บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
เนื้อหาของบทความ
เชื่อว่าหลายคนอาจจะหยิบใบขับขี่ออกมาจากกระเป๋าตังค์แล้วพบว่าใบขับขี่ของตนหมดอายุไปแล้ว ทั้งที่จริงแล้วการต่อใบขับขี่รถนั้นสามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเดินทางมาต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้อย่างสะดวกไม่ต้องกลัวลืมวันหมดอายุแต่อย่างใด โดยเราสามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือนนั้น เรามีความรู้เรื่องนี้มาฝากกันค่ะ
ใบขับขี่หรือใบขับอนุญาตขับขี่ เป็นเอกสารสำคัญที่ผู้ใช้รถทุกคนต้องพกติดตัวไว้เสมอ ไม่ว่าจะขับรถเดินทางไปที่ไหนก็ตาม ทั้งนี้สำหรับคนที่เคยลืมต่อใบขับขี่หรือคิดว่าอาจจะไม่สะดวกเดินทางไปทำใบขับขี่ที่ขนส่งในวันที่ตรงกับวันหมดอายุของใบขับขี่นั้น ก็สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ โดยเราสามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือนนั้น เรามีคำอธิบายเกี่ยวกับการ ต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน มาแนะนำค่ะ โดยปกติแล้วในการต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน จะต้องมีการจองคิวออนไลน์เพื่อทำเรื่อง ต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ที่สามารถจองคิวล่วงหน้าเพื่อเลือกวันเวลาเข้าไปทำเรื่องต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้โดย
ใบขับขี่ 2 ปี เป็นใบขับขี่ชั่วคราว หากมีการต่อใบขับขี่ในครั้งต่อไป ก็จะกลายเป็น 5 ปี ซึ่งในการต่อใบขับขี่นั้น สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน คำตอบคือ สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ก่อนหมดอายุ 6 เดือน หรือ 180 วัน โดยมีค่าใช้จ่ายในการต่อใบขับขี่ล่วงหน้าตามประเภทรถดังนี้
1.รถจักรยานยนต์ ต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 255 บาท
2.รถยนต์ ต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 505 บาท
ทั้งนี้หากปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุและมีการนำไปใช้งาน จะผิดกฎหมายพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มีโทษปรับ 2,000 บาทตามมาตรา 66
ใบขับขี่ 5 ปี เป็นใบขับขี่ทั่วไป หากมีการต่อใบขับขี่ในครั้งต่อไป ก็จะยังคงเป็น 5 ปีเหมือนเดิม ซึ่งในการต่อใบขับขี่นั้น สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน คำตอบคือ สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ก่อนหมดอายุ 6 เดือน หรือ 180 วัน โดยมีค่าใช้จ่ายในการต่อใบขับขี่ล่วงหน้าตามประเภทรถดังนี้
1.รถจักรยานยนต์ ต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 255 บาท
2.รถยนต์ ต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 505 บาท
ทั้งนี้หากปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุและมีการนำไปใช้งาน จะผิดกฎหมายพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มีโทษปรับ 2,000 บาทตามมาตรา 66
ก่อนที่เราจะทำการจองคิวเพื่อทำใบขับขี่นั้นก่อนอื่นจะต้องเข้ารับการอบรมก่อน สมัยก่อนเราจะต้องเดินทางไปรอคิวที่ขนส่งเพื่อเข้าอบรมตามรอบที่ทางขนส่งกำหนด แต่ปัจจุบันนี้ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเอารอคิวเพื่ออบรมที่ขนส่งอีกต่อไป เพราะสามารถเข้าระบบ DLT e-Learning เพื่อทำการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้เลย โดยก่อนที่คุณจะเริ่มการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ จะต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ในการเข้าระบบ DLT e-learning เป็นระบบการอบรมใบอนุญาตขับรถ โดยกรมการขนส่งทางบก ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจัดทำขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ COVID -19 และเพิ่มความสะดวกในการต่อใบขับขี่ที่ไม่ต้องเดินทางมาขนส่งอีกด้วย ทั้งนี้ในการอบรมใบขับขี่ออนไลน์สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพขับรถยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะให้สามารถเข้ารับการอบรมใบขับขี่ออนไลน์หลักสูตรการขอรับใบอนุญาตขับรถสาธารณะ อบรมใบขับขี่ออนไลน์รถสามล้อสาธารณะ อบรมใบขับขี่ออนไลน์รถจักรยานยนต์สาธารณะ รวมไปถึงการอบรมหลักสูตรการขอรับบัตรประจำตัวคนขับรถ ผ่านระบบ DLT e-learning ได้ โดยการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่านระบบ DLT e-learning สามารถเชื่อมต่อผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนได้ โดยจะต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยนั่นเอง
สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้ทั้งสมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ได้ทั้งคู่ แต่สำคัญคือต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้คุณยังต้องเตรียมเอกสารเพื่อให้สำหรับกรอกข้อมูลลงในระบบดังนี้
ก่อนที่คุณจะเริ่มการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ จะต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ในการเข้าระบบ DLT e-learning สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้ทั้งสมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ได้ทั้งคู่ แต่สำคัญคือต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้คุณยังต้องเตรียมเอกสารเพื่อให้สำหรับกรอกข้อมูลลงในระบบดังนี้
1.เตรียมข้อมูลให้พร้อม ได้แก่ บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และวันเดือนปีเกิด สำหรับลงทะเบียนในระบบ DLT e-learning
2.เตรียมเวลาให้ว่าง ในการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ แม้ว่าจะสามารถนั่งอบรมที่ไหนก็ได้ แต่เนื่องจากต้องใช้เวลาในการอบรมไม่ต่างจากการไปอบรมที่ขนส่ง เพราะฉะนั้นคุณจำเป็นต้องหาเวลาที่ว่าง สะดวก และไม่มีธุระ เพื่อนั่งอบรมใบขับขี่ออนไลน์นี้ ประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ใบขับขี่แต่ละประเภทจะใช้เวลาในการอบรมใบขับขี่ออนไลน์แตกต่างกัน
หลังจากที่เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราก็เข้ามาสู่ขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ซึ่งขั้นตอนนั้นไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน โดยมีวิธีการเข้าอบรมใบขับขี่ออนไลน์ดังนี้
1.เริ่มต้นต่อใบขับขี่ออนไลน์ ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/Home
2.กดปุ่ม “ลงทะเบียน” สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนเข้าใช้งาน
3.กรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน ประกอบไปด้วยเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด
4.เลือกการอบรมตามใบอนุญาตขับรถที่ต้องการต่ออายุ ประกอบไปด้วย ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) ระยะเวลาการอบรม 1 ชั่วโมง ใบอนุญาตขับรถขนส่ง ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง และใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ) ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง
4.เลือกข้อ1.แบบทดสอบก่อนอบรม
5.ทำแบบทดสอบก่อนอบรม
6.ดูวิดีโออบรมใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล
7.ทำแบบทดสอบหลังอบรม เมื่อเรียบร้อยแล้วให้กดส่งข้อสอบ
8.เมื่อผ่านการอบรมแล้ว ให้บันทึกหน้าจอผลการอบรมเก็บไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอต่อใบอนุญาตที่กรมการขนส่งต่อไป โดยผลการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์จะมีอายุ 90 วัน นับจากวันที่ผ่านการอบรม
หลังจากที่ได้ทำการอบรมออนไลน์เรียบร้อยแล้ว ก็มาที่ขั้นตอนการจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อจองเวลาที่จะเข้าไปทำเรื่องที่ขนส่งต่อ ซึ่งสามารถจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้ที่แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ซึ่งสามารถโหลดได้ทั้ง iOS และ Android เพื่อจองคิวทำใบขับขี่ โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เพื่อทำการจองคิวต่อใบขับขี่
2.เมื่อเข้าแอปพลิเคชันแล้ว ให้เลือกสำนักงานขนส่งที่เราต้องการเข้าไปต่อใบขับขี่
3.เลือกหัวข้อ “งานใบอนุญาต” และเลือกการต่ออายุรถตามประเภทของรถ
4.เลือกวันที่เราสะดวกจะเข้าไปที่ขนส่ง ซึ่งมีให้เลือกหลายรอบทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย หลังจากที่เลือกได้แล้ว ให้ทำการยืนยันการจอง และบันทึกหน้าจอเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานแสดงให้เจ้าหน้าที่ในวันที่เราไปขนส่ง
5.เมื่อถึงวันที่เราทำการจองไว้ เตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อนำไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ และจะต้องทำการทดสอบสายตา ระบุสีจราจร ทดสอบการเหยียบคันเร่งและเบรก ตามปกติ
6.รอถ่ายรูปติดบัตรและชำระค่าธรรมเนียมเป็นอันเสร็จ
