บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)

ความรู้เกี่ยวกับรถ

รวมอาการ ไดสตาร์ทเสีย เป็นอย่างไรสังเกตได้ไม่ยาก

ก่อนออกเดินทางการสตาร์ทรถเป็นสิ่งแรกที่ผู้ขับขี่ต้องทำทุกครั้ง หากสตาร์ทรถติด อย่างน้อยก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าไดสตาร์ทรถคุณยังทำงานปกติดีอยู่ แต่ถ้าหากแบตเตอรี่ยังมีไฟแต่รถสตาร์ทไม่ติด อาจเป็นไปได้ว่านั่นคือสัญญาณ ไดสตาร์ทเสีย แล้วไดสตาร์ทเสียจะมีอาการอย่างไร

อาการ ไดสตาร์ทเสีย มีอาการแบบไหนบ้าง

ไดสตาร์ท หรือ มอเตอร์สตาร์ท มีหน้าที่ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ ทำงานด้วยไฟฟ้ากระแสตรงแรงดันต่ำ ต่อมาจากแบตเตอรี่ผ่านสวิตช์กุญแจ เปลี่ยนแปลงพลังงานไฟฟ้าให้กลายเป็นพลังงานกล ช่วยฉุดเครื่องยนต์ให้ทำงาน เนื่องจากไดสตาร์ทมีหน้าที่แค่สตาร์ทเครื่องยนต์ ทำให้ไดสตาร์ทเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้รับการดูแลมากนัก แต่หากวันใดที่รถของคุณมีอาการแปลก ๆ ที่กำลังเป็นสัญญาณเริ่มต้นของไดสตาร์ทเสีย หรือไดสตาร์ทเสียแล้ว จะมีอาการแบบไหนบ้าง มาเช็กไปแต่ละข้อกันค่ะ

1.บิดกุญแจหรือกดปุ่มสตาร์ทแล้วเงียบกริบ

หากคุณลองบิดกุญแจไปที่ตำแหน่งสตาร์ทหรือกดปุ่มสตาร์ทแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทุกอย่างเงียบสนิท สัญญาณแบบนี้ ไดสตาร์ทเสียไปเป็นที่เรียบร้อย  ต้องเตรียมงบสำหรับเปลี่ยนไดสตาร์ทตัวใหม่แล้ว

2.สตาร์ทเครื่องติดแต่มีเสียงครืดคราดผิดปกติ

3.แปรงถ่านในตัวไดสตาร์ทอาจจะหมด หรือใกล้จะหมด

เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ แนะนำว่าให้นำรถเข้าศูนย์บริการหรือเข้าอู่ซ่อมรถ เพื่อให้ช่างได้ทำการตรวจเช็กและซ่อมแซมต่อไป แต่หากรถเกิดปัญหากลางทาง ลองนำวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นนี้ไปลองใช้กันก่อนค่ะ

การแก้ไขปัญหา ไดสตาร์ทเสีย เบื้องต้น

เบื้องต้นลองแก้ไขปัญหาโดยการสตาร์ทรถแบบเร็ว ๆ โดยทำการเสียบกุญแจ แล้วบิดกุญแจไปที่ตำแหน่งสตาร์ทรวดเดียว หากโชคดีรถสตาร์ทติดขึ้นมาแล้ว ให้รีบขับรถไปอู่ซ่อมรถทันทีเพื่อทำการตรวจเช็กและซ่อมต่อไป

1.สตาร์ทรถแบบเร็ว

หากคุณลองบิดกุญแจไปที่ตำแหน่งสตาร์ทแบบรวดเดียว หากเครื่องยนต์ติดนั่นเป็นสัญญาณดีตรงที่ คุณสามารถขับรถไปอู่ซ่อมรถให้ช่างดูแลต่อได้เลย แต่หากลองแล้วสตาร์ทไม่ติด มาลองที่ข้อต่อไป

2.เข็นรถ สำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดา

วิธีนี้สำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดา ใช้วิธีการเข็นรถ โดยเริ่มต้นใส่เกียร์ 1 ค้างไว้ เหยียบคลัตช์ และบิดกุญแจไปตำแหน่งขวาสุด เพื่อให้ไฟหน้าปัดแสดง เมื่อเข็นจนได้ความเร็วพอสมควรแล้ว ให้ปล่อยคลัตช์ จากนั้นเหยียบคันเร่ง หลังจากที่เครื่องยนต์ติดแล้วให้แตะเบรกไว้ จากนั้นก็ขับรถไปอู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการต่อไป 

3.ใช้โลหะเคาะที่ไดสตาร์ท

วิธีนี้สำหรับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติหรือไม่มีคนช่วยเข็นรถให้ โดยเริ่มจากมองหาโลหะท้ายรถว่ามีหรือไม่ เช่น แม่แรงหรือประแจถอดล้อ กระทุ้งเบาๆ สัก 3-4 ครั้ง ตรงตำแหน่งทรงกลมสีดำที่มีสติกเกอร์สีบรอนซ์ติดอยู่แล้วสตาร์ทเครื่อง ถ้ารถสตาร์ทติดแล้วให้นำไปอู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการต่อไป

