เนื้อหาของบทความ
หากคุณต้องเดินทางไกลเป็นประจำ การมีระบบ Cruise control ในรถของคุณ ถือเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณมาก เพราะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับรถโดยเฉพาะคนที่ชอบเดินทางไกล ทั้งนี้การใช้งาน Cruise control ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่มีแต่ใช้ไม่เป็น บทความนี้เราจะพามาทำความเข้าใจและสอนการใช้งานระบบ Cruise control กันค่ะ
ระบบ Cruise control คือ อะไร?
Cruise control คือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เป็นเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วที่ต้องการสำหรับรถของคุณได้ ระบบ Cruise control จะรักษาความเร็วที่เลือกไว้โดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องปรับความเร็วเอง คุณสมบัตินี้นอกจากจะทำให้การขับขี่สะดวกสบายมากขึ้น แต่ยังช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมันอีกด้วย แต่ก็ไม่ใช่รถทุกรุ่นที่มีระบบ Cruise control จึงทำให้ระบบ Cruise control เหมาะสำหรับการเดินทางไกล วิ่งทางด่วนที่ต้องใช้ความเร็วคงที่ โดยสำหรับหลักการทำงานของ Cruise control นั้น ผู้ขับขี่จะเป็นคนเปิดปิดการทำงานของ Cruise control รวมไปถึงการปรับตั้งความเร็วตามที่ผู้ขับขี่ต้องการ ทั้งนี้ผู้ขับขี่จะต้องรู้จักกับปุ่มควบคุมระบบ Cruise control ดังนี้
- ปุ่ม Cruise control On/Off – เปิดปิดการใช้งาน
- ปุ่ม Desel Set – ล็อกความเร็ว
- ปุ่ม Res/Accel – เพิ่มความเร็วไปยังจุดที่ต้องการ
- ปุ่ม Cancel – ยกเลิกระบบ Cruise control แต่หากต้องการกลับมาใช้กดปุ่ม Desel Set
วิธีการใช้งาน ระบบCruise control
- เริ่มต้นด้วยการเปิดระบบ Cruise control โดยการกดปุ่ม Cruise control On/Off อาจจะอยู่ทั้งบนพวงมาลัยรถหรือก้านที่ยื่นออกมาข้างพวงมาลัยแล้วแต่รุ่นรถ
- ระบบ Cruise control จะต้องการค่าความเร็วปัจจุบันของรถเพื่อใช้เป็นค่าเริ่มต้น ให้คุณปรับความเร็วของรถให้ตรงตามที่คุณต้องการก่อน โดยขับรถไปให้ถึงความเร็วที่ต้องการให้ทำการกดปุ่ม SET
- เมื่อระบบ Cruise control เปิดใช้งานแล้ว รถจะเริ่มรักษาความเร็วให้คงที่ตามค่าที่คุณตั้งค่าไว้ โดยไม่ต้องย่ำคันเร่ง
- หากคุณต้องการปรับความเร็วในระหว่างการใช้งาน Cruise control ให้กดปุ่มเพิ่ม + หรือลดความเร็ว – บนพวงมาลัยหรือตัวคอนโซลของรถ
- เมื่อคุณต้องการปิดระบบ Cruise control ให้กดปุ่ม Cruise control On/Off หรือกระทำการเหยียบเบรกในขณะใช้งาน Cruise control เพื่อยกเลิกการใช้งานได้เช่นกัน
หลักการทำงานของระบบ Cruise control
Cruise control เป็นเทคโนโลยียานยนต์ที่สร้างความสะดวกสบายในการขับขี่รถ แต่ทั้งนี้ผู้ขับขี่จะต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทำงานเบื้องต้นของ Cruise control ดังนี้
- เซ็นเซอร์ความเร็ว ระบบควบคุมความเร็วจะใช้เซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับความเร็วของรถ
- ประมวลผลข้อมูล ข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วจะถูกส่งไปยังระบบประมวลผลภายในรถ เพื่อปรับค่าและคำนวณว่าต้องปรับความเร็วให้เป็นอย่างไรเพื่อให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ต้องการ
- การควบคุมความเร็ว เมื่อข้อมูลได้รับการประมวลผลแล้ว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจะทำการควบคุมการเร่งหรือเบรกของรถเพื่อปรับความเร็วให้ตรงตามค่าที่ต้องการ
