ทำไมหลายคนบอกว่า รถสีขาว ดูแลยาก แต่กลับพบว่ามีรถสีขาวไม่น้อยวิ่งบนท้องถนนเยอะมากพอสมควร และยิ่งไปกว่านั้นในรถบางรุ่นถ้าหากคุณอยากได้สีขาวจะต้องเพิ่มเงินอีกด้วย แต่เราจะพบว่ารถสีขาวบางคันเกิดปัญหารถเหลือง สีรถหมอง ทำให้รถหมดความสวยงาม ทั้งนี้รถสีขาวดูแลไม่ยากอย่างที่คิด เรามีวิธีการดูแลรถสีขาวให้สวยเหมือนใหม่มาฝาก

รถสีขาว ดูแลยาก แต่เป็นสีขายดียอดนิยม 

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมตามท้องถนนเรามักพบรถสีขาววิ่งไปวิ่งมาตามท้องถนนจำนวนมาก แม้ว่าเราจะเคยได้ยินว่ารถสีขาว ชอบเหลือง หม่น ไม่สวย ดูแลยาก แต่กลับพบว่ายังมีหลายคนเลือกที่จะซื้อรถสีขาว จึงทำให้รถสีขาว กลายเป็นสีรถยอดนิยม จากการรายงานสถิติของ Axalta ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกในธุรกิจสีเคลือบสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์  ในปีที่ผ่านมาเปิดเผยการรายงานสีรถยนต์ยอดนิยม ครั้งที่ 68   โดยสีที่ได้รับความนิยมตามลำดับ ดังนี้ สีขาว (38%) สีดำ (19%) และสีเทา (15%) โดยที่รถสีขาวมียอดขายทั่วโลกต่อเนื่อง 10 ปี และ 3 ปีที่ผ่านรถสีขาว คิดเป็น 38% ในตลาดรถยนต์ สีเงินได้รับความนิยมลดลงทั่วโลก และปัจจุบันมีเพียง 9% สำหรับสีดำ ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่และมักใช้ในกลุ่มรถหรู ส่วนสีเทามียอดขายเพิ่มขึ้น 2 % ทั่วโลก ซึ่งย้อนกลับไปในในปี ค.ศ. 1904  สมัยเริ่มต้นทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์มีเพียงรถสีดำเป็นตัวเลือกเดียวในตลาดก่อนที่จะมีสีอื่นตามมาภายหลัง เช่น สีเขียว สีแดง สีเทา แต่ยังมีรถสีขาวออกมาในรถบางรุ่น แต่รถสีขาวยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก จนกระทั่งปีค.ศ. 1950 รถสีต่าง ๆ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นและเริ่มมีการผลิตสี Pearl White โดยรถสีขาวยอดนิยมในยุคนั้นคือ Volkswagen Beatle ที่กลายเป็นรถคลาสสิคในปัจจุบัน และในปีค.ศ.2000 เป็นต้นมารถสีขาวได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดด เพราะยุคสมัยและเทรนด์ที่เปลี่ยนไป นิยมสีขาวที่สื่อถึงความทันสมัย หรูหรา สะอาด ดูดี มากกว่าสีสันหลากสี จึงทำให้รถสีขาวได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้รถสีขาวเป็นสีรถที่เกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าสีอื่น เนื่องจากสีขาวมีผลต่อการมองเห็นทุกช่วงเวลาของวัน  แต่ทั้งนี้แม้รถสีขาวจะได้รับความนิยมและมียอดขายทั่วโลกมากที่สุด แต่หลายคนที่มีรถสีขาวในครอบครอง อาจกำลังปวดหัวอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถสีขาว นั่นก็คือ รถเหลือง บางคนบอกว่ารถสีขาวแม้ว่าจะสวยแต่ดูแลยากมาก แต่วันนี้เราได้รวมเทคนิคการดูแลรถสีขาว ให้สวยเหมือนใหม่ ไม่เหลือง ไม่หมองมากทุกคนค่ะ

