บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)

ความรู้เกี่ยวกับรถ

8 วิธีดูแล แอร์รถยนต์ ให้เย็นไปนาน ๆ ต้องทำอย่างไร

เนื้อหาของบทความ

แอร์รถยนต์ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง หากเกิดปัญหาแอร์รถไม่เย็นกับรถของใครแล้วละก็อาจจะเป็นปัญหาใหญ่เลยก็ว่าได้ ทั้งนี้คุณสามารถดูแลแอร์รถยนต์ของตัวเองให้เย็นฉ่ำเหมือนเมื่อครั้งที่ถอยรถออกมาใหม่จากศูนย์ บทความนี้จะมาแนะนำ 8 วิธีดูแลแอร์รถยนต์ให้เย็นไปนาน ๆ มาฝากค่ะ

รวมวิธีดูแล แอร์รถยนต์ ด้วยตัวเอง

แอร์รถยนต์ คืออุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งภายในรถที่ช่วยเพิ่มความเย็นสบายในการเดินทาง ยิ่งเมืองไทยเป็นเมืองร้อน อากาศอบอ้าวเป็นส่วนใหญ่ หากไม่มีแอร์รถยนต์ค่อยช่วยให้ความเย็นสบายในการเดินทาง คิดว่าใครก็คงไม่อยากเดินทางด้วยรถยนต์ที่ไม่มีแอร์รถยนต์แน่นอน นอกจากนี้ในช่วงฤดูฝนแม้ว่าอากาศจะเย็นสบาย แต่เราก็ไม่สามารถขับรถโดยเปิดหน้าต่างได้ หรือครั้นจะปิดแอร์รถยนต์เพื่อเดินทางก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เนื่องจากในช่วงหน้าฝนหากเราปิดแอร์รถยนต์ อาจจะทำให้เกิดฝ้าที่กระจกรถ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นทัศนวิสัยภายนอกได้อย่างชัดเจนมากนัก แต่หากเปิดแอร์รถยนต์ด้วยอุณหภูมิที่เย็นจัดจนเกินไป ก็จะทำให้เกิดฝ้าที่กระจกเช่นเดียวกัน เนื่องจากอุณหภูมิภายในรถกับนอกรถไม่เท่ากันนั่นเองจึงทำให้เกิดฝ้าที่กระจกรถยนต์ 

ทั้งนี้เมื่อเวลาผ่านไปผู้ใช้รถหลายท่านอาจเคยเจอปัญหาแอร์รถยนต์ไม่เย็นบ้าง แอร์รถยนต์ไม่เย็นมีแต่ลมบ้าง แอร์เสียไม่ทำงานบ้าง ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแอร์รถยนต์ที่มีปัญหามีราคาค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นการใช้แอร์รถยนต์ที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้แอร์รถยนต์มีปัญหา แอร์รถยนต์ไม่เย็น หรือปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น จึงเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ควรทราบและนำไปปฏิบัติให้ถูกต้องได้ โดยเราได้รวม 8 วิธีดูแลแอร์รถยนต์ให้เย็นฉ่ำไปนาน ๆ เหมือนตอนที่ถอยรถออกมาจากศูนย์ใหม่ ๆ กันค่ะ

ปิด A/C ก่อนถึงจุดหมาย

หากคุณกำลังขับรถยนต์ใกล้ถึงที่หมายแล้ว ให้ทำการปิดสวิตช์ A/C หรือเป็นสวิตช์ปรับอากาศ พร้อมกับการเปิดพัดลมระดับแรงสุด วิธีนี้จะช่วยให้ความเย็นและความชื้นออกจากระบบแอร์ ซึ่งความชื้นนี้เป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหากลิ่นอับภายในรถอีกด้วย โดยสาเหตุที่ทำให้รถเกิดกลิ่นอับในรถมีดังนี้