- รักษาความเร็ว เมื่อความเร็วถูกปรับเปลี่ยนแล้ว ระบบควบคุมความเร็วจะรักษาความเร็วที่กำหนดไว้โดยตรง โดยปรับค่าการเร่งหรือเบรกเพื่อรักษาความเร็วคงที่
ข้อดีและข้อเสียของ ระบบCruise Control
การใช้งาน Cruise Control อย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ แต่หากใช้ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่ได้ เรามาดูกันว่า Cruise Control มีข้อดี ข้อเสียในการใช้งานอย่างไรบ้าง
ข้อดีของ Cruise Control
- ลดความเหนื่อยล้าในการเดินทางไกล การขับรถในระยะทางไกล ส่งผลให้สายตาและร่างกายแขนขา เกิดความเมื่อยล้า โดยเฉพาะขาที่ต้องคอยเหยียบคันเร่งตลอดเวลา แต่เมื่อรถของคุณมีระบบ Cruise Control หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ คุณสามารถสลับไปยังโหมด Cruise control ได้เลย ทำให้คุณสามารถผ่อนคลาย คลายความเมื่อยล้าในการขับขี่ทางไกลได้
- ช่วยประหยัดน้ำมัน เมื่อควบคุมความเร็วด้วยระบบอัตโนมัติ เครื่องยนต์จะสามารถรักษาความเร็วที่คุณต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้การใช้เชื้อเพลิงประหยัดขึ้น เพราะการเดินทางไกลมักจะใช้ความเร็วคงที่ ไม่ต้องคอยลดความเร็ว เบรกรถกะทันหัน หรือต้องเร่งความเร็วเพื่อแซง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลต่ออัตราการกินน้ำมันด้วย
ข้อเสียของ Cruise Control
- ไม่เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัด หรือสภาพการจราจรที่ต้องมีการหยุด ลดหรือเร่งความเร็วสลับกัน ต้องมีการเปลี่ยนเลนรถบ่อย
- ไม่ควร Cruise Control ใช้ในช่วงฝนตกหนัก ถนนลื่น เพราะจะทำให้คุณขาดสมาธิในการขับขี่ เพราะในช่วงฝนตกหนัก คุณควรบังคับความเร็วด้วยตัวเอง หากมีสิ่งกีดขวางหรือเหตุสุดวิสัย จะได้ชะลอหรือเบรกรถได้ทัน
- ไม่เหมาะกับการใช้งานในเส้นทางคดเคี้ยว ทางชัน ผู้ขับขี่ควรมีสมาธิควบคุมรถด้วยตัวเองเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
- Cruise Control ไม่สามารถหยุดรถหรือลดความเร็วในทันทีได้อย่างรวดเร็ว ผู้ขับขี่จะต้องมีสมาธิในการขับขี่ และสามารถหยุดรถได้เองทันทีที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันตรงหน้าได้
อย่าสับสน Cruise Control กับ Adaptive Cruise Control ไม่เหมือนกัน
นอกจากเราจะเคยได้ยินกับระบบ Cruise Control แล้ว จะยังมีอีกคำหนึ่งที่บางคนอาจจะเข้าใจว่าเป็นระบบเดียวกัน เรียกว่า Adaptive Cruise Control (ACC) ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด สำหรับ Cruise Control จะเป็นเพียงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องเหยียบคันเร่งจนเมื่อยในเวลาที่เดินทางไกล แต่ Adaptive Cruise Control (ACC) เป็นระบบที่ช่วยควบคุมความเร็วในการขับขี่ให้สอดคล้องกับสภาพของการจราจรอย่างอัตโนมัติด้วยเรดาร์ เลเซอร์ และกล้องหน้ารถ เพื่อช่วยควบคุมการขับขี่ให้เหมาะสมและปลอดภัย โดย Adaptive Cruise Control (ACC) มีหลักการทำงานดังนี้
- ตรวจจับรถข้างหน้า ระบบ Adaptive Cruise Control ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์หรือเรดาร์ในการตรวจจับรถข้างหน้า โดยจะวัดระยะห่างและความเร็วของรถในขณะที่เดินทางอยู่ในช่วงการทำงานของระบบ ACC
- ตั้งค่าความเร็ว ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วที่ต้องการได้ โดยระบบ ACC จะรักษาระยะห่างอยู่ในระดับที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติ
- การปรับความเร็ว เมื่อรถข้างหน้าเร่งความเร็วหรือลดความเร็ว ระบบ ACC จะตรวจจับการเปลี่ยนแปลงนี้และปรับความเร็วของรถให้สอดคล้องกับรถข้างหน้า เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุได้
- รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย หลังจากตั้งค่าความเร็วและระยะห่างที่ต้องการ ระบบ ACC จะคงรักษาระยะห่างนั้นอย่างต่อเนื่อง หากรถข้างหน้าเบรกหรือลดความเร็วอย่างกะทันหัน ระบบ ACC จะปรับความเร็วของรถให้เหมาะสมเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุได้
- สภาพการจราจรเปลี่ยนแปลง ระบบ ACC สามารถปรับการทำงานของตนเพื่อเข้ากับสภาพการจราจรที่แตกต่างกันได้ ตัวอย่างเช่นเมื่อเราเข้าสู่ช่วงการจราจรที่แออัดมาก ระบบ ACC อาจปรับความเร็วลงหรือระยะห่างกับรถข้างหน้าให้มากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร
ข้อดีและข้อเสียของระบบ Adaptive Cruise Control (ACC)
การใช้งาน Adaptive Cruise Control (ACC) อย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ แต่หากใช้ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่ได้ เรามาดูกันว่า Adaptive Cruise Control (ACC) มีข้อดี ข้อเสียในการใช้งานอย่างไรบ้าง
ข้อดีของ Adaptive Cruise Control (ACC)
- ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เช่น ลดปัญหาการชนท้าย เนื่องจากการเบรกกะทันหันของรถคันหน้า
- รักษาระยะห่าง ชะลอความเร็ว จากคันข้างหน้าได้ หากรถคันข้างหน้าทำความเร็ว ระบบ ACC ก็จะปรับความเร็วให้เหมาะสมตามคันข้างหน้า เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
- เหมาะสำหรับการเดินทางในสภาพถนนโล่ง ทางตรงยาว หรือการสัญจรของรถที่ไม่หนาแน่นมากนัก
ข้อเสียของ Adaptive Cruise Control (ACC)
- ระบบ ACC อาจหยุดทำงานในสภาพอากาศและทัศนวิสัยที่ไม่ดี เช่น ฝนตกหนัก หมอกลงจัด เป็นต้น ผู้ขับขี่จะต้องระมัดระวังในการขับขี่ด้วย
- ระบบการแจ้งเตือน อาจเกิดข้อบกพร่องและมีความผิดพลาด ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ทราบว่าแจ้งเตือนอะไรกันแน่
- ระบบ ACC มีความซับซ้อนมากกว่า Cruise Control จึงทำให้ผู้ขับขี่จะต้องศึกษาการวิธีการใช้และดูแลบำรุงรักษารถ เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ
โดยรวมแล้วหลักการทำงานของ Adaptive Cruise Control (ACC) คือการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยควบคุมความเร็วและระยะห่างรถของเราจากรถข้างหน้าโดยระบบจะตรวจจับและปรับความเร็ว เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยในสภาพการจราจรที่แตกต่างกัน ช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนนได้ สำหรับรถที่มีระบบ ACC จะมีในรถราคาสูง ส่วนระบบ Cruise Control ช่วยในการควบคุมความเร็วของรถเท่านั้น จะพบในรถรุ่นใหม่ทั่วไป
Cruise control หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากในการขับขี่ในระยะทางยาว ด้วยการรักษาความเร็วที่คงที่และการประหยัดพลังงาน ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สบายและสะดวกสบายมากขึ้น เพราะฉะนั้นหากรถของคุณมีระบบ Cruise Control ถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก ควรใช้ให้เป็นทั้งการควบคุมปุ่มและการเลือกใช้ Cruise control ในสถานการณ์ที่เหมาะสม เพราะจะช่วยให้คุณขับรถเดินทางไกลได้อย่างสะดวกสบาย ไม่เมื่อยล้าขาอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจอยากมีรถที่มีระบบ Cruise control ตอบโจทย์การเดินทาง และอยากหาไฟแนนซ์ จัดรถมือสองสักคันให้ แนะนำสินเชื่อเฮงรถมือสอง สินเชื่อที่ตอบโจทย์คนอยากมีรถในราคาที่คุณเอื้อมถึง ผ่อนสบายนานสุด 84 งวด สนใจคลิก