**สำหรับผู้ที่สามารถต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีใบขับขี่อยู่แล้ว ผู้ที่มีใบขับขี่แต่หมดอายุไปแล้วไม่เกิน 1 ปี รวมไปถึงผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่ล่วงหน้า ซึ่งสามารถทำได้ไม่เกิน 90 วัน**
ใบขับขี่ส่วนบุคคลแบบ 5 ปีเป็น 5 ปี (ต่อล่วงหน้าได้ 3 เดือน) อบรม 1 ชั่วโมง
ใบขับขี่ พรบ.ขนส่ง (ต่อล่วงหน้าได้ 6 เดือน) อบรม 2 ชั่วโมง
ใบขับขี่สาธารณะ (ต่อล่วงหน้าได้ 3 เดือน) อบรม 3 ชั่วโมง
*ผลการอบรมการต่ออายุใบอนุญาตขับรถมีอายุ 90 วันนับจากวันที่ผ่านการอบรมเท่านั้น
หลังจากที่ได้มีการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่านระบบ DLT e Learning และ จองคิวออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เพื่อเลือกวันที่สะดวกที่จะเข้ามาทำใบขับขี่รถที่ขนส่งแล้ว เราจะต้องเตรียมเอกสารดังนี้
1.ภาพบันทึกหน้าจอวันและเวลาที่ทำการจองคิวเข้ามา
2.ใบขับขี่ปัจจุบัน
3.บัตรประจำตัวประชาชน
4.ใบรับรองแพทย์
เมื่อเตรียมเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ให้มาที่ขนส่งตามวันและเวลาที่นัดหมาย เพื่อเตรียมยื่นเอกสารและใบคำขอโดยที่ไม่ต้องเสียเวลานั่งฟังอบรมแล้ว เพราะเราได้อบรมใบขับขี่ออนไลน์มาก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นก็เข้าคิวรับการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ การทดสอบทางสายตา การทดสอบการมองเห็น และการทดสอบปฏิกิริยาเท้า และเมื่อทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายแล้ว ก็รอถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่เป็นอันเสร็จเรียบร้อย โดยมีคลิปวิดีโอแนะนำการทดสอบสมรรถภาพร่างกายจากกรมการขนส่งดังนี้ค่ะ
สรุปแล้วการต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือนนั้น เราสามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ ก่อนหมดอายุ 6 เดือน หรือ 180 วัน ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่นานพอสมควรที่จะทำให้คุณสามารถวางแผนเรื่องของเวลาในการเข้าอบรมใบขับขี่ออนไลน์เพื่อทำการจองคิวเพื่อเข้ามาทำใบขับขี่ขนส่งต่อไป จะได้ไม่หลงลืมจนปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุโดยที่ไม่รู้ตัวได้และหากยังมีการนำใบขับขี่หมดอายุไปใช้เป็นการผิดกฎหมายพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มีโทษปรับ 2,000 บาทอีกด้วย การต่อใบขับขี่ล่วงหน้านอกจากจะช่วยวางแผนเวลาได้ล่วงหน้าแล้ว ยังช่วยให้คุณไม่ต้องเสียค่าปรับเป็นพันอีกด้วย แม้ว่าเราจะมีใบขับขี่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ควรมีพกติดรถไว้ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนนั่นก็คือ การทำประกันภัยติดรถไว้ เพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางเพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ แต่เราสามารถเพิ่มความคุ้มครองไว้ก่อนได้อย่างน้อยหากเกิดปัญหาขึ้นมายังมีบริษัทประกันค่อยช่วยเหลือคุณในยามฉุกเฉินนั่นเอง คุณสามารถเลือกประกันรถยนต์ที่ใช่ในราคาสบายกระเป๋า ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนที่เฮงลิสซิ่งทุกสาขา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมอนุรักษ์การสืบทอดศิลปะ ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดีงามของชาวบ้านนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งจุดบริการน้ำดื่ม “น้ำเฮง น้ำใจ” แก่ประชาชน
การสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดี คือการศึกษาความรู้ทางการเงินตั้งแต่ยังเด็ก วันนี้เราจะชวนคุณมาสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดีในบทความนี้
มัดรวมเทคนิค วางแผนการเงิน ในชีวิตประจำวัน จากวัยทำงานสู่วัยเกษียณ เพิ่มความั่นคงทางการเงิน ไม่เกิดปัญหาหนี้สินในอนาคต อ่านต่อในบทความนี้
ความรู้ทางการเงิน Financial Literacy เป็นการทำความเข้าใจการเงินในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้คุณมีนิสัยทางการเงินที่ดีในอนาคต
ทักษะการเงิน ความรู้ทางการเงิน เป็นสิ่งสำคัญแต่กลับไม่มีการสอนในโรงเรียน แต่วันนี้เราจะมาแนะนำทักษะทางการเงินที่ควรมีติดตัว รู้ก่อนรวยก่อน
‘เฮงลิสซิ่ง’ ร่วมใจทำความดีบริจาคโลหิตและน้ำดื่ม เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ จ.เชียงใหม่ 2567 บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมทำความดีเพื่อสังคม สนับสนุนน้ำดื่มและนำพนักงานจิตอาสา เข้าร่วมบริจาคโลหิตในงาน…