แอร์รถมีกลิ่นอับเกิดจากสาเหตุใด

ผู้ใช้รถหลายท่านมักเจอปัญหารถมีกลิ่นอับ กลิ่นชื้น หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้รถของคุณเกิดปัญหารถมีกลิ่นอับนั้นมีหลายสาเหตุ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยของปัญหารถมีกลิ่นอับ มักจะเกิดจาก การที่มีความชื้นสะสมอยู่ในคอยล์เย็น สำหรับคอยล์เย็นนี้ จะทำหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนถ่ายเทความร้อน พัดลมจะเอาอากาศร้อนในห้องโดยสารมาโดนคอยล์เย็น ความร้อนนี้จะทำการแลกเปลี่ยนถ่ายเทไปสู่สารทำความเย็น สารทำความเย็นเหลว จะถูกความร้อนเข้าไปแล้วระเหยกลายเป็นไอ ส่วนลมร้อนที่ถูกถ่ายเทไปสู่สารทำความเย็นแล้ว ลมที่ผ่านคอยล์เย็นออกมาจะกลายเป็นลมเย็นเข้ามาสู่ในห้องโดยสาร จะเห็นว่าอากาศที่เข้ามาในรถผ่านคอยล์เย็น หากคอยล์เย็นมีความชื้นสะสมจนเกิดเชื้อรา จึงทำให้รถมีกลิ่นอับชื้นตามมานั่นเอง สาเหตุต่อมาที่ทำให้รถมีกลิ่นอับคือ มีการสะสมความชื่นบริเวณกรองแอร์ทำให้สกปรก ช่องระบายอากาศอุดตัน จนทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับตามมา นอกจากนี้การนำอาหารเข้าไปกินในรถ โดยเฉพาะอาหารที่มีกลิ่นแรงต่าง ๆ หรือการซื้อของสดไว้ในรถ ก็ทำให้รถมีกลิ่นอับติดรถได้เช่นเดียวกัน

ไม่เปิดกระจกขับรถบ่อย

ผู้ใช้รถบางคนอาจจะชอบขับรถเปิดกระจก เพื่อสัมผัสกับอากาศธรรมชาติโดยเฉพาะในช่วงเริ่มเข้าสู่หน้าหนาว แต่การเปิดกระจกขับรถบ่อยครั้ง จะทำให้ฝุ่นละออง เขม่าควันจากภายนอกเข้ามาอุดตันในตู้แอร์ ทำให้แอร์รถยนต์ตัน แอร์รถไม่เย็น หรือลมออกน้อยนั่นเอง

ล้างแอร์-เปลี่ยนไส้กรองแอร์

เขม่าควัน ฝุ่นละอองตามท้องถนน มักจะเกาฟะตามไส้กรองอากาศ แนะนำว่าคุณควรนำรถไปเปลี่ยนไส้กรองแอร์ทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร แต่หากคุณจะต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่ฝุ่นเยอะ พื้นที่ก่อสร้าง การจราจรติดขัด ควรเปลี่ยนไส้กรองแอร์ทุก 10,000 กิโลเมตร นอกจากการเปลี่ยนไส้กรองแอร์แล้ว การล้างแอร์ทุก 2 ปี หรือทุก 30,000 กิโลเมตร ก็ยังช่วยกำจัดสิ่งสกปรกในระบบแอร์รถยนต์ได้ดีอีกด้วย

ไม่ควรตั้งอุณหภูมิแอร์ให้เย็นจัด

แม้ว่าแอร์รถยนต์จะสามารถปรับอุณหภูมิได้หลายระดับ แต่ถ้าอยากให้แอร์รถยนต์ของคุณเย็นไปนาน ๆ สิ่งหนึ่งที่ควรทำคือ ไม่ควรตั้งอุณหภูมิแอร์รถยนต์ให้เย็นจัดหรือปรับความเย็นของแอร์รถยนต์ให้เย็นจนสุด เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักจนเกินไป

เริ่มเปิดแอร์ใหม่ไม่เร่งแอร์เย็นจนสุด

ก่อนที่จะสตาร์ทรถยนต์เพื่อออกเดินทาง ให้ปิดปุ่ม A/C ก่อน เพื่อไม่ใช้คอมเพรสเซอร์ทำงานโดยทันที แต่ควรสตาร์ทรถอุ่นเครื่องยนต์ซักพักก่อนที่จะเปิดแอร์ต่อไป

