ใบขับขี่เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถต้องพกติดตัวไว้เสมอ และอย่าปล่อยให้ ใบขับขี่หมดอายุ เด็ดขาด เพราะหากแจ็คพ็อตตำรวจจราจรขอเรียกดูใบขับขี่ แต่ดันใบขับขี่ของคุณหมดอายุไปแล้ว งานนี้คุณได้เสียค่าปรับแน่นอน เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียค่าปรับเรามาดูกันว่าหากใบขับขี่หมดอายุ ต้องทำอย่างไร

ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่ออายุภายในกี่วัน

ใบขับขี่ เป็นบัตรที่ผู้ขับขี่รถทุกคนต้องพกติดตัวไว้ทุกครั้งเมื่อขับรถยนต์ตามพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 (มาตรา 64) ผู้ใดขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่พกใบขับขี่ไม่ว่าจะเป็นตัวจริง สำเนา หรือสิ่งที่แสดงหลักฐานถึงการได้รับใบอนุญาตขับขี่ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่หากขับรถโดยที่ใบขับขี่หมดอายุแล้ว จะต้องถูกระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องรอให้ใบขับขี่หมดอายุก่อน ถึงจะค่อยไปต่อ เพราะใบขับขี่สามารถต่ออายุก่อนล่วงหน้าได้ถึง 3 เดือนเลย แต่หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้องทำการสอบข้อเขียนใหม่ โดยต้องตอบให้ถูกมากกว่า 45 ข้อ จาก 50 ส่วนหากใครที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป กรณีนี้ผู้ขับขี่ต้องสอบใหม่ทั้งหมด ทั้งการสอบข้อเขียนและภาคปฏิบัติใหม่ทั้งหมดเหมือนตอนที่เริ่มทำใบขับขี่ใหม่นั่นเอง จะเห็นว่าคุณไม่ควรปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุเด็ดขาด เพราะนอกจากตำรวจจราจรขอเรียกดูและต้องเสียค่าปรับแล้ว อาจจะต้องเสียเวลาไปสอบข้อเขียน หรืออาจจะต้องสอบใหม่หมด เสียเงินแล้วยังต้องเสียเวลาอีกด้วยค่ะ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เรามาดูขั้นตอนต่อไปว่าหากใบขับขี่หมดอายุ จะต้องต่อใบขับขี่ใหม่อย่างไร

ใบขับขี่หมดอายุ ต่อใบขับขี่อย่างไร

เมื่อการใช้ชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อโควิด-19 นอกจากการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและลดขั้นตอนการไปทำเรื่องที่ขนส่งแล้ว สำหรับผู้ที่ใบขับขี่กำลังจะใกล้หมดอายุ หรือเพิ่งหมดอายุไป แต่ไม่สามารถไปที่ขนส่งได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่ดีขึ้น ถึงใบขับขี่หมดอายุแต่ก็ยังสามารถต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการต่อใบขับขี่ออนไลน์ แม้ว่าจะยังมีขั้นตอนของการไปขนส่งเพื่อทดสอบสมรรถภาพและรับใบขับขี่ใหม่ แต่ก็ยังต้องจองคิวออนไลน์ เลือกเวลาที่คุณเข้าไปที่ขนส่งได้ โดยไม่ต้องไปนั่งรอคิวแต่เช้าที่ขนส่งเหมือนเมื่อก่อน โดยขั้นตอนการต่อใบขับขี่ออนไลน์นั้นไม่ยุ่งยาก เริ่มต้นดังนี้

การต่อใบขับขี่ออนไลน์

1.เริ่มต้นต่อใบขับขี่ออนไลน์ ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com
2.กดปุ่ม “ลงทะเบียน”
3.กรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน ประกอบไปด้วยเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด
4.เลือกการอบรมตามใบอนุญาตขับรถที่ต้องการต่ออายุ ประกอบไปด้วย ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) ระยะเวลาการอบรม 1 ชั่วโมง ใบอนุญาตขับรถขนส่ง รยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง และใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ) ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง
5.เลือกข้อ1.แบบทดสอบก่อนอบรม
6.ทำแบบทดสอบก่อนอบรม
7.ดูวีดีโออบรมใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล
8.ทำแบบทดสอบหลังอบรม เมื่อเรียบร้อยแล้วให้กดส่งข้อสอบ
9.เมื่อผ่านการอบรมแล้ว ให้บันทึกหน้าจอผลการอบรมเก็บไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอต่อใบอนุญาตที่กรมการขนส่งต่อไป โดยผลการอบบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์จะมีอายุ 90 วัน นับจากวันที่ผ่านการอบรม

จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์

หลังจากที่ได้ทำการอบรมออนไลน์เรียบร้อยแล้ว ก็มาที่ขั้นตอนการจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อจองเวลาที่จะเข้าไปทำเรื่องที่ขนส่งต่อ ซึ่งสามารถจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้ที่แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ซึ่งสามารถโหลดได้ทั้ง iOS และ Android เพื่อจองคิวทำใบขับขี่ โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เพื่อทำการจองงคิวต่อใบขับขี่
2.เมื่อเข้าแอปพลิเคชันแล้ว ให้เลือกสำนักงานขนส่งที่เราต้องการเข้าไปต่อใบขับขี่
3.เลือกหัวข้อ “งานใบอนุญาต” และเลือกการต่ออายุรถตามประเภทของรถ
4.เลือกวันที่เราสะดวกจะเข้าไปที่ขนส่ง ซึ่งมีให้เลือกหลายรอบทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย หลังจากที่เลือกได้แล้ว ให้ทำการยืนยันการจอง และบันทึกหน้าจอเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานแสดงให้เจ้าหน้าที่ในวันที่เราไปขนส่ง
5.เมื่อถึงวันที่เราทำการจองไว้ เตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อนำไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ และจะต้องทำการทดสอบสายตา ระบุสีจราจร ทดสอบการเหยียบคันเร่งและเบรก ตามปกติ
6.รอถ่ายรูปติดบัตรและชำระค่าธรรมเนียมเป็นอันเสร็จ
**สำหรับผู้ที่สามารถต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีใบขับขี่อยู่แล้ว ผู้ที่มีใบขับขี่แต่หมดอายุไปแล้วไม่เกิน 1 ปี รวมไปถึงผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่ล่วงหน้า ซึ่งสามารถทำได้ไม่เกิน 90 วัน**

การปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เมื่อต้องเดินทางไปในที่ชุมชน

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า การต่อใบขับขี่ออนไลน์ แม้ว่าจะมีการอบรมออนไลน์แล้ว แต่ก็ยังจำเป็นต้องเดินทางไปที่ขนส่งเพื่อทดสอบสมรรถภาพและถ่ายรูปติดบัตร เพื่อการปฏิบัติตัวให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 โดยมีแนวทางในการปฏิบัติตนเองเมื่อต้องไปในที่ชุมชนดังนี้

1.สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องออกจากบ้าน ต้องใส่ให้ปิดทั้งจมูก ปาก คาง หรือใส่หน้ากาก 2 ชั้น โดยการสวมหน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัยเท่านั้น หากใส่นอกเหนือจากนี้จะไม่ช่วยเรื่องประสิทธิภาพในการป้องกันแล้ว ยังทำให้หายใจไม่ออกและอาจเป็นลมได้
2.ลงทะเบียนก่อนเข้าออกสถานที่สาธารณะทุกครั้ง
3.เว้นระยะห่างจากผู้อื่น1-2 เมตร และไปตามคิวที่จองไว้
4.ล้างมือ หรือฉีดพ่นมือด้วยแอลกอฮอล์เมื่อจับจุดสัมผัสต่าง ๆ เช่น มือผลักประตู ปากกา โต๊ะเก้าอี้ ปุ่มกดลิฟต์ เป็นต้น
5.หากเป็นไปได้ เลือกชำระเงินด้วย Prompt pay ,Internet Banking เป็นต้น

