บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
“เปิดเทอมใหม่ทีไร เงินไม่พอใช้จ่ายทุกที” ใกล้จะถึงช่วงเปิดเทอมแล้ว เป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านกำลังเตรียมหาซื้อชุดนักเรียน หนังสือ อุปกรณ์การเรียน รวมถึงคอร์สเรียนพิเศษให้ลูก หลายคนก็ต้องวิ่งเอาของมีค่าไปขาย เอาทองไปจำนำ กู้ยืมเงิน เพราะเงินไม่พอใช้จ่าย ซึ่งเราเข้าใจดีว่าช่วงนี้สินค้าแพงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เงินเดือนก็แทบไม่ได้ขยับขึ้นตาม มีปัญหาติดขัด เงินขาดมือ ค่าใช้จ่ายก็มากมาย ทั้งผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ค่าบัตรเครดิตอีกหลายใบ ผู้ปกครองหลายคนต่างก็เจอสถานการณ์แบบนี้กันทั้งนั้น
เมื่อคุณรู้ตัวว่าเงินไม่พอใช้ ก็ต้องกลับมามองพฤติกรรมของตัวเองและครอบครัวก่อนว่าได้ใช้จ่ายเกินตัว ในส่วนไหนไปบ้างรึเปล่า
ลองสังเกตดูว่าร้านอาหารที่คุณไปทานอยู่บ่อยๆ เป็นสถานที่ดูดเงินของคุณหรือไม่? มีค่าใช้จ่ายประจำอะไรที่สามารถลดได้บ้าง และหลายคนไม่รู้ตัวว่ากาแฟที่ซื้อก่อนทำงานทุกวันสูบเงินคุณไปเดือนนึงเป็นหลายพันบาท (สมัยนี้กาแฟแก้วละร้อยกว่าบาทเลยนะ) หรือเปลี่ยนเป็นชงกาแฟดื่มเองที่ทำงาน น่าจะช่วยประหยัดมากขึ้น
คุณมักจะตามเทรนด์กับแฟชั่นหรือเทคโนโลยีมากเกินไปรึเปล่า เช่น ถ้ามีเสื้อผ้าแนวใหม่ โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ คุณต้องรีบไปต่อคิวซื้อทันที ถ้าคุณกำลังทำอย่างนี้อยู่ ควรต้องปรับตัวหน่อย เพราะของเหล่านี้อาจไม่ใช่สิ่งจำเป็น
คุณไม่ควรผ่อนของหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เพราะจะทำให้คุณไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายคุณไปเท่าไหร่แล้ว กลับไปดูบิลบัตรเครดิตของคุณว่ามีสินค้าที่กำลังผ่อนอยู่กี่อย่าง และเดือนหน้าต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่ ดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่ายก็เป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกเดือนด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาเครียดเวลาใกล้เปิดเทอมเช่นนี้
ความคิดที่ว่าถ้ามีนู่นมีนี่แล้วมันเท่ห์ เก๋ โก้ ดูหรู ดูแพง ของมันต้องมี อาจจะทำให้กระเป๋าตังค์ของคุณแห้งได้ง่ายๆ เหมือนกัน หรือเมื่อคุณเดินผ่านแล้วเห็นป้าย SALE ก็อยากซื้อของขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่ได้ใช้มันหรือแค่ซื้อเก็บไว้ก็ตาม นี่เป็นนิสัยที่อันตรายมาก ระวังการซื้อของที่ไม่จำเป็นด้วยนะคะ
ข้อนี้สำคัญมาก หากลูกของคุณมีทัศนคติที่ว่าเงินทำให้เขาดูดี ทำให้เพื่อนยอมรับ คงต้องช่วยกันเปลี่ยนความคิดนี้แล้วล่ะ เพราะส่วนใหญ่เด็กที่คิดอย่างนี้มักจะขอให้พ่อแม่ซื้อของราคาแพงๆ มากมายตลอดเวลา คุณควรจะสอนให้ลูกเห็นคุณค่าของเงิน และรู้ว่าครอบครัวมีฐานะประมาณไหน เพราะการทำตัวรวยไม่ได้ทำให้ลูกเป็นคนรวย และความรวยนั้นไม่ได้ทำให้เขามีเพื่อนที่ดี ดังนั้น พ่อแม่ก็ควรทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีไม่ซื้อของหรือใช้จ่ายเกินตัว
จากผลสำรวจจากกรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพในปี พ.ศ.2561 ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “พ่อแม่ยุคใหม่วางแผนอย่างไรเมื่อใกล้เปิดเทอม” โดยเก็บข้อมูลจากพ่อแม่ ผู้ปกครองที่มีลูกหลานศึกษาอยู่ในระดับชั้น อนุบาล-มัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมทั้งสิ้น1,175 คน มีผลสำรวจพบว่า
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่ควรเตรียม ขอบคุณข้อมูลจาก : ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ
ทางออกและแนวทางในการแก้ไขปัญหา เมื่อประสบปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้จ่ายและหมุนเงินไม่ทัน ควรเริ่มจากตรงไหน และแก้ไขอย่างไรบ้าง?
นอกจากในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันได้มีช่องทางในการจำนำฉุกเฉินรับช่วงเปิดเทอม นั่นคือ “สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร” (โรงรับจำนำ กทม.) จัดตั้งขึ้นโดยได้รับนโยบายจากกระทรวงมหาดไทย เพื่อช่วยเหลือและสงเคราะห์ประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำช่วงเปิดเทอมที่ต่ำลง เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และผู้ปกครอง ที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อการศึกษาในช่วงเปิดเทอมปีการศึกษาด้วย ไม่ต้องหนีไปพึ่งหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยพุ่งทะยานและน่ากลัว
การเตรียมตัวสำหรับการวางแผนการเรียนของคุณลูกไว้แต่เนิ่นๆ รวมถึงการเก็บออมเงินไว้จึงเป็นสิ่งที่ดีมาก โดยประเมินจากรายได้และค่าใช้จ่ายปัจจุบันของครอบครัว และค่าใช้จ่ายในแต่ละปีของลูกว่ารวมเป็นเงินเท่าไร หากเตรียมเงินไว้เพียงพอแล้วจะต้องพยายามลดรายจ่ายส่วนใดและหารายได้เสริมในช่องทางใดเพิ่มเติม เพื่อให้การใช้จ่ายในครอบครัวมีสภาพคล่องตัวอยู่เสมอ และการมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบไม่ได้ แปลว่า จะต้องมีบ้านหรูหราใหญ่โต มีรถหลายคัน มีทองมากมาย หรือเทคโนโลยีทันสมัยไว้ในบ้านเสมอไป เพราะการมีครอบครัวที่อบอุ่น ดูแลใส่ใจกัน และทุกคนในบ้านพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของครอบครัว
แจ้งเลื่อนประกา…
ประกาศประกวดราค…
บริษัท เฮงลิสซิ…