ดูดฝุ่นภายในรถเป็นประจำ

แม้ว่าคุณจะขับรถยนต์โดยปิดกระจกรถทั้ง 4 ด้าน แต่ฝุ่นก็ยังสามารถเข้ามาในรถได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้การดุดฝุ่นภายในรถเป็นประจำนอกจากจะลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรคแล้ว ยังช่วยให้ฝุ่นไม่เกาะหรือเข้าไปอุดตันในระบบแอร์ของรถอีกด้วย ทำให้อากาศภายในรถสะอาด หายใจโล่งมากยิ่งขึ้น

ไม่ควรใส่การบูรหรือพิมเสนไว้ในรถ

สมัยก่อนเรามักจะเห็นบางคนนิยมนำการบูรพิมเสนใส่ในถุงตาข่ายแขวนไว้ในรถ หรือน้ำหอมติดรถยนต์ เพื่อช่วยดับกลิ่นภายในรถบ้าง ช่วยให้มีกลิ่นหอมสดชื่นบ้าง แต่รู้หรือไม่การนำการบูรและพิมเสนใส่ไว้ในรถ ยิ่งเป็นอันตรายต่อระบบปรับอากาศภายในรถ เพราะการบูร พิมเสน หรือน้ำหอมติดรถยนต์ ออกฤทธิ์โดยการระเหิดไปทั่วภายในรถ แต่ส่วนผสมที่ระเหยออกไปนั้นมันจะไปเกาะในระบบแอร์ นานวันเข้าเมื่อส่วนผสมเหล่านี้บวกกับความชื้นภายในช่องแอร์ และฝุ่นละอองต่าง ๆ กลายเป็นสารเหนียวเกาะภายในตู้แอร์ ทำให้ตู้แอร์ตัน แอร์ไม่เย็นบ้าง ลมออกน้อยบ้าง หรืออาจหนักว่านั้นคือทำให้คอยล์เย็นถูกกัดกร่อนจนพังได้

หากแอร์ไม่เย็นให้รีบนำไปเช็ก

สุดท้ายแล้วหากคุณพบว่าแอร์รถยนต์ของคุณไม่เย็น  แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แนะนำให้นำไปตรวจเช็กกับช่างซ่อมรถ เพื่อจะได้ทราบปัญหาที่แท้จริงของว่าทำไมแอร์รถยนต์ของคุณไม่เย็นฉ่ำเหมือนเดิม โชคดีหน่อยก็อาจจะแค่น้ำยาแอร์รถยนต์ใกล้หมดหรือหากโชคไม่ดีนักอาจเกิดจากระบบแอร์รถยนต์ของคุณมีปัญหาต้องรีบทำการซ่อมต่อไป

สาเหตุที่ทำให้ แอร์รถยนต์ ไม่เย็น

แอร์รถไม่เย็นมีแต่ลม อากาศร้อนแอร์รถไม่เย็น แอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง หากเคยมีอาการเหล่านี้ อย่าปล่อยให้เกิดขึ้นกับรถของคุณบ่อยครั้ง เพราะสัญญาณเหล่านี้กำลังแสดงให้เห็นว่ารถยนต์ของคุณกำลังเกิดความผิดปกติแล้ว บางคนอาจจะปล่อยให้อาการแอร์รถยนต์ไม่ค่อยเย็นนี้เป็นไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้รับการตรวจเช็กและแก้ไขอาจส่งผลให้รถเสียในภายหลังได้ สำหรับปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลให้แอร์รถไม่เย็นบ้าง ลองมาตรวจสอบไปพร้อม ๆ กันค่ะ

น้ำยาแอร์ขาด/หมด

น้ำยาแอร์ขาดหรือหมด เป็นสาเหตุหลักส่วนใหญ่ที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่ค่อยเย็น น้ำยาแอร์ยิ่งน้อยก็จะทำให้แอร์รถเย็นน้อยลงจนทำให้แอร์รถไม่เย็นมีแต่ลมออกมา เบื้องต้นให้ทำการแก้ไขโดยการลองสตาร์ทรถ กดปุ่ม A/C ให้คอมเพรสเซอร์ทำงาน สังเกตแผงระบายความร้อนหน้ารถหากพบว่ามีฟองขาว แสดงว่าน้ำยาแอร์ใกล้หมดให้เติมน้ำยาแอร์