วิธีป้องกันไม่ให้ไดสตาร์ทเสียเร็ว

1.ในขณะที่บิดกุญแจจะสตาร์ทรถ เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วควรปล่อยมือทันที ไม่ควรบิดแช่ไว้นานเพราะจะทำให้ไดสตาร์ทเกิดเสียหายและไหม้

2.ไม่ควรมีคราบน้ำมันและฝุ่นละอองเกาะเคลือบอยู่ที่ตัวไดสตาร์ทเพราะอาจจะทำให้แปรงถ่านสกปรกทำให้ไดสตาร์ทไม่หมุนหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

3.ไม่ควรให้มีน้ำหรือความชื้นเข้าไปในไดสตาร์ท เพราะจะทำให้แปรงถ่านขัดตัว ไดสตาร์ทไม่หมุน อุปกรณ์ภายในเป็นสนิมและเกิดความเสียหายได้

สาเหตุอื่นที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด

หากอาการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับรถของคุณ ไม่ได้มีสัญญาณของไดสตาร์ทเสีย อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ทำให้รถของคุณสตาร์ทไม่ติด นอกเหนือจากไดสตาร์ทเสียแล้ว ยังมีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด มาเช็กกันค่ะ

1.น้ำมันรถหมด

น้ำมันรถหมด ถือเป็นสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดที่พบได้บ่อย อาจจะลืมเติมน้ำมันรถ เดินทางไกลแล้วปั๊มน้ำมันค่อนข้าหายาก หรืออาจจะรอไปเติมในวันถัดไป แต่ปริมาณน้ำมันในถังอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ปั๊มติ๊กดูดเชื้อเพลิงในถังได้ ทำให้เกิดอาการรถสตาร์ทไม่ติด ทางที่ดีไม่ควรปล่อยให้น้ำมันหมดเกือบเกลี้ยงถังหรืออย่ารอให้ถึงขีดแดงก่อนค่อยเติม

2.แบตเตอรี่รถเสื่อม

โดยปกติแล้วอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 2 ปี หากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม มักจะแสดงอาการเช่น สตาร์ทรถติดยากในตอนเช้า จอดรถทิ้งไว้นาน ๆ จอดรถข้ามวันพอเช้ามาก็สตาร์ทรถไม่ค่อยติด แต่หากแบตเตอรี่เสื่อมจนไม่มีไฟเหลือเลย อาการคือรถสตาร์ทไม่ติดเลย

3.ขั้วแบตเตอรี่รถสกปรก

เราสามารถสังเกตได้ว่าขั้วแบตเตอรี่สกปรกหรือไม่ จากคราบขี้เกลือเกาะที่ขั้วแบตเตอรี่ มีลักษณะเป็นคราบสีเขียวอมฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของรถได้สะดวกนักจึงทำให้รถสตาร์ทไม่ติด เบื้องต้นคุณสามารถทำความสะอาดคราบขี้เกลือนี้ได้ด้วยการใช้น้ำโซดากับแปรงสีฟัน ขัดไปที่ขั้วแบตเตอรี่ โดยค่อย ๆ ขัดสักพักขั้วแบตเตอรี่ก็จะกลับมาสะอาดเหมือนเดิม

4. ไดชาร์จเสื่อม/ไดชาร์จเสีย

ไดชาร์จมีหน้าที่สร้างกระแสไฟจากการที่เครื่องยนต์ทำงานแล้วส่งไปเก็บไว้ยังแบตเตอรี่  หากไดชาร์จเสียแล้วจะไม่สามารถส่งไฟไปยังแบตเตอรี่ ทำให้มีอาการคล้ายแบตเตอรี่เสื่อมและทำให้รถสตาร์ทไม่ติดเช่นเดียวกัน

5.ปั๊มติ๊กเสีย

ปั๊มติ๊ก มีหน้าที่ดูดน้ำมันจากตัวถังไปยังเครื่องยนต์ ถ้าปั๊มติ๊กเสียทำให้ปั๊มติ๊กไม่สามารถดูดน้ำมันขึ้นมาและไม่สามารถจุดระเบิดเครื่องยนต์ได้ ส่วนใหญ่ปั๊มติ๊กเสียมักจะเกิดสาเหตุจากการปล่อยให้ไฟเตือนน้ำมันโชว์อยู่บ่อยครั้งทำให้รถสตาร์ทไม่ติด โดยมักพบในรถรุ่นเก่าซึ่งในรถรุ่นใหม่ปั๊มติ๊กจะไม่เหมือนกับรถรุ่นเก่าแล้ว ทำให้ปั๊มติ๊กรถรุ่นเก่าค่อนข้างหาได้ยากอีกด้วย

