บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)

ความรู้เกี่ยวกับรถ

รวมสาเหตุ ไฟไหม้รถยนต์ เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

ไฟไหม้รถยนต์ ฟังดูแล้วอาจเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับบางคน เพราะคิดว่าไฟไหม้รถยนต์มักเกิดกับรถที่ติดแก๊สเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วไฟไหม้รถยนต์เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้รถหรือเดินทางไกลเป็นประจำ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไฟไหม้รถยนต์และดูแลรถอย่างไรไม่ให้เสี่ยงไฟไหม้ บทความนี้มีคำแนะนำมาฝากค่ะ

ไฟไหม้รถยนต์ สาเหตุเกิดจากอะไร

เรามักจะพบเห็นข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุไฟไหม้รถยนต์เกิดขึ้นอยู่เป็นระยะ ๆ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นจากไฟไหม้รถยนต์นั้นแทบจะเป็นฝันร้ายของเจ้าของรถเลยก็ว่าได้ เพราะรถยนต์ทั้งคันเสียหายไปกับเปลวเพลิง และยิ่งหากขณะเกิดไฟไหม้รถยนต์มีผู้โดยสารอยู่ภายในรถ ยิ่งถือเป็นความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่อาจไม่มีวันได้คืน ทั้งนี้ผู้ขับขี่รถและผู้ใช้รถควรจะต้องรู้สาเหตุที่ทำให้ไฟไหม้รถยนต์ว่าเกิดจากอะไร เพื่อที่จะได้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้กับทุกคน

 1.อุบัติเหตุรถชนอย่างรุนแรง

เมื่อรถชนรถอย่างรุนแรงจนทำให้เกิดประกายไฟและของเหลวไวไฟไหลออกมา จนทำให้เกิดไฟไหม้รถยนต์และการเกิดระเบิดตามมาได้

2.ระบบไฟฟ้าขัดข้อง

ระบบไฟฟ้าจากสายแบตเตอรี่ สายไฟในห้องเครื่อง มีการชำรุด ขาด หลวม หรือหลุด ซึ่งหากสายไฟเหล่านี้มีการติดตั้งที่ไม่ดี โอกาสที่ไฟไหม้รถยนต์เกิดขึ้นได้เช่นกัน

3.เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท

ปกติแล้วเครื่องยนต์จะถูกออกแบบมาไม่ให้เกิดอาการโอเวอร์ฮีทได้ง่าย หากเครื่องยนต์ร้อนจนเกินไป เนื่องจากมีชิ้นส่วนบางอย่างทำงานได้ไม่ดี จะทำให้น้ำยาหล่อเย็น และของเหลวต่าง ๆ ภายในมีอุณหภูมิสูง รั่วกระจายทั่วห้องเครื่องและอาจทำให้ไฟไหม้รถยนต์ได้ 

4.น้ำมันเชื้อเพลิงรั่ว

เมื่อมีการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงเกิดขึ้น หากเกิดประกายไฟเพียงนิดเดียว ก็เป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ได้

5.ระบบไฟฟ้าขัดข้อง

ระบบไฟฟ้าขัดข้อง และการเดินสายไฟหรือดัดแปลงสายไฟที่ไม่ดี เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ได้ รวมไปถึงสายแบตเตอรี่และสตาร์ทเตอร์มีกระแสไฟเพียงพอที่จะจุดติดไฟทำให้ไฟไหม้รถยนต์ได้ในกรณีที่เกิดความผิดพลาด แม้แต่หลอดไฟที่ชำรุดก็ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไฟไหม้รถยนต์ได้

6.ขาดการบำรุงรักษา

การดูแลรักษารถเป็นประจำ หมั่นตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง เช็ครถตามระยะเวลา ก็เป็นการช่วยดูแลรักษารถทางหนึ่ง แต่ผู้ใช้รถหลายท่านอาจมีการละเลยหรือไม่ได้เอาใจใส่รถเท่าที่ควร เช่น ลืมถ่ายน้ำมันเครื่อง ไม่ได้นำรถไปตรวจสภาพ หรือปล่อยให้รถมีปัญหาแต่ไม่นำรถเข้าไปตรวจเช็ค ทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา รวมถึงอาจจะทำให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ได้ 