เกิดรอยรั่วซึมที่ตู้แอร์

ปัญหาที่สองของแอร์รถยนต์ไม่ค่อยเย็น อาจจะเกิดจากความผิดปกติของตู้แอร์ สายท่อแอร์ และส่วนของข้อต่อ ที่อาจเกิดรอยรั่ว ทำให้แรงดันแอร์ตก จึงทำให้แอร์รถไม่เย็น เบื้องต้นลองผสมน้ำกับแชมพู ราดตามข้อต่อของระบบแอร์ หากพบว่ามีฟองอากาศปรากฎขึ้นมาจุดไหน แสดงว่าจุดนั้นมีรอยรั่วซึมอยู่นั้นเอง

แผงคอยล์ร้อนมีปัญหา

ปัญหาต่อมาที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่ค่อยเย็น คือระบบระบายความร้อนบนแผงคอยล์ร้อนมีปัญหา สามารถสังเกตได้จากพัดลมหน้าแผงคอยล์ร้อนว่าหมุนช้า มีเสียงดัง หรือสกปรกหรือไม่ ถ้าหากมีตามที่กล่าวมาอาจจะต้องเปลี่ยนพัดลมใหม่หรือทำความสะอาดเพื่อให้สามารถระบายความร้อนของน้ำยาแอร์ได้ดีเหมือนเดิม

ลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวม

ปัญหาต่อมาที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่ค่อยเย็น คือการที่ลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวม จะส่งผลให้ระดับความดันของน้ำยาแอร์มีน้อย ส่งผลให้ปริมาณน้ำยาแอร์ที่ส่งเข้าคอยล์เย็นไม่พอที่จะทำให้แอร์เย็นได้ เบื้องต้นสามารถทดสอบได้โดยการติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ หากเร่งเครื่องแล้วแอร์เย็นแสดงว่าลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวมนั่นเอง ทางแก้คือต้องเปลี่ยนลูกสูบใหม่

ชุดวาล์วและดรายเออร์อุดตัน

ปัญหาต่อมาที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่ค่อยเย็น คือ ชุดวาล์วและดรายเออร์อุดตัน เพราะทำให้แรงดันน้ำยาแอร์ที่ออกจากคอมเพรสเซอร์ไหลผ่านเข้าคอยล์เย็นได้ไม่ดี เบื้องต้นสามารถทดสอบได้โดยการติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์หากลมแอร์ไม่เย็นและมีเสียงดังเกิดขึ้น ให้ลองเร่งเครื่องแล้วถ้าแอร์รถกลับมาเย็นแสดงว่าชุดวาล์วและดรายเออร์อุดตัน ต้องเปลี่ยนชุดใหม่

คลัตช์ลื่น

ปัญหาต่อมาที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่ค่อยเย็น คือ คลัตช์คอมเพรสเซอร์จับไม่สนิท หรือคลัตช์ลื่น ทำให้แอร์รถไม่เย็นมีแต่ลม เกิดจากกระแสไฟส่งมาที่คลัตช์แม่เหล็กน้อยไม่พอที่จะทำให้คลัตช์คอมเพรสเซอร์ติดเข้ากับมูลเลย์ หน้าคลัตช์ไม่จับกัน จึงทำให้แอร์เย็นบ้างไม่เย็นบ้างนั่นเอง อาจจำเป็นต้องปรับแต่งหรือเปลี่ยนหน้าหน้าคลัตช์ใหม่

สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์หย่อน

สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์หย่อนมากเกินไป ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์หมุนได้ไม่ดีหรือไม่สามารถหมุนได้ทำให้แอร์รถไม่เย็น หรือแอร์รถไม่เย็นมีแต่ลม สามารถแก้ไขโดยการปรับระดับสายพานให้ตึง แต่ถ้าสายพานมีรอยฉีกขาดควรเปลี่ยนเส้นใหม่ ไม่ควรใช้เส้นเดิม

ใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภท

หากใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภทหรือน้ำยาแอร์ที่ผสมน้ำยาปลอมไม่สามารถทนแรงดันสูงที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ได้ออกแบบไว้ แถมยังทำให้อุปกรณ์ภายในเครื่องยนต์เกิดเสียหายทีละน้อยและหมดอายุการใช้งานก่อนกำหนด

กลิ่นในรถกับสัญญาณเตือนความผิดปกติของรถ

หากคุณเคยได้กลิ่นแอร์รถยนต์ของคุณนั้นไม่สดชื่นเหมือนก่อน มีกลิ่นแปลก ๆ ออกมาจากช่องแอร์รถยนต์ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณบอกอาการผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับรถของคุณ ส่วนจะมีกลิ่นแปลกจากรถยนต์ใดบ้างที่คุณควรระวังและรับนำไปตรวจเช็กบ้างมาดูกันค่ะ

กลิ่นท่อไอเสีย

หากได้กลิ่นท่อไอเสียลอยออกมาจากลิ้นชักคอนโซล ต้องนำรถเช็กระบบท่อไอเสียที่อู่ซ่อมรถโดยเร็ว

กลิ่นเหมือนยางไหม้

หากได้กลิ่นที่เหม็นเหมือนยางถูกเผา อาจเกิดจากความผิดปกติส่วนที่เป็นยาง หรืออาจจะมีถุงพลาสติกไปติดอยู่ใต้เครื่อง แต่หากไม่มีถุงพลาสติกติดอยู่ ควรนำรถไปอู่ซ่อมรถเพื่อทำการตรวจเช็กความผิดปกตินี้ต่อไป

กลิ่นเหมือนไข่เน่า

หากได้กลิ่นไข่เน่า สัญญาณว่าระบบฟอกไอเสียกำลังทำงานหนักมากเกินไป

กลิ่นเหมือนน้ำมันถูกเผา

กลิ่นเหม็นไหม้เหมือนน้ำมันโดนเผา อาจสื่อได้หลายอาการ เช่น ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องรั่ว เครื่องยนต์ทำงานหนักเกินไป เกจ์ความร้อนพัง ควรนำรถไปอู่ซ่อมรถเพื่อทำการตรวจเช็กความผิดปกตินี้ต่อไป

กลิ่นเหมือนผ้าโดนไฟเผา

หากได้กลิ่นเหมือนไฟไหม้ผ้า อาจเกิดจากระบบเบรคหรือผ้าเบรคกำลังมีปัญหา ต้องนำรถไปเช็กให้เร็วที่สุด

กลิ่นน้ำมันเบนซิน

หากได้กลิ่นน้ำมันเบนซินเหมือนตอนที่เราอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน อาจเกิดจากถังน้ำมันหรือท่อน้ำมันรั่ว  หัวฉีดน้ำมันหรือถังดักน้ำมันมีปัญหาหรืออาจลืมปิดฝาน้ำมันหากฝาน้ำมันยังปิดดี คุณควรนำรถไปที่อู่ซ่อมรถโดยเร็ว

กลิ่นหวานเหมือนน้ำเชื่อม

หากได้กลิ่นหวานเหมือนน้ำเชื่อม อาจเป็นไปได้ว่าถังพักน้ำหล่อเย็นรั่ว เบื้องต้นให้ทำความสะอาดถังพักน้ำหล่อเย็น แล้วนำรถไปให้ช่างแก้ไขปัญหา หรือนำรถไปให้ช่างตรวจเช็กที่อู่ซ่อมรถเลย

กลิ่นเหมือนขนมปังปิ้งไหม้

หากได้กลิ่นเหมือนขนมปังปิ้งไหม้ น่าจะเกิดจากระบบไฟกำลังมีปัญหา สายไฟอาจจะขาดหรือไหม้ ควรนำรถไปอู่ซ่อมรถเพื่อทำการตรวจเช็กความผิดปกตินี้ต่อไป