6.รถจอดทิ้งไว้นานไม่ได้ใช้งานเลย

รถที่จอดทิ้งไว้นาน ๆ หรือไม่ได้มีการเอารถออกมาใช้งานเลย เมื่อคิดจะเอารถออกมาใช้งานหรือมาอุ่นเครื่องรถ เจ้าของรถมักจะเจออาการสตาร์ทรถไม่ติด จนทำให้แบตเตอรี่หมด เมื่อจอดทิ้งไว้นาน ๆ แนะนำให้ถอดสายพ่วงแบตเตอรี่ออกไว้เลย หรือหากไม่ค่อยได้ใช้รถหรือนาน ๆ ใช้รถ ควรจะหมั่นสตาร์ทรถทิ้งไว้สัก 10 นาที อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ป้องกันไม่ใช้แบตเตอรี่เสื่อมจนทำให้รถสตาร์ทรถไม่ติดนั่นเอง

7.ระบบไฟฟ้ามีปัญหา

หากรถสตาร์ทไม่ติด บิดกุญแจแล้วไม่มีไฟหน้าปัดโชว์ขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าระบบไฟฟ้าของรถมีปัญหาโดยมีสาเหตุมาจากหนูเข้ามากัดสายไฟขาด หรือกล่องควบคุมเครื่องยนต์ หรือ ECU ของรถคุณมีปัญหา ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง

หมั่นสังเกตและฟังเสียงขณะสตาร์ทรถ เพื่อสังเกตความผิดปกติของรถ หากสตาร์ทแล้วเงียบไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดาได้เลยว่าไดสตาร์ทเสียแล้ว ควรจะให้ช่างซ่อมทำการตรวจเช็กและซ่อมแซมต่อไป  เราจึงควรจะดูแลรถ นำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจสุขภาพของรถหรือให้ช่างซ่อมรถตรวจเช็กรถอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ทั้งนี้เหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด นอกจากจะติดเบอร์ช่างซ่อมรถติดรถไว้แล้ว หากคุณทำประกันรถยนต์ไว้หากรถเสียกลางทางสามารถโทรเรียกบริษัทประกันเพื่อมาช่วยดูแลคุณหลังจากนี้ได้ ทั้งนี้สำหรับใครที่ยังไม่เคยทำประกันรถยนต์ติดรถไว้ หรือประกันรถยนต์ใกล้หมดอายุ แนะนำซื้อประกันรถยนต์ได้ที่เฮงลิสซิ่งทุกสาขา ซื้อง่าย ผ่อน 0% แบ่งจ่ายได้นานสูงสุด 12 งวด มีให้เลือกหลากหลายแผนประกันตามไลฟ์สไตล์ของคุณ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

vara

Share
Published by
vara

Recent Posts

‘เฮงลิสซิ่ง’ สนับสนุนน้ำดื่ม กิจกรรมตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงวัณโรค รพ.สต.บ้านสันคะยอม เชียงใหม่

‘เฮงลิสซิ่ง’ สนับสนุนน้ำดื่ม กิจกรรมตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงวัณโรค รพ.สต.บ้านสันคะยอม เชียงใหม่ บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพของคนใน ชุมชน มอบน้ำดื่มสำหรับบริการกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับบริการตรวจคัดกรองวัณโรคโดยรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ โดย…

56 mins ago

เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสาน “งานประเพณีบุญบั้งไฟล้าน ปี 2567” จ.กำแพงเพชร

บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมอนุรักษ์การสืบทอดศิลปะ ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดีงามของชาวบ้านนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งจุดบริการน้ำดื่ม “น้ำเฮง น้ำใจ” แก่ประชาชน

2 days ago

5 คีย์เวิร์ดหลักช่วยสร้าง ภูมิคุ้มกันทางการเงิน ที่ดี

การสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดี คือการศึกษาความรู้ทางการเงินตั้งแต่ยังเด็ก วันนี้เราจะชวนคุณมาสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดีในบทความนี้

3 days ago

10+1 เทคนิค วางแผนการเงิน ในชีวิตประจำวัน 

มัดรวมเทคนิค วางแผนการเงิน ในชีวิตประจำวัน จากวัยทำงานสู่วัยเกษียณ เพิ่มความั่นคงทางการเงิน ไม่เกิดปัญหาหนี้สินในอนาคต อ่านต่อในบทความนี้

3 days ago

รวมพื้นฐาน ความรู้ทางการเงิน ที่ทุกคนควรรู้ 

ความรู้ทางการเงิน Financial Literacy เป็นการทำความเข้าใจการเงินในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้คุณมีนิสัยทางการเงินที่ดีในอนาคต

3 days ago

5 ทักษะการเงินที่โรงเรียนไม่เคยสอน แต่เราต้องมีติดตัว 

ทักษะการเงิน ความรู้ทางการเงิน เป็นสิ่งสำคัญแต่กลับไม่มีการสอนในโรงเรียน แต่วันนี้เราจะมาแนะนำทักษะทางการเงินที่ควรมีติดตัว รู้ก่อนรวยก่อน

3 days ago