7.มีการปรับแต่งชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐาน

หากรถมีการปรับแต่งชิ้นส่วนเพิ่มเติม อาจทำให้การทำงานของรถผิดปกติ และอาจเป็นต้นเหตุทำให้ไฟไหม้รถยนต์ได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรปรับแต่งชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานกับรถ หรือหากจำเป็นจะต้องเปลี่ยนชิ้นใหม่ ควรเลือกใช้ชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ได้มาตรฐานและเปลี่ยนโดยช่างที่มีความชำนาญในด้านนี้ด้วย

8.สิ่งของที่ทิ้งไว้ภายในรถ 

เนื่องจากเมืองไทยเป็นเมืองร้อน การจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน อุณหภูมิภายในรถจะสูงขึ้นถึง 60 องศาเซลเซียส หากที่สิ่งของเหล่านี้ภายในรถ เช่น ไฟแช็ก กระป๋องสเปรย์ แบตเตอรี่สำรอง โทรศัพท์มือถือ แผ่นยางกันลื่น ก็อาจเป็นความเสี่ยงที่ทำให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ได้ ทางที่ดีไม่ควรนำสิ่งของเหล่านี้ทิ้งไว้ในรถ ช่วยลดโอกาสที่จะทำให้ไฟไหม้รถยนต์ได้ 

5 สิ่งของอันตรายเสี่ยงรถบึ้ม

แม้ว่าโอกาสที่สิ่งของเหล่านี้จะมีโอกาสทำให้ไฟไหม้รถยนต์ได้น้อย แต่ด้วยอากาศในเมืองไทยที่มีอุณหภูมิสูง หากรถยนต์ที่จอดรถตากแดดทิ้งไว้โดยไม่มีการติดฟิล์มกระจก จะมีความร้อนภายในรถสูงถึง 60 องศาเซลเซียส จนทำให้สิ่งของที่หลายคนมักเอาทิ้งไว้ในรถเหล่านี้มีโอกาสเป็นชนวนให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ได้ 

1.ไฟแช็ก เพราะไฟแช็กถูกอัดด้วยแก๊สเชื้อเพลิงในรูปของเหลวเมื่อเจออุณหภูมิสูง แก๊สจะขยายตัวทำให้ติดไฟและระเบิด 

2.กระป๋องสเปรย์ สารเคมีในกระป๋องสเปรย์ก็เป็นจำพวกไวไฟ หากอุณหภูมิภายนอกยิ่งสูงขึ้นทำให้กระป๋องโลหะสะสมความร้อนจนระเบิดได้ในที่สุด

3.แบตเตอรี่สำรอง แบตเตอรี่จะมีฉนวนป้องกันลัดวงจร เมื่ออากาศร้อนขึ้นการลัดวงจรจะเกิดได้ง่ายขึ้น ประกอบกับแบตเตอรี่ที่ใช้ไปแล้วมีการเสื่อม หรือไม่ได้คุณภาพ ก็ทำให้ระเบิดเกิดไฟไหม้รถยนต์ได้

4.โทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกันกับแบตเตอรี่สำรอง ควรนำพกติดตัวไว้ห้ามทิ้งไว้ในรถนอกจากจะทำให้พลาดการติดต่อแล้ว ยังเสี่ยงที่จะทำให้ไฟไหม้รถยนต์ได้ 

5.แผ่นยางกันลื่น ยางเมื่อโดนความร้อนเป็นเวลานาน จะละลายติดไปกับคอนโซลจนทำให้คอนโซลเสียหายได้นั่นเอง

วิธีดูแลรถยนต์ไม่เสี่ยงไฟไหม้รถยนต์ ต้องทำอย่างไร

การดูแลและบำรุงรักษารถยนต์ของคุณ จะลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ได้ ทั้งนี้คุณสามารถดูแลและบำรุงรักษารถยนต์ได้ด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันปัญหาไฟไหม้รถยนต์ได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

1.หมั่นตรวจเช็คและเติมน้ำภายในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับพอดีอยู่เสมอ  

2.ตรวจสอบท่อน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างสม่ำเสมอว่าไม่มีรอยรั่ว หรือรถยนต์ที่ติดแก๊สตรวจดูว่าตามข้อต่อของท่อแก๊สไม่มีรอยรั่วหรือไม่

