บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
เนื้อหาของบทความ
ในการซื้อขายรถส่วนใหญ่แล้ว ผู้ขายมักจะมีการเซ็นเอกสารที่เรียกว่า ชุดโอนลอย เอาไว้ เพื่อให้ผู้ซื้อรถต่อสามารถนำเอกสารนี้ไปทำเรื่องโอนรถเองได้ โดยที่ผู้ขายไม่ต้องเดินทางไปสำนักงานขนส่งด้วย แต่การโอนลอยคืออะไร แตกต่างจากการโอนทั่วไปอย่างไร บทความนี้มีคำตอบมาฝาก
มาทำความรู้จักกับการโอนลอยรถกันก่อน สำหรับการโอนลอยรถ คือ การที่เจ้าของรถหรือผู้ขายรถ ได้ขายรถให้กับผู้ซื้อรถ โดยทำการเซ็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการโอนรถให้แก่ผู้ซื้อ แล้วให้ผู้ซื้อไปดำเนินการเองที่สำนักงานขนส่งทางบก แต่ผู้ขายไม่ได้ไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์รถที่สำนักงานขนส่ง การที่ผู้ขายได้เซ็นเอกสารทั้งหมดให้ผู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นแบบคำขอโอนและรับโอน หนังสือมอบอำนาจ รวมไปถึงสำเนาเอกสารประจำตัวของผู้ซื้อและเล่มทะเบียน ซึ่งการเตรียมเอกสารทั้งหมดไว้นี้ เรียกกันว่า ชุดโอนลอย ผู้ขายรถส่วนใหญ่มักจะมีการเตรียมชุดโอนลอยเอาไว้ เพื่อรอว่าวันไหนที่มีผู้ซื้อรถมาซื้อ ก็เพียงแค่เซ็นชื่อในช่องผู้รับโอน และผู้ซื้อรถก็นำรถและชุดโอนลอยที่ผู้ขายเตรียมไว้ให้ เอาไปดำเนินเรื่องแจ้งโอนรถที่สำนักงานขนส่งได้เลย ไม่ต้องมีผู้ขายตามไปด้วยนั่นเอง โดยวิธีการ โอนลอยรถนั้น มักจะใช้ในการซื้อขายรถมือสองเป็นส่วนใหญ่ ผู้ขายจะทำการเซ็นเอกสารสำหรับการโอนลอยรถรอไว้ก่อน แม้ว่าจะมีผู้ซื้อหรือยังไม่มีผู้ซื้อรถมอเตอร์ไซค์คันนั้นก็ตาม เมื่อใดมีผู้สนใจและซื้อรถมอเตอร์ไซค์คันนั้น ผู้ซื้อก็สามารถนำเอกสารชุดโอนลอยที่ผู้ขายได้เซ็นไว้แล้ว นำไปโอนรถที่สำนักงานขนส่งได้เลย ผู้ขายไม่ต้องไปที่สำนักงานขนส่งเพื่อทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ให้เสียเวลา แต่ก็มีข้อควรระวังตรงที่ หากผู้ซื้อไม่นำชุดโอนลอยนี้ ไปดำเนินการโอนรถที่ขนส่งให้เสร็จเรียบร้อย แต่กลับนำรถไปใช้ในทางที่ไม่ดี หรือทำผิดกฎจราจร จะทำให้ผู้ขายอาจได้รับความเสียหาย จึงจำเป็นต้องเก็บหลักฐานการซื้อขายรถไว้ให้ดี
1.หนังสือสัญญาซื้อขายรถ (เตรียมสัญญาซื้อขาย 2 ฉบับ สำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย)
2.สมุดคู่มือทะเบียนรถตัวจริง (เล่มเขียว)
3.สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมลายเซ็นถูกต้องของผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์คนล่าสุด
4.สำเนาบัตรประชาชน พร้อมลายเซ็นถูกต้องของผู้ซื้อ (ในกรณีที่เจ้าของรถขายต่อกับผู้ซื้อโดยตรง)
5.แบบคำขอโอนและรับโอนจากกรมขนส่งทางบก พร้อมลายเซ็นถูกต้องของผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์คนล่าสุด
6.หนังสือมอบอำนาจจากกรมขนส่งทางบก พร้อมลายเซ็นถูกต้องของผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์คนล่าสุด กรณีที่เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ ไม่ได้ไปดำเนินการโอนรถมอเตอร์ไซค์ที่สำนักงานขนส่งด้วยตัวเอง โดยให้บุคคลอื่นหรือผู้ซื้อรถสามารถนำเอกสารเหล่านี้ไปดำเนินการเรื่องโอนรถที่สำนักงานขนส่งเอง
