บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)

ความรู้เกี่ยวกับรถ

เรียนรู้ วิธีขับรถเกียร์ออโต้ สำหรับมือใหม่หัดขับรถด้วยตัวเอง

การขับรถยนต์ถือเป็นทักษะพื้นฐานของการใช้ชีวิตประจำวัน หลายคนเลือกที่จะเรียนรู้ วิธีขับรถเกียร์ออโต้ หรือ รถเกียร์อัตโนมัติ ( AT ) เพราะรถยนต์เกียร์ออโต้มีความสะดวก ไม่ซับซ้อน และง่ายต่อการเรียนรู้สำหรับมือใหม่หัดขับ วันนี้เราจะแนะนำวิธีขับรถเกียร์ออโต้ หรือรถเกียร์อัตโนมัติสำหรับมือใหม่หัดขับที่ต้องรู้ค่ะ

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ ต้องทำอย่างไร?

ทักษะพื้นฐานในการขับขี่รถยนต์ เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีกันแต่อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะเลือกเรียนรู้วิธีขับรถเกียร์ธรรมดาหรือเรียนรู้วิธีขับรถเกียร์ออโต้ เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะเรียนรู้วิธีขับรถเกียร์ออโต้มากกว่าที่จะเรียนรู้วิธีขับรถเกียร์ธรรมดา หรือบางคนที่ขับรถเกียร์ธรรมดาเป็นอยู่แล้ว อาจจะเลือกใช้รถเกียร์ออโต้เพราะคำนึงถึงเรื่องความสะดวกสบายในการขับขี่รถยนต์เกียร์ออโต้ ที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องการเหยียบแป้นคลัทช์เพื่อเข้าแต่ละเกียร์ เพราะการขับรถยนต์เกียร์ออโต้ ผู้ขับขี่จะไม่ต้องมานั่งเข้าเกียร์เพื่อเดินหน้าแต่อย่างใด สามารถใส่เกียร์ D เพื่อออกตัวรถได้เลย โดยวิธีขับรถเกียร์ออโต้ ผู้ขับขี่จะต้องเข้าใจการทำงานของเกียร์ในแต่ละเกียร์

การใช้เกียร์ D หรือ Drive

ในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าสำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดาจะต้องมีการเหยียบแป้นคลัทช์ก่อนเข้าเกียร์ 1 และเหยียบแป้นคลัทช์ก่อนที่จะเข้าเกียร์ 2 3 4 5 ตามลำดับ หรือแม้กระทั่งการถอนเกียร์จะต้องเหยียบแป้นคลัทช์เพื่อใส่เกียร์ R หรือ Reverse แต่วิธีขับรถเกียร์ออโต้ เพียงผู้ขับขี่เหยียบเบรคก่อนเพื่อเข้าเกียร์ D หรือ Drive จากนั้นค่อย ๆ ปล่อยเบรคเพื่อให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าจากนั้นแตะคันเร่งเพื่อให้รถเคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่ต้องเพียงเท่านี้ก็ทำให้รถแล่นไปได้ ซึ่หากใครเรียนรู้วิธีขับรถเกียร์ออโต้ จะรู้ว่าเกียร์ D ไม่ได้มีเพียงเกียร์เดียว เพราะยังมีเกียร์ D3 D2  ซึ่งมีหน้าที่แตกต่างกันดังนี้

1.เกียร์ D1,1 และ L – หรือ เกียร์ต่ำ ใช้สำหรับการเคลื่อนที่บนเส้นทางที่มีความลาดชันมาก เช่น ทางที่เป็นเนิน สะพาน หรือภูเขาสูง เพราะเกียร์ 1 จะช่วยฉุดให้เครื่องยนต์เบรคไว้เพื่อให้รถเคลื่นตัวช้าลง เป็นการรักษาผ้าเบรคหมดเร็วอีกด้วย

2.เกียร์ D2 หรือ 2 – มีลักษณะการทำงานที่คล้ายกับเกียร์ D1 หรือ 1 ใช้สำหรับการเคลื่อนที่บนเส้นทางที่มีความลาดชันไม่มากนัก เช่น ทางขึ้นลานจอดห้างสรรพสินค้า

