เข้าสู่ช่วงฤดูฝน อาจเป็นช่วงเวลาเหงา ๆ ของใครบางคน หรืออาจเป็นช่วงเวลาแห่งการเดินทางสัมผัสธรรมชาติที่รอคอยมาครึ่งปี สำหรับใครที่กำลังโหยหาการเดินทางสัมผัสธรรมชาติท่ามกลางสายฝนชุ่มฉ่ำ วันนี้เรามี 7 ที่เที่ยวหน้าฝน พักกายฮีลใจไปกับสายฝน ถ้าพร้อมแล้วเตรียมเก็บกระเป๋าไปกันเลยค่ะ
รวม 7 ที่เที่ยวหน้าฝน พักกายฮีลใจไปกับสายฝน
หากคุณกำลังอยากหลีกหนีความวุ่นวาย ไปพักผ่อนใจสัมผัสกับธรรมชาติ ต้นไม้สีเขียว สายฝนอันชุ่มฉ่ำ ผ่อนคลายความเครียดความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก หรือเปลี่ยนบรรยากาศสำหรับพักรักษาใจที่อ่อนล้า การท่องเที่ยวหน้าฝนจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณในเวลานี้เลยทีเดียว ให้ธรรมชาติ ช่วยดูแลจิตใจของคุณพร้อมที่จะกลับมาทำงานใหม่อีกครั้งกับ 7 ที่เที่ยวหน้าฝนที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้ค่ะ
บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่
หากคุณกำลังคิดถึงบรรยากาศฝนตกท่ามกลางนาขั้นบันไดสวยงามเขียวขจีกลางหุบเขา หรืออยากสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติพร้อมกับจิบกาแฟยามเช้าชมวิวนาขั้นบันไดอันสวยงาม บ้านป่าบงเปียง ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ คือคำตอบนี้ บ้านป่าบงเปียง คือหนึ่งในนาขั้นบันไดที่สวยงามที่สุด ยิ่งหากเดินทางไปในช่วงฤดูฝน คุณจะเห็นชาวบ้านกำลังปลูกข้าวบนผืนนาขั้นบันได เพื่อเก็บเกี่ยวไว้กินในช่วงเดือนตุลาคม สำหรับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศนี้ทางหมู่บ้านก็มีบ้านพักโฮมสเตย์กลางทุ่งนาขั้นบันได และอย่าลืมพกพาวเวอร์แบงค์ไปด้วยนะคะ
บ้านจ่าโบ่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นั่งห้อยขากินก๋วยเตี๋ยวบนเขาสูง ท่ามกลางสายฝนและทะเลหมอก จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นั่นก็คือ หมู่บ้านกลางหุบเขาและทะเลหมอก บ้านจ่าโบ้ ปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน อยู่บนเขาสูง 900 เมตร มีแลนด์มาร์คที่ใครมาแล้วจะต้องเช็คอิน หมู่ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา วิวหลักล้าน ก๋วยเตี๋ยวราคาหลักสิบ จิบกาแฟยามเช้าได้บรรยากาศฟินสุด ๆ หรือจะพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านละหู่สัมผัสบรรยากาศสายฝนกลางหุบเขา เย็นฉ่ำ สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด แถมยังได้สัมผัสกับทะเลหมอกอย่างใกล้ชิดติดที่พักเลยทีเดียว
ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
สำหรับใครที่ชื่นชอบการเที่ยวภูเขา แคมป์ปิ้ง ภูทับเบิก เป็นหนึ่งในลิสต์สำหรับคนรักธรรมชาติต้องไปพลาด เพราะความสวยงามของภูทับเบิก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน แม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่น แต่ก็ยังมีความงามตามธรรมชาติที่สวยไม่แพ้กับฤดูหนาว เพราะคุณจะพบกับทะเลหมอกในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน หลายคนต่างบอกว่าทะเลหมอกในช่วงฤดูฝนต้องยกให้กับภูทับเบิกที่มีความงามตามธรรมชาติตัดสลับความเขียวชะอุ่มของต้นไม้เรียกได้ว่าไม่ว่าจะมาฤดูฝนหรือฤดูหนาว ภูทับเบิก เป็นแลนมาร์คสำคัญที่สายรักธรรมชาติห้ามพลาด ทั้งนี้หากคนที่ขับรถไปเองอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางเนื่องจากถนนที่คดเคี้ยวประกอบกับช่วงฝนตก จึงต้องมีการศึกษาเส้นทาง ตรวจเช็กรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง
วังน้ำเขียว นครราชสีมา
วังน้ำเขียว ได้รับการขนานนามว่า สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เพราะวังน้ำเขียว มีอากาศที่สดชื่นบริสุทธิ์อยู่ท่ามกลางภูเขาและธรรมชาติที่สดชื่น ยิ่งช่วงหน้าฝนแล้ว อากาศยิ่งสดชื่น นอนสบาย นอกจากนี้ยังมีจุดเช็คอินที่มาวังน้ำเขียวแล้วต้องแวะ เช่น ผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน มอนทาน่าฟาร์ม วัดบ้านไร่ 2 วังน้ำเขียวฟาร์ม อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง น้ำตกม่านฟ้า วิลเลจฟาร์ม แอนด์ ไวน์เนอรี่
ภูป่าเปาะ จังหวัดเลย