ข้อสังเกต ในส่วนของเอกสารการซื้อขายรถนั้น ควรมี 2 ฉบับ เพื่อให้ผู้ขายรถและผู้ซื้อ เก็บเอาไว้เป็นหลักฐานในการซื้อขายรถมอเตอร์ไซค์ และผู้ขายควรเก็บสำเนาบัตรประชาชนของผู้ซื้อเอาไว้ด้วย เพราะป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลัง หากผู้ซื้อไม่ยอมไปโอนรถที่สำนักงานขนส่งหลังจากที่ได้มีการซื้อขายรถกันเรียบร้อยแล้ว เช่น ทำผิดกฎจราจร ฝ่าไฟแดง ขับรถเกินความเร็วที่กำหนด จะมีจดหมายใบสั่งส่งมาที่บ้านของผู้ขายหรือเจ้าของรถเดิม หรือผู้ซื้อนำรถไปทำเรื่องผิดกฎหมาย ก่อคดีความโดยนำรถที่ซื้อไปก่อเหตุ หรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นต้น ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของรถเดิมอาจจะต้องได้รับผิดชอบ โดยที่ตัวผู้ขายไม่ได้เป็นผู้กระทำเนื่องจากได้ขายรถคันนั้นไปแล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องเก็บเอกสารการซื้อขายตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเองค่ะ
การโอนรถ เป็นการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์รถ หรือเจ้าของรถตัวจริงที่มีชื่อในสมุดเล่มทะเบียนรถ จากคนหนึ่งมาเป็นของอีกคนหนึ่ง สามารถทำได้ที่ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขาที่ผู้โอนมีที่อยู่ปรากฎในใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือที่ขอแจ้งใช้รถไว้ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบขั้นตอนการดำเนินการโอนรถ โอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนควรให้ความสำคัญไม่น้อย แต่การเปลี่ยนเจ้าของใหม่นั้น ด้วยวิธีการซื้อรถต่อจากคนอื่น แล้วจะโอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง พ่อแม่ยกรถให้ลูก โอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง บางคนได้รับมรดกจากคนในครอบครัว ญาติ พี่น้องจะโอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง กรณีพ่อหรือแม่ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เสียชีวิตไปแล้ว จะโอนมาเป็นชื่อลูกหรือบุคคลอื่นจะ โอนรถต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง จะเห็นว่าการโอนรถเกิดขึ้นได้ในกรณีแตกต่างกัน ทั้งจากการซื้อขาย ยกรถให้กันในครอบครัว หรือแม้แต่การโอนรถจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่เสียชีวิตไปแล้ว จะต้องมีการเตรียมเอกสารในการโอนรถที่แตกต่างกัน เรามาดูกันว่าในการโอนรถ เปลี่ยนชื่อเจ้าของรถคนใหม่ในกรณีต่าง ๆ ต้องทำอย่างไรบ้าง
การโอนรถทั่วไป กรณีที่มีการซื้อขายรถเปลี่ยนจากชื่อผู้ขายมาเป็นชื่อผู้ซื้อนั้นมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก โดยเอกสารที่ต้องใช้ในการโอนมีดังนี้
1.ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ถ้ากรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
3.สัญญาซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี
4.แบบคำขอโอนและรับโอน ซึ่งกรอกรายการและลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนเรียนร้อยแล้ว
5.หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอง กรณีผู้โอน และ/หรือผู้รับโอนมิได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง
แต่หากเป็นการโอนรถให้กัน โดยที่ไม่มีการซื้อขาย ก็เตรียมแค่ ใบคู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แบบคำขอโอนและรับโอน ซึ่งกรอกรายการและลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนเรียนร้อยแล้ว และหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบ กรณีผู้โอน และ/หรือผู้รับโอนมิได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง
1.นำรถเข้ารับการตรวจสอบที่งานตรวจสภาพรถยนต์ (ยกเว้นกรณีโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถตามรายการจดทะเบียน ไม่ต้องตรวจสอบรถ)
2.ยื่นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์และชำระค่าธรรมเนียม ที่งานทะเบียนรถ
3.รับใบคู่มือจดทะเบียนรถคืน
4.รับใบเสร็จรับเงิน ใบคู่มือจดทะเบียนรถ เครื่องหมายการเสียภาษี และแผ่นป้าย ทะเบียนรถ
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งสาขา ที่ผู้โอนมีที่อยู่ปรากฎในใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือที่ขอแจ้งใช้รถไว้
“พ่อซึ่งเป็นเจ้าของรถตัวจริงได้เสียชีวิต แต่ลูกต้องการโอนกรรมสิทธิ์นั้นเป็นชื่อของตัวเอง จะสามารถโอนรถได้หรือไม่” กรณีเจ้าของตัวจริงได้เสียชีวิตลงแต่ก่อนหน้านั้น ไม่ได้ทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินต่าง ๆ ไปให้คนในครอบครัว กรณีโอนรถของพ่อหรือแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วมาเป็นชื่อลูกเกิดขึ้นมาแล้วหลายเคส กรณีนี้จำเป็นต้องมีผู้จัดการมรดก มาทำการโอนรถแทนเจ้าของรถที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยการโอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง มีดังต่อไปนี้
1.ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
2.แบบคำขอโอนและรับโอน ซึ่งบันทึกรายการและลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนเรียบร้อยแล้ว
3.ถ้ากรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
4.หลักฐานการได้มาของตัวรถ เช่น ใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี สัญญาซื้อขาย (ถ้ามี)
5.กรณีโอนรับมรดก แนบสำเนาใบมรณบัตรเจ้าของรถ และคำสั่งศาลหรือเอกสารของทางราชการที่ระบุชื่อผู้รับมรดก/ผู้จัดการมรดก
6.หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งสาขา ที่ผู้โอนมีที่อยู่ปรากฎในใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือที่ขอแจ้งใช้รถไว้
1.นำรถเข้ารับการตรวจสอบ ที่ฝ่ายตรวจสภาพรถ (ยกเว้นกรณีโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถตามรายการจดทะเบียน ไม่ต้องตรวจสอบรถ)
2.ยื่นตรวจสอบคำขอพร้อมหลักฐาน และผลการตรวจสอบรถ (ถ้ามี)
3.ชำระเงินค่าธรรมเนียม
4.รอรับเอกสารคืน
หมายเหตุ การโอนกรรมสิทธิ์รถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแต่วันโอน (หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท)
หากเจ้าของรถเสียชีวิตและได้มีการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกจากศาลเรียบร้อย แล้วในกรณีนี้ผู้รับโอนคือผู้จัดการมรดก ก็สามารถเตรียมเอกสารหลักฐาน เพื่อนำไปโอนรถได้ที่สำนักงานขนส่งดังต่อไปนี้