3.เกียร์ D3 ใช้สำหรับถนนหนทางที่ไม่ชันมาก เช่น ทางขึ้นสะพาน เป็นต้น

การใช้เกียร์ P หรือ Parking

เชื่อว่ามือใหม่หัดขับอาจจะกำลังสงสัยว่าระหว่างเกียร์ P และ เกียร์ N มีความแตกต่างกันอย่างไร และในการเรียนรู้วิธีชับรถเกียร์ออโต้ เกียร์ P จะใช้สำหรับจอดรถให้นิ่งสนิท เป็นการล็อคระบบกระปุกเกียร์ไม่ให้เคลื่อนที่ จึงใช้ในการจอดรถตามชื่อ Parking นั่นเองจึงทำให้รถไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเข็นรถได้ ส่วน เกียร์ N หรือ Neutral เกียร์ว่าง นั่นหมายความว่าเกียร์นี้จะไม่มีการส่งกำลังใด ๆ รถสามารถขยับเคลื่อนที่ไปได้ เข็นได้ จึงใช้สำหรับจอดรถชั่วคราวในพื้นราบปกติ

ตำแหน่งเกียร์ออโต้แต่ละตัว ทำหน้าที่อะไรบ้าง?

รถยนต์ระบบเกียร์ออโต้ เป็นรถที่หลายคนนิยมเลือกใช้งาน เพราะใช้งานที่ง่าย สะดวก ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นขับขี่รถยนต์ เนื่องจากไม่ต้องเข้าเกียร์ ไม่ต้องเหยียบแป้นคลัทช์ โดยผู้ขับขี่ที่เรียนรู้วิธีการขับรถเกียร์ออโต้ จะต้องเข้าใจการใช้งานของตำแหน่งระบบเกียร์ออโต้แต่ละตัว โดยมีตัวอักษรแสดงตำแหน่งและการใช้งานดังนี้

ตำแหน่ง P

ตำแหน่งที่อยู่ด้านบนสุดของเกียร์ ใช้สำหรับจอดรถในที่จอดรถ จอดในบริเวณที่ลาดชัน หรือต้องการจอดแบบล็อกล้อรถไม่ให้เคลื่อนที่ได้ หากจะเปลี่ยนเกียร์มาที่เกียร์ P จะต้องทำตอนที่รถหยุดนิ่ง

ตำแหน่ง R

เกียร์ R หรือเกียร์ถอยหลัง รถจะเคลื่อนตัวถอยหลังอย่างช้า ๆ โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งและก่อนถอยรถควรใช้ความระมัดระวังอย่างดี เท้าควรคอยแตะเบรกไว้ด้วยป้องกันรถถอยหลังเอง

ตำแหน่ง N

เกียร์ N เป็นตำแหน่งเกียร์ว่าง ใช้สำหรับจอดรถไว้ชั่วคราว เช่น จอดติดไฟแดง หรือจอดในห้างสรรพสินค้า เพราะสามารถเข็นรถได้นั่นเอง

ตำแหน่ง D

เกียร์ D เป็นตำแหน่งสำหรับให้รถเคลื่อนตัวไปด้านหน้า เมื่อทำการเหยียบคันเร่ง เกียร์จะเปลี่ยนให้เอง เป็นเกียร์ที่เราไว้สำหรับเดินรถไปข้างหน้า

ตำแหน่ง L

เกียร์ L เหมาะสำหรับการขับรถขึ้น-ลงทางที่สูงชัน โดยเฉพาะตอนลงเขา ต้องใช้ความเร็วต่ำมากจะเป็นการใช้เครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก แต่ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ L กะทันหันทันทีที่ในขณะที่ขับรถมาเร็ว

ตำแหน่ง S

เกียร์ S พบในรถยนต์ระบบเกียร์ออโต้รุ่นใหม่  ช่วยเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ช้าลง เครื่องยนต์ลากรอบมากกว่าปกติ รถจะมีกำลังมากขึ้นในยามจำเป็น เหมาะสำหรับการเร่งแซง

ตำแหน่ง B

เกียร์ B พบในรถยนต์เกียร์ออโต้รุ่นใหม่ มีการทำงานคล้ายเกียร์ L ในการขับขึ้นลงทางชัน ช่วยเบรกในระบบการทำงานด้วยเกียร์

ข้อควรระวังในการเรียนรู้ วิธีขับรถเกียร์ออโต้

แม้ว่าจะรถยนต์เกียร์ออโต้จะมีความสะดวกและง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นขับรถใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อควรระวังในการขับรถยนต์เกียร์ออโต้ที่มือใหม่หัดขับจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เพราะบ่อยครั้งที่อุบัติเหตุทางรถยนต์มักเกิดจากการเข้าเกียร์ออโต้ผิดตำแหน่ง โดยข้อควรระวังที่ผู้ขับขี่ควรรู้มีดังต่อไปนี้