เมื่อกลับมาถึงบ้าน สิ่งที่ควรทำมีดังนี้

1.พับทิ้งหน้ากากอนามัยทิ้งถังขยะนอกบ้าน ส่วนหน้ากากผ้าควรซักให้เรียบร้อย
2.ล้างมือ หรือฉีดพ่นมือด้วยแอลกอฮอล์ก่อนเปิดประตูเข้าบ้าน เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจติดมากับมือ
3.เช็ดกระเป๋า กุญแจ หรือสิ่งของที่อาจจะนำไปวางตามพื้นที่สาธารณะ
4.เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ สระผม ให้เรียบร้อย ซึ่งการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 นี้ สามารถทำได้ในเวลาที่เราจำเป็นต้องไปในสถานที่ชุมชน ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า เป็นต้น แต่หากเป็นไปได้ เลี่ยงการไปในที่ชุมขนหรือทำการจองคิวออนไลน์ เมื่อจำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ

ใบขับขี่หมดอายุ ประกันจ่ายไหม

สำหรับคนที่ทำประกันรถยนต์ไว้ แต่ใบขับขี่หมดอายุ อาจจะสงสัยว่าจะยังสามารถเคลมประกันหากเกิดอุบัติเหตุได้หรือไม่นั้น คำตอบคือยังสามารถแจ้งเคลมได้ เพราะถือว่าคุณยังมีความสามารถในการขับขี่ หากคุณไม่มีใบขับขี่แต่เป็นฝ่ายถูก ประกันรถก็ยังให้ความคุ้มครองอยู่ แต่หากคุณไม่มีใบขับขี่รถแล้วยังเป็นฝ่ายผิดขับรถชนคนอื่น กรณีนี้ประกันรถจะไม่คุ้มครองรถของคุณ แต่จะยังคุ้มครองคู่กรณีหรือบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ

สรุปแล้วหากใบขับขี่หมดอายุหรือใกล้หมดอายุก็สามารถต่อล่วงหน้าได้ ด้วยการต่อใบขับขี่ออนไลน์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโควิด-19 เพราะไม่ต้องไปนั่งรอบัตรคิวที่ขนส่งแต่เช้า ไม่ต้องไปนั่งอบรมร่วมกับคนอื่น แต่สำหรับผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่ออนไลน์ จะต้องเป็นผู้ที่มีใบขับขี่อยู่แล้ว ที่จำเป็นต้องมีการต่ออายุใบขับขี่ทั้งการต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรือต่อใบขับขี่ที่หมดอายุไปแล้วไม่เกิน 1 ปี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ต้องไปขนส่งเสียทีเดียว เพราะผู้ที่ต่อใบขับขี่ ยังคงต้องเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพ ได้แก่ ทดสอบสายตา ระบุสีจราจร ทดสอบการเหยียบคันเร่งและเบรก ตามเวลาที่ได้ทำการจองคิวออนไลน์ในแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue จากนั้นเมื่อถึงวันจองก็เดินทางไปขนส่งเพื่อดำเนินการต่อใบขับขี่ให้แล้วเสร็จ เห็นไหมค่ะว่าสะดวก ง่าย ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ
นอกจากนี้การทำประกันรถยนต์ ยังช่วยเพิ่มอุ่นใจในการใช้รถ หากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การทำประกันนี้จะเข้ามาช่วยคุณทั้งในเรื่องการเจรจา ตลอดจนช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าเสียหายต่าง ๆ อีกด้วย คุณไม่ต้องเสียเวลาจัดการเรื่องเหล่านี้เลยค่ะ หากสนใจศึกษาหรือเลือกทำประกันรถยนต์สักแห่ง แนะนำซื้อประกันรถยนต์ที่เฮงลิสซิ่งทุกสาขาใกล้บ้าน กับข้อเสนอดี ๆ สำหรับผู้ที่มีรถที่ต้องการเพิ่มความอุ่นใจและความคุ้มครองทุกการขับขี่มากยิ่งขึ้น กับประกันรถยนต์ผ่อน 0% ซื้อง่าย ไม่มีดอกเบี้ย ผ่อนสบายนาน 6 เดือน ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้ค่ะ สนใจสอบถามหรือสมัครสินเชื่อออนไลน์ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

Heng Call center : โทร 1361

คุยกับเจ้าหน้าที่ของเราแบบ real – time ได้ แถมยังสามารถ ปรึกษา สอบถามข้อมูล ได้ทันที ไม่ต้องรอนาน กดเลย

ทักแชทกับเจ้าหน้าที่ผ่าน FB:Hengleasing และ Line:@Hengleasing ของเรา แล้วรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่

สมัครสินเชื่อออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง คลิก