1.ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
2.สำเนาหรือภาพถ่ายใบมรณะบัตรของเจ้ามรดก
3.สำเนาคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
4.หลักฐานประจำตัวผู้จัดการมรดกในฐานะผู้โอนและของผู้รับโอน
4.1 ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
4.2 ภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้าน
4.3 หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งสาขา ที่ผู้โอนมีที่อยู่ปรากฎในใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือที่ขอแจ้งใช้รถไว้
1.ใช้แบบคำขอโอนและรับโอน ซึ่งมีการกรอกข้อความและลงนามในคำขอแล้ว ยื่นคำร้องขอโอนทะเบียนเปลี่ยนเจ้าของพร้อมหลักฐาน
2.นำรถเข้ารับการตรวจสอบ
3.ชำระค่าธรรมเนียม
4.รับใบคู่มือจดทะเบียนรถคืน
หมายเหตุ การดำเนินการโอนทะเบียนเปลี่ยนเจ้าของรถหากผู้โอนหรือผู้รับโอนมิได้มาดำเนินการด้วยตัวเองจะต้องทำหนังสือมอบอำนาจให้แก่ผู้ดำเนินการแทน และผู้ดำเนินการแทนต้องนำบัตรประชาชนมาแสดง และการดำเนินการโอนทะเบียนเปลี่ยนเจ้าของจะต้องไปดำเนินการที่หน่วยงาน ของกรมการขนส่งทางบกที่รับผิดชอบพื้นที่จดทะเบียนไว้
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า การโอนรถทั่วไป เป็นการที่ผู้ขายกับผู้ขาย หรือ ผู้โอนและผู้รับโอน ต้องเดินทางไปดำเนินการโอนรถด้วยที่สำนักงานขนส่ง ซึ่งใช้เวลานาน มีขั้นตอนหลายขั้นตอน ซึ่งต่างจากการโอนลอยที่มีความสะดวกต่อผู้โอนตรงที่ ไม่ต้องไปทำดำเนินการทำเรื่องโอนรถให้กับผู้รับโอนที่สำนักงานขนส่ง เพียงเซ็นเอกสาร รับรองสำเนาให้ถูกต้อง และมอบอำนาจให้ผู้รับโอน หรือผู้ซื้อนำชุดโอนลอยไปดำเนินการแทนได้เลย ซึ่งจะมีความสะดวกและรวดเร็ว แต่การโอนลอยรถ จะมีข้อด้อยตรงที่ หากผู้ซื้อรถไม่ทำการโอนรถหลังจากที่มีการซื้อขายรถแล้ว แต่กลับนำรถไปใช้ในทางที่ไม่ดี หรือทำผิดกฎจราจร จะทำให้ผู้ขายอาจได้รับความเสียหาย จึงจำเป็นต้องเก็บหลักฐานการซื้อขายรถไว้ให้ดี เพื่อเป็นหลักฐานว่าเราได้ขายรถคันนั้นไปแล้วก่อนหน้าที่จะเกิดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะตามมา ในกรณีผู้ซื้อนำรถคันนั้น ไปใช้ทำเรื่องในทางที่ไม่ดี
แต่ในการซื้อขายรถมือสองตามเต็นท์รถ การโอนรถให้กันเอง หรือมีการฝากขายรถมอเตอร์ไซค์กัน มักจะใช้วิธีการโอนลอย เพราะมีความสะดวก รวดเร็วกว่าการเดินทางไปขนส่งนั่นเอง ทั้งนี้ก่อนเซ็นเอกสารอย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดของเอกสารทุกฉบับให้ครบถ้วน และเก็บเอกสารสัญญาซื้อขาย เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
ก่อนที่หลายคนจะตัดสินใจซื้อรถสักคัน คงต้องมีการคิดมาก่อนแล้วว่าจะเลือกซื้อรถด้วยเงินสด หรือเงินผ่อนดี แต่สำหรับคนที่ตัดสินใจซื้อรถด้วยเงินสดก่อน แล้วจะนำรถมาเข้าไฟแนนซ์ ขอสินเชื่อทะเบียนรถในภายหลัง เพื่อนำเงินกลับไปใช้จ่ายหมุนเวียน แล้วผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้สามารถมีเงินก้อนกลับมาติดกระเป๋า นำมาใช้จ่ายหมุนเวียน แถมยังมีรถเพิ่มขึ้นมาอีกคัน แต่หลายคนอาจจะเคยเจอปัญหาว่า ไฟแนนซ์มักจะดูว่าคุณถือกรรมสิทธิ์รถคันนั้นมาแล้วกี่วัน หลายแห่งใช้เวลาในการครอบครองเป็นเจ้าของนาน 2- 3 เดือน ทำให้ไม่สะดวกกับผู้ที่ต้องการเงินก้อนกลับมาใช้หรือสำรองไว้อีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องกังวลเมื่อมาที่เฮงลิสซิ่ง