ข้อดี ข้อเสียของ รถสีขาว

ก่อนที่เราจะมาดูวิธีดูแลรถสีขาวนั้น เรามาดูข้อดีและข้อเสียของรถสีขาว เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อรถสีขาวมาใช้ในชีวิตประจำวันกันค่ะ

ข้อดีของรถสีขาว

จุดเด่นของรถสีขาว คือ รถสีขาวมีความสว่างมองเห็นได้ง่ายในเวลากลางคืน และเห็นได้ชัดกว่ารถสีดำ สีเทา และหากมีรอยขนแมว รอยขีดข่วน จะเห็นได้ยากกว่ารถสีอื่น นอกจากนี้หากมีการเคลมสีรถ รถสีขาวจะทำสีง่ายกว่า นอกจากนี้  รถสีขาวกลายเป็นสียอดนิยม ทำให้เป็นที่ต้องการในตลาดรถมือสองและราคาขายดีกว่า (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นรถและสภาพรถอีกด้วย)

ข้อเสียของรถสีขาว

ขึ้นชื่อว่ารถสีขาว นอกจากความหรูหรา สวยงามแล้ว ยังนึกถึงการดูแลที่ยากในสายตาหลายคน เพราะรถสีขาวหากไม่ได้รับการดูแล ปล่อยรถจอดตากแดดเป็นเวลานาน หรือไม่ค่อยได้ล้างรถ จะทำให้รถสีขาวกลายเป็นสีขาวหมอง เกิดคราบเหลือง สีเพี้ยนไปจากเดิม นอกจากนี้รถสีขาวทำให้เห็นคราบสกปรกง่าย ต้องหมั่นล้างรถทุกอาทิตย์ และรถสีขาวในบางรุ่นต้องเพิ่มเงินซื้อ เช่น สีขาวมุก เพราะสีขาวมุกจะต้องมีการพ่นแบบสีมุกอีกชั้น จึงทำให้มีราคาแพงกว่ารถสีอื่น

5 วิธีดูแลรถสีขาว ไม่ยากอย่างที่คิด 

ถึงจะบอกว่ารถสีขาว เป็นสีรถที่มีการดูแลยากมาก เพราะใช้ไปไม่นานจากรถสีขาว กลายเป็นรถสีขาวเหลือง สีหมองลง หรือเป็นคราบเหลืองติดตามผิดรถ ทั้งนี้เราอยากจะบอกว่ารถสีขาวไม่ได้ดูแลยากอย่างที่คิด  เพราะวันนี้เราได้รวบรวมวิธีดูแลรถสีขาวให้ขาว สวยเหมือนรถใหม่มาฝากค่ะ  

1.หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด

รังสียูวีมีผลทำให้รถสีขาวกลับเหลือง หมอง ไม่ขาวสดใสเหมือนก่อน เพราะยูวีจะทำลายสีรถ ชั้นเคลือบสีจนแลกเกอร์เสื่อมสภาพ ทำให้รถเหลือง ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานาน หรือหาผ้าคลุมรถมาคลุมรถไว้หากต้องจอดตากแดดเป็นเวลานาน

2.เคลือบสีรถเป็นประจำ

บางคนอาจจะเข้าใจว่าการเคลือบสีรถเป็นเพียงการช่วยให้รถมีความเงางามเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วการเคลือบสีรถยังมีประโยชน์อื่นอีกได้แก่ ป้องกันคราบสิ่งสกปรกไม่ให้เกาะรถ ยืดอายุสีตัวถังรถ และเป็นการเสริมเกราะป้องกันให้ผิวรถจากการทำร้ายของยูวี ชั้นเคลือบสีไม่ถูกทำลายทำให้รถสีขาวเกิดคราบเหลืองได้ช้าลงนั่นเอง ทำให้รถสีขาวยังความสวยงามเหมือนใหม่ จึงแนะนำให้มีการเคลือบสีรถเป็นประจำ อ่านบทความเกี่ยวกับการเคลือบสีรถ คลิก 