ภูป่าเปาะ หรือ ฟูจิเมืองเลย อยู่บนความสูง 900 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยภูป่าเปาะมีจุดชมวิว 4 จุด โดยการเดินทางไปจุดชมวิวนั้น จะต้องนั่งรถอีแต๊กขึ้นไป และในระหว่างทางนั้นเราจะได้สัมผัสถึงความสวยงามของธรรมชาติรอบตัว และแลนมาร์คสำคัญที่เราเห็น คือ ภูหอ หรือ ฟูจิเมืองเลย เพราะภูเขานี้มีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นแบ็กกราวด์ถ่ายรูปที่สวยงามเหมือนไปอยู่ญี่ปุ่น และยิ่งบรรยากาศฝนตกด้วยแล้ว เราจะได้สูดทั้งอากาศที่สดชื่น ต้นไม้ภูเขาเขียวชะอุ่มอีกด้วย จากจุดชมวิวภูหอ จะมายังจุดชมวิวที่สูงที่สุด จุดนี้เราจะสามารถชมวิวได้อย่าง 360 องศา โดยจุดเราจะสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก และยังเห็นสถานที่สำคัญอีก 4 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน ขอนแก่น อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพชรบูรณ์ วนอุทยานแห่งชาติ นายูง-น้ำโสม อุดรธานี และ ถ้ำเอราวัณ หนองบัวลำภู อีกด้วย
คีรีวงกต อุดรธานี
อีกหนึ่งสถานที่ฮีลใจในช่วงหน้าฝน หลีกหนีความวุ่นวายสู่ธรรมชาติช่วยบำบัดสู่หมู่บ้านกลางหุบเขาที่เงียบสงบ หมู่บ้านคีรีวงกต อำเภอนายูง จ.อุดรธานี โดยหมู่บ้านคีรีวงกต มีกิจกรรมหนึ่งที่เราไม่ควรพลาด คือ การล่องแก่งรถอีแต๊กผ่านธารน้ำ เทือกเขา สวนผลไม้ ไปยังน้ำตกห้วยช้างพลายเพื่อลงเล่นน้ำ และกินอาหารกลางวันกลางธรรมชาติ ถ้าใครหลงสเน่ห์ธรรมชาติของหมู่บ้านคีรีวงกต ก็สามารถพักโฮมสเตย์สักคืนและยิ่งในช่วงนี้สำหรับที่ชอบล่าทางช้างเผือกก็อาจมีลุ้น เพราะหากโชคดีที่ฝนไม่ตก คุณอาจจะได้ภาพทางช้างเผือกสมใจได้ ตื่นเช้ามาก็นั่งรถอีแต๊กไปชมทะเลหมอกคีรีวงกตยามเช้าตัดกับภูเขา ต้นไม้เขียวชะอุ่มก่อนกลับบ้าน สำหรับทริปการมาคีรีวงกตมีทั้งแบบ Day-Trip และนอนค้างคืน
เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เปลี่ยนบรรยากาศจากการนอนกลางหุบเขา มานอนแพที่เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือเขื่อนรัชชประภา ได้รับการขนานนามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” ด้วยความสวยงามของน้ำในเขื่อนที่เป็นสีเขียวมรกตสวยงาม และแลนมาร์คสำคัญที่ต้องไปเก็บภาพเมื่อมาที่เขื่อนเชี่ยวหลานก็คือ “เขาสามเกลอ” ซึ่งมีความคลึงกับกุ้ยหลินนั่นเอง นอกจากนี้จุดที่ไม่ควรพลาดคือการเดินเท้าและล่องแพเข้าไปทะเลใน เข้าไปดูถ้ำปะการัง เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยคล้ายปะการัง จากนั้นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดคือจุดชมวิวไกรสร เมื่อขึ้นไปแล้วเราจะเห็นเขื่อนเชี่ยวหลานแบบมุมสูงสุดลูกหูลูกตา จากนั้นกลับมาพักผ่อนนอนแพค้างคืน นอนดูดาว พักกายพักใจ หรือจะทำกิจกรรมพายเรือคายัค
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับการท่องเที่ยวหน้าฝน
การท่องเที่ยวช่วงหน้าฝน เป็นการผจญภัยอย่างหนึ่งที่หลายคนไม่ควรพลาด เพราะคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม ชุ่มฉ่ำ เขียวขจี แถมยังได้นอนฟังเสียงฝนตกโปรยปรายท่ามกลางธรรมชาติที่หาไม่ได้ในเมือง นอกจากความสุขที่ได้รับจากการท่องเที่ยวหน้าฝนแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คืออุปกรณ์แบ็คแพค ดังนี้
- กระเป๋าสะพายกันน้ำ หรือพลาสติกคลุมกระเป๋า
- ไฟฉาย
- เพาเวอร์แบงค์
- เสื้อกันฝนหรือร่ม
- รองเท้าบูธกันน้ำ หรือถุงคลุมรองเท้า
- ยากันยุง โลชั่นกันยุง
- ยาประจำตัว และยาสามัญประจำบ้าน
- ผ้าขนหนู
- ทิชชู่และทิชชู่เปียก
ฝนนี้ไม่มีเหงา ออกไปเปิดหูเปิดตา สัมผัสกับธรรมชาติอันชุ่มฉ่ำ กับ 7 สถานที่เที่ยวหน้าฝน ที่เราได้แนะนำกันในวันนี้ จะไปชิล ๆ คนเดียว ไปสวีทเป็นคู่ หรือไปกับครอบครัวเพื่อนฝูง ก็ทำให้ฤดูฝนนี้ไม่มีเหงา แถมยังเป็นการพักกายพักใจจากวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงานมาตลอดปี ก่อนออกเดินทางอย่าลืมเช็กรถตามจุดสำคัญที่เราได้แนะนำไว้แล้วก่อนออกเดินทาง เช็กลมยางรถยนต์ ระบบของเหลวต่าง ๆ ระบบไฟ เพื่อความปลอดภัย และอย่าลืมมีประกันรถติดไว้ เพื่อความอุ่นใจในการเดินทาง สนใจทำประกันการเดินทางไกล คลิก