1.ผู้ขับขี่ต้องเหยียบเบรครถทุกครั้งก่อนเข้าเกียร์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการเปลี่ยนเกียร์นั่นเอง

2.ก่อนออกตัวและหลังหยุดรถ ผู้ขับขี่จะต้องดูตำแหน่งเกียร์ของรถและเข้าเกียร์ให้ถูกต้องเสมอ เมื่อจอดติดไฟแดง ผู้ขับขี่จะต้องเข้าเกียร์ N เพื่อความปลอดภัย และใช้เบรคช่วยหากจอดบนถนนที่มีเนินหรือถนนต่างระดับ แล้วลองปล่อยเบรค ถ้ารถไม่ไหลก็ไม่จำเป็นต้องกดเบรค

3.ในการออกตัวรถ ไม่ควรออกรถแบบกระชาก

4.ในขณะที่รถกำลังแล่น ไม่ควรเข้าเกียร์ว่างเด็ดขาด

5.ไม่ควรเหยียบคันเร่งจนเกือบมิดเพื่อเร่งแซงรถคันอื่นบ่อย ๆ  หรือที่เรียกว่า การคิกดาวน์ เพราะหากมีการเร่งเครื่องยนต์โดยไม่มีการเปลี่ยนเกียร์ให้สัมพันธ์กับอัตราเร่ง จะส่งผลเสียต่อชุดเกียร์ ทำให้เกียร์เสื่อมเร็วกว่าปกติ

มารยาทในการขับรถยนต์ให้ปลอดภัย

นอกจากเรียนรู้วิธีหัดขับรถเกียร์ออโต้แล้ว ผู้ขับขี่จะต้องเรียนรู้มารยาทในการขับรถยนต์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งตัวเราเองและเพื่อนร่วมทางทั้งนี้ สิ่งที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับมารยาทในการขับขี่รถยนต์อย่างไรให้ปลอดภัย มีดังต่อไปนี้

1.หยุดรถให้คนข้ามตรงทางม้าลาย

เราจะพบว่ามีข่าวรถชนคนข้ามถนน โดยเฉพาะข้ามบนทางม้าลายอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่รถ หากพบว่ามีคนอยู่บนทางเท้าและกำลังจะเดินข้ามทางม้าลาย ผู้ขับควรชะลอ แตะเบรก และให้สัญญาณไฟขอทาง เพื่อให้คนข้ามทางม้าลายให้เรียบร้อยก่อนจึงจะขับรถออกไปได้ ซึ่งที่ต่างประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก

2.ไม่ขับรถแช่ขวา

เลนทางขวาเป็นเลนสำหรับรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูง แม้ว่าคุณขับรถตามความเร็วที่กฎหมายจราจรกำหนด แต่หากคุณวิ่งรถด้วยความเร็วคงที่ ก็ไม่ควรจะขับรถแช่ชวา เพราะจะทำให้การจราจรติดขัด รถคันหลังไม่สามารถไปก่อนได้ คุณจะสังเกตได้ว่าหากคุณขับรถแช่ขวาแล้วมีรถคันหลังขับจี้ท้ายคุณ คุณจะต้องเปิดไฟเลี้ยวซ้าย และหลบให้คันหลังที่มาด้วยความเร็วกว่าไปก่อน

3.รักษาระยะห่างจากคันหน้า

หากคุณขับรถมาด้วยความเร็วปกติ ควรจะเว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้า ประมาณ 100 เมตร ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. และ 80 เมตร ที่ความเร็ว 80 กม./ชม.เพื่อให้คุณมีระยะเบรกรถได้ทัน เป็นการป้องกันหากรถคันข้างหน้าของคุณเบรกกะทันหันไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม

4.ระวังการใช้ไฟสูง

ไม่ควรเปิดไฟสูงขณะที่ขับรถสวนรถคันอื่น เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนสายตาผู้ขับรถคนอื่น