เพียงคุณโอนรถเป็นชื่อคุณแล้ว สามารถเอารถเข้าไฟแนนซ์ ขอสินเชื่อทะเบียนรถที่เฮงลิสซิ่งได้เลย ไม่ต้องรอครอบครองรถนานเป็นเดือน ก็มีเงินก้อนกลับมาใช้ แถมรถยังมีใช้งานเหมือนเดิม สมัครสินเชื่อเฮงเปลี่ยนรถเป็นเงิน สมัครง่าย รู้ผลไว ให้วงเงินสูง รถปีเก่าปีใหม่ก็กู้ได้ ไม่ต้องโอนเล่มเป็นชื่อไฟแนนซ์ ชื่อผู้ครอบครองยังเป็นชื่อของคัวคุณเองเหมือนเดิม สนใจสอบถาม เช็คยอดจัดสินเชื่อ หรือสมัครสินเชื่อเฮงเปลี่ยนรถเป็นเงินได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
การโอนลอยจะต้องมีการเตรียมเอกสารที่เราเรียกว่า ชุดโอนลอย เพื่อให้ผู้ที่ซื้อรถสามารถนำรถและเอกสารชุดโอนลอยนี้ไปดำเนินเรื่องโอนรถด้วยตัวเองที่สำนักงานขนส่งได้ โดยที่ผู้ขายไม่ต้องเดินทางไปด้วย แม้ว่าการโอนลอยจะมีความสะดวกสำหรับผู้ขาย แต่ก็ควรระวังในเรื่องของรถที่ขายไปเกิดปัญหาว่าผู้ซื้อนำรถไปกระทำความผิด และเจ้าของรถเดิมจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ผู้ซื้อจึงจำเป็นจะต้องเก็บหลักฐานการซื้อขายไว้ให้ดี เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่ามีการซื้อขายไปแล้ว และในส่วนของผู้ซื้อมักเจอปัญหาบัตรประชาชนของเจ้าของรถหมดอายุ ไม่สามารถไปโอนรถได้ ทั้งนี้เมื่อมีการซื้อขายกันแล้ว ให้รีบนำรถไปโอนให้เรียบร้อยเพื่อความสบายใจและไม่เกิดปัญหาการโอนรถตามมาในภายหลัง ทั้งนี้หากคุณซื้อรถมือสองหรือมีคนยกรถให้แล้วโอนมาเป็นชื่อตัวเองเรียบร้อยแล้ว จำเป็นจะต้องใช้เงินด่วน ก็สามารถนำรถมาขอสินเชื่อเฮงเปลี่ยนรถเป็นเงินที่เฮงลิสซิ่งได้ เพียงโอนรถมาเป็นชื่อตัวเองแล้วก็จัดไฟแนนซ์ได้เลย สนใจสินเชื่อคลิก
บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมอนุรักษ์การสืบทอดศิลปะ ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดีงามของชาวบ้านนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งจุดบริการน้ำดื่ม “น้ำเฮง น้ำใจ” แก่ประชาชน
การสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดี คือการศึกษาความรู้ทางการเงินตั้งแต่ยังเด็ก วันนี้เราจะชวนคุณมาสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดีในบทความนี้
มัดรวมเทคนิค วางแผนการเงิน ในชีวิตประจำวัน จากวัยทำงานสู่วัยเกษียณ เพิ่มความั่นคงทางการเงิน ไม่เกิดปัญหาหนี้สินในอนาคต อ่านต่อในบทความนี้
ความรู้ทางการเงิน Financial Literacy เป็นการทำความเข้าใจการเงินในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้คุณมีนิสัยทางการเงินที่ดีในอนาคต
ทักษะการเงิน ความรู้ทางการเงิน เป็นสิ่งสำคัญแต่กลับไม่มีการสอนในโรงเรียน แต่วันนี้เราจะมาแนะนำทักษะทางการเงินที่ควรมีติดตัว รู้ก่อนรวยก่อน
‘เฮงลิสซิ่ง’ ร่วมใจทำความดีบริจาคโลหิตและน้ำดื่ม เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ จ.เชียงใหม่ 2567 บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมทำความดีเพื่อสังคม สนับสนุนน้ำดื่มและนำพนักงานจิตอาสา เข้าร่วมบริจาคโลหิตในงาน…