กลิ่นเหมือนผมไหม้

ถ้าได้กลิ่นเหมือนเส้นผมไหม้อาจจะมีหนูหรือสัตว์เข้าไปอาศัยอยู่ในกระโปรงรถก็เป็นได้

แอร์รถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ขับรถยนต์ เพราะจะช่วยให้ภายในรถมีอากาศที่เย็นสบาย เย็นฉ่ำ ขับรถเดินทางได้อย่างสบาย ไม่ต้องทนอากาศร้อนอบอ้าวเหมือนกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์ ทั้งนี้นอกจากเราจะใช้แอร์รถยนต์เพื่อเพิ่มความเย็นสบายให้กับเราแล้ว ก็ควรจะใช้งานแอร์รถยนต์อย่างถูกวิธี เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์รถยนต์ให้เย็นไปนาน ๆ เพราะถ้าหากแอร์รถยนต์ผิดปกติหรือระบบแอร์เสีย คุณอาจจะต้องมานั่งปวดหัวเสียค่าซ่อมแอร์รถยนต์นั่นเอง ทั้งนี้แอร์รถยนต์ช่วยให้การเดินทางมีความสบายแล้ว การทำประกันรถยนต์ติดไว้สักแผน ก็เป็นการเพิ่มความสบายใจในการเดินทาง อย่างน้อยนอกจากการทำพ.ร.บ.แล้ว ก็ยังมีความคุ้มครองจากการทำประกันรถยนต์ คอยช่วยเหลือคุณในยามฉุกเฉินอีกได้ด้วย เรียกได้ว่าสบายกายและสบายใจตลอดการเดินทาง แนะนำซื้อประกันรถยนต์ที่เฮงลิสซิ่ง ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้ สนใจเลือกแผนประกันรถยนต์ คลิก

vara

Share
Published by
vara

Recent Posts

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือ ประกัน PA คืออะไร?

ปกป้องคนที่คุณรักด้วยการทำ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือ ประกัน PA เพราะอุบัติเหตุเล็ก ๆ และอุบัติเหตุไม่คาดฝัน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน

11 hours ago

‘เฮงลิสซิ่ง’ สนับสนุนน้ำดื่ม กิจกรรมตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงวัณโรค รพ.สต.บ้านสันคะยอม เชียงใหม่

‘เฮงลิสซิ่ง’ สนับสนุนน้ำดื่ม กิจกรรมตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงวัณโรค รพ.สต.บ้านสันคะยอม เชียงใหม่ บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพของคนใน ชุมชน มอบน้ำดื่มสำหรับบริการกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับบริการตรวจคัดกรองวัณโรคโดยรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ โดย…

5 days ago

เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสาน “งานประเพณีบุญบั้งไฟล้าน ปี 2567” จ.กำแพงเพชร

บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมอนุรักษ์การสืบทอดศิลปะ ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดีงามของชาวบ้านนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งจุดบริการน้ำดื่ม “น้ำเฮง น้ำใจ” แก่ประชาชน

6 days ago

5 คีย์เวิร์ดหลักช่วยสร้าง ภูมิคุ้มกันทางการเงิน ที่ดี

การสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดี คือการศึกษาความรู้ทางการเงินตั้งแต่ยังเด็ก วันนี้เราจะชวนคุณมาสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดีในบทความนี้

1 week ago

10+1 เทคนิค วางแผนการเงิน ในชีวิตประจำวัน 

มัดรวมเทคนิค วางแผนการเงิน ในชีวิตประจำวัน จากวัยทำงานสู่วัยเกษียณ เพิ่มความั่นคงทางการเงิน ไม่เกิดปัญหาหนี้สินในอนาคต อ่านต่อในบทความนี้

1 week ago

รวมพื้นฐาน ความรู้ทางการเงิน ที่ทุกคนควรรู้ 

ความรู้ทางการเงิน Financial Literacy เป็นการทำความเข้าใจการเงินในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้คุณมีนิสัยทางการเงินที่ดีในอนาคต

1 week ago