5.ให้สัญญาณไฟก่อนแซง

หากต้องการแซงรถ ควรให้สัญญาณไฟ ใช้ความเร็วที่จะแซงอย่างเหมาะสม และเว้นระยะการแซงรถเพื่อที่จะกลับเข้าเลนปกติ ไม่อยู่ในระยะประชิดจนเป็นการปาดหน้ารถ นอกจากนี้ไม่ควรแซงขวาเข้าไปในเลนรถสวนทาง

6.ไม่ขับรถตัดหน้าคันอื่น

หากจะต้องทำการเปลี่ยนเลนรถ  ควรจะต้องมองกระจกหลัง ให้สัญญาณไฟ รอให้รถคันอื่นไปแล้ว จึงจะสามารถเลี้ยวรถ หรือเปลี่ยนเลนรถได้ เพื่อจะได้ไม่เป็นการขับรถตัดหน้าคันอื่น จนอาจเกิดอุบัติเหตุได้

หลายคนเลือกเรียน วิธีขับรถเกียร์ออโต้ เพื่อการขับขี่ที่ง่าย สะดวก ไม่ซับซ้อน มากกว่าที่จะเลือกใช้รถระบบเกียร์ธรรมดา แต่ทั้งนี้แม้ว่าระบบเกียร์ออโต้จะขับค่อนข้างง่าย  แต่ก็ยังมีสิ่งที่ผู้ฝึกขับรถระบบเกียร์ออโต้ควรให้ความสำคัญและทำความเข้าใจ เช่น ระบบเกียร์ การทำงานของเกียร์ออโต้ที่เลือกใช้ ตำแหน่งเกียร์ ซึ่งแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่ในการทำงานที่แตกต่างกัน ใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันการฝึกหัดขับรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีโรงเรียนสอนขับรถให้เลือกเรียนหลายแห่ง สามารถเลือกเรียนได้ทั้งรถระบบเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดาอีกด้วย สำหรับมือใหม่หัดขับนอกจากจะเรียนรู้เรื่องการหัดขับรถแล้ว การทำประกันติดรถไว้สักแผน จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถของคุณ เลือกทำประกันรถยนต์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ คลิกที่นี่

vara

Share
Published by
vara

Recent Posts

‘เฮงลิสซิ่ง’ สนับสนุนน้ำดื่ม กิจกรรมตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงวัณโรค รพ.สต.บ้านสันคะยอม เชียงใหม่

‘เฮงลิสซิ่ง’ สนับสนุนน้ำดื่ม กิจกรรมตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงวัณโรค รพ.สต.บ้านสันคะยอม เชียงใหม่ บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพของคนใน ชุมชน มอบน้ำดื่มสำหรับบริการกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับบริการตรวจคัดกรองวัณโรคโดยรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ โดย…

2 days ago

เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสาน “งานประเพณีบุญบั้งไฟล้าน ปี 2567” จ.กำแพงเพชร

บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมอนุรักษ์การสืบทอดศิลปะ ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดีงามของชาวบ้านนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งจุดบริการน้ำดื่ม “น้ำเฮง น้ำใจ” แก่ประชาชน

4 days ago

5 คีย์เวิร์ดหลักช่วยสร้าง ภูมิคุ้มกันทางการเงิน ที่ดี

การสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดี คือการศึกษาความรู้ทางการเงินตั้งแต่ยังเด็ก วันนี้เราจะชวนคุณมาสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดีในบทความนี้

5 days ago

10+1 เทคนิค วางแผนการเงิน ในชีวิตประจำวัน 

มัดรวมเทคนิค วางแผนการเงิน ในชีวิตประจำวัน จากวัยทำงานสู่วัยเกษียณ เพิ่มความั่นคงทางการเงิน ไม่เกิดปัญหาหนี้สินในอนาคต อ่านต่อในบทความนี้

5 days ago

รวมพื้นฐาน ความรู้ทางการเงิน ที่ทุกคนควรรู้ 

ความรู้ทางการเงิน Financial Literacy เป็นการทำความเข้าใจการเงินในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้คุณมีนิสัยทางการเงินที่ดีในอนาคต

5 days ago

5 ทักษะการเงินที่โรงเรียนไม่เคยสอน แต่เราต้องมีติดตัว 

ทักษะการเงิน ความรู้ทางการเงิน เป็นสิ่งสำคัญแต่กลับไม่มีการสอนในโรงเรียน แต่วันนี้เราจะมาแนะนำทักษะทางการเงินที่ควรมีติดตัว รู้ก่อนรวยก่อน

5 days ago