามารถใช้สายพ่วงแบตเตอรี่พ่วงเข้ากับรถอีกคันเพื่อช่วยกระตุ้นให้แบตเตอรี่ของคุณมีไฟมาเลี้ยง เพื่อให้รถของคุณสตาร์ทติดได้ แต่หากทำการพ่วงแบตเตอรี่รถแล้วรถสตาร์ทไม่ติดอยู่ อาจจะเกิดสาเหตุอื่น ๆ ที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ทั้งนี้คุณจำเป็นที่จะต้องโทรเรียกช่างซ่อมรถหรือประกันรถของคุณ เพื่อยกรถของคุณไปซ่อมต่อไป ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนน แนะนำให้ทำประกันรถยนต์ที่เหมาะกับรถและคุณเพื่อช่วยดูแลคุณในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินบนท้องได้ ซื้อง่ายที่เฮงลิสซิ่ง ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน ผ่อนได้แม้ไม่มีบัตรเครดิต ผ่อนสบายได้นานสุด 12 งวด* สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เบอร์คอลเซ็นเตอร์ 1361 ค่ะ