3.ใช้ดินน้ำมันล้างรถ

ดินน้ำมันในที่นี้ไม่ได้หมายถึงดินน้ำมันที่เด็ก ๆ ใช้เล่นกัน แต่เป็นดินน้ำมันล้างรถ หรือดินน้ำมันลูบรถยนต์ จะช่วยลูบเอาสิ่งสกปรกที่ฝังอยู่ในชั้นสีรถที่ไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่าออกมาได้   

4.เช็ดรถให้แห้งและสะอาด

หลังจากล้างรถเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรปล่อยให้รถแห้งเอง เพราะจะทำให้เกิดคราบหินปูนเป็นด่างที่กระจกรถและผิวรถ เพราะในน้ำประปาหรือน้ำบาดาลที่เราให้สำหรับล้างรถ จะมีแร่ธาตุหลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียมแมกนีเซียมที่ทำให้เกิดคราบปูนเกาะนั่นเอง ทั้งนี้ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าชามัวร์สำหรับเช็ดรถโดยเฉพาะเช็ดรถให้แห้งและสะอาด

5.ล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

หากคุณใช้รถเป็นประจำทุกวัน จะมีทั้งสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง คราบน้ำ ขี้นก ขี้โคลน คราบยางต้นไม้เกาะผิวรถ อย่างน้อยการล้างรถสัปดาห์ละครั้งเพื่อลดการทำลายชั้นสีจากสิ่งสกปรกเหล่านี้ เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้ชั้นสีถูกทำลายทำให้รถสีหมอง โดยเฉพาะรถสีขาวเหลือง ไม่สวยงามนั่นเอง

ปัจจัยที่ทำให้สีรถซีดจางมีอะไรบ้าง

แม้ว่าเราจะรู้เกี่ยวกับการดูแลสีรถไม่ว่าจะเป็นรถสีขาวหรือรถสีอื่นให้สวยเหมือนใหม่ แต่เราควรจะหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ   ที่จะทำให้สีรถยนต์ที่คุณรักนั้น ซีดจาง คราบด่าง สีหลุดล่อน เสื่อมสภาพ ไม่สดใสเงางามเหมือนรถใหม่  เพื่อจะได้ลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถของคุณไม่สวยงาม  มีดังต่อไปนี้

1.แสงแดด

แสงแดดเป็นปัจจัยต้น ๆ ที่ทำให้สีรถยนต์ซีดจาง หลุดล่อนหากมีการตากแดดเป็นประจำเวลานาน นอกจากแสงแดดจะไปทำลายผิวเคลือบรถยนต์จนทำให้สีรถซีดลง ส่วนรถสีขาวกลายเป็นสีเหลืองแล้ว  ยังทำให้ส่วนของอุปกรณ์ของรถที่ทำจากยางหรือพลาสติกเริ่มเสื่อมสภาพ แห้งกรอบ เช่น ยางปัดน้ำฝน เบาะหนัง คอนโซลหน้ารถ พวงมาลัยรถ เป็นต้น

2.ฟองน้ำล้างรถ

การเลือกฟองน้ำล้างรถควรเลือกใช้ฟองน้ำสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ ทั้งนี้หลังจากที่ใช้ฟองน้ำล้างรถแล้ว ควรจะล้างทำความสะอาดและเก็บฟองน้ำล้างรถไว้ให้ดี เพราะหากฟองน้ำล้างรถยังมีพวกเศษทราย กรวดติดอยู่ในฟองน้ำ เมื่อเรานำมาใช้ล้างรถจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนจนทำให้รถเป็นรอยจนสีถลอกได้ แต่สำหรับรถสีขาวควรจะแยกฟองน้ำสำหรับล้างตัวรถ กับส่วนที่สกปรกง่าย เช่น ล้อรถ บังโคลน กันชน ออกจากกัน เพราะอาจจะทำให้คราบสกปรก เศษดิน กรวด หรือคราบน้ำมันติดผิวรถได้ 