3.หมั่นก้มลงไปดู ใต้ท้องรถว่าไม่มีรอยน้ำมันรั่วซึมหยดลงที่พื้น หากมีคราบให้นำรถเข้าตรวจสอบหารอยรั่วทันที

4.หากเปิดกระโปรงหน้ารถแล้วสังเกตเห็นเขม่าดำติดอยู่โดยรอบ หมายความว่าเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ ให้รีบนำรถเข้าตรวจเช็คเพื่อทำการหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาทันที

5.สังเกตสายไฟในรถยนต์ว่ามีการชำรุด ขาด หรือไม่  เพราะสายไฟขาดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดประกายไฟและนำมาซึ่งเหตุไฟไหม้รถยนต์ได้นั่นเอง

ประกันคุ้มครองไฟไหม้รถยนต์ด้วยหรือไม่?

เหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มความคุ้มครองในการเดินทาง การทำประกันรถยนต์ จะช่วยคุ้มครองในกรณีไฟไหม้รถยนต์ได้เช่นกัน ทั้งนี้กรณีไฟไหม้รถยนต์ ประกันชั้นที่จะคุ้มครองครอบคลุมนั้น ได้แก่ ประกันชั้น 1 2+ และ 2 เท่านั้น สำหรับประกันชั้น 3+ และ 3 จะไม่คุ้มครอง โดยความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้รถยนต์ จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่

กรณีเสียหายสิ้นเชิง

กรณีเสียหายสิ้นเชิง หมายถึง ความเสียหายจากไฟไหม้รถยนต์รุนแรงเกินกว่า 70% ของสภาพรถ หรือไม่สามารถซ่อมแซมรถยนต์ให้กลับมาสภาพเดิมได้อีก สำหรับกรณีนี้ทางบริษัทประกันจะทำการจ่ายค่าเสียหายให้เต็มจำนวน 100% ของทุนประกันสูงสุดตามที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ (ทุนประกันขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกันภัย)

กรณีเสียหายบางส่วน

กรณีเสียหายบางส่วน หมายถึง ความเสียหายจากไฟไหม้รถยนต์ที่ยังไม่รุนแรงมากนัก สามารถซ่อมแซมรถยนต์ให้กลับมาสภาพเดิมได้ แต่จะมีทางเลือกให้กับผู้เอาประกันว่าจะซ่อมรถให้กลับมาเหมือนเดิม หรือ รับเงินชดเชยความเสียหายในส่วนนี้แทน (ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของบริษัทประกันภัย)

รถติดแก๊ส ประกันจะไม่คุ้มครองกรณีใดบ้าง

1.เมื่อติดตั้งแก๊สหลังจากทำประกันรถยนต์ แล้วไม่ส่งเอกสารยืนยันการติดตั้งแก๊สให้บริษัทประกัน

2.หลังจากได้ติดตั้งแก๊สที่รถ ไม่มีการแจ้งกรมขนส่งทางบก

3.ติดตั้งถังแก๊สที่ไม่ได้รับมาตรฐานคุณภาพ มอก.(มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) 

4.เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

วิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์

รถที่มีอายุการใช้งานนาน รถที่มีการปรับแต่งสภาพ อะไหล่ชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงรถที่ไม่ค่อยได้รับการดูแลและบำรุงรักษาตามระยะ มีโอกาสที่จะเกิดไฟไหม้รถยนต์ได้ ทั้งนี้หากเกิดกรณีไฟไหม้รถยนต์ คุณจะต้องปฏิบัติตนดังนี้

กรณีได้กลิ่นเหม็นไหม้

หากขับรถอยู่ดี ๆ ได้กลิ่นเหม็นไหม้ภายในรถ ควรนำรถจอดเข้าข้างทาง ดับเครื่องยนต์ และโทรเรียกช่างเข้ามาตรวจสอบ

กรณีไฟไหม้เล็กน้อย

หากไฟไหม้รถยนต์เล็กน้อย ยังพอสามารถควบคุมเพลิงได้เบื้องต้น ให้ปฏิบัติตามนี้ก่อน

1.รีบนำรถจอดข้างทางในทันที

2.รถติดตั้งระบบแก