3.ขี้นก

ขี้นกมีฤทธิ์เป็นกรดสามารถกัดสีรถยนต์ให้ด่างเป็นจุด และหากปล่อยไว้นานจะขัดคราบด่างนั้นได้ยากมาก ทั้งนี้เมื่อนกขี้ใส่รถให้รีบทำความสะอาดทันทีและหลีกเลี่ยงการจอดรถใต้ต้นไม้หรือหากจำเป็นต้องจอดรถใต้ต้นไม้เป็นเวลานาน ควรใช้ผ้าคลุมรถด้วย

4.ยางไม้จากต้นไม้

บางครั้งเราจะพบว่ามีคราบสีน้ำตาลอ่อนเป็นจุด ๆ เกาะบนกระจกหน้ารถบ้างหรือตามฝากระโปรงรถบ้าง ซึ่งคราบยางไม้นี้เกาะติดแน่นขจัดได้ยากและจุดที่ถูกยางไม้เกาะนั้นหากทิ้งไว้เป็นเวลานาน ยางไม้จะกินสีรถให้ซีดจางด้วย ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้ยางไม้หล่นใส่รถยนต์นั่นเอง

5.คราบน้ำมัน

คราบน้ำมันเชื้อเพลิงรถ หากปล่อยให้หกใส่รถจะฝังแน่นกับสีรถซึ่งไม่สามารถล้างออกได้หากปล่อยทิ้งไว้ ทั้งนี้เมื่อพบว่าน้ำมันเชื้อเพลิงหกใส่รถให้รีบ เวลาที่คุณเติมน้ำมันที่ปั๊ม คอยสังเกตที่เวลาพนักงานเติมน้ำมันว่ามีน้ำมันหกออกมาหรือไม่ หากมีให้รีบนำผ้าไมโครไฟเบอร์ลูบทำความสะอาดเบา ๆ ทันที

6.แมลง

สำหรับคนที่ขับรถในเวลากลางคืนมักจะเจอพวกแมลงมาชนหน้ารถและกระจกหน้ารถขณะที่ขับรถอยู่ ซึ่งแมลงเหล่านี้มักจะเกิดคราบเกาะแน่นติดกับสีรถ หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้สีรถซีดจาง ทั้งนี้เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบเช็ดออกด้วยครีมกำจัดคราบเอนกประสงค์ และเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์

เราจะเห็นขั้นตอนการดูแล รถสีขาว นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเอาใจใส่ของคุณโดยนำวิธีการดูแลรถสีขาวที่เราได้กล่าวไปแล้วนำไปใช้ได้ นอกจากรถสีขาวแล้ว ไม่ว่ารถสีไหนก็จำเป็นต้องดูแลสีรถอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกัน แต่สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจซื้อรถสีขาวอาจจะกำลังชั่งใจว่าจะซื้อรถสีขาวดีหรือไม่ สามารถนำเอาข้อมูลที่เราได้แนะนำไปนี้นำไปเป็นข้อพิจารณาในการตัดสินใจซื้อรถสีขาวกันค่ะ แม้ว่ารถสีขาวจะมีข้อดีตรงที่ทำให้มองเห็นได้ชัดมากกว่ารถสีดำ หรือรถสีเทาในเวลากลางคืน แต่เพื่อความอุ่นใจและคุ้มครองตลอดการเดินทางแนะนำให้ทำประกันรถยนต์ติดรถไว้ด้วย เพราะเกิดเหตุไม่คาดฝันขณะเดินทางบริษัทประกันจะเข้ามาช่วยดูแลคุณอย่างทันท่วงที แนะนำทำประกันรถยนต์ที่เฮงลิสซิ่ง ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน เลือกได้หลายแผนตามความต้องการ ผ่อนสบายสูงสุด 12 เดือน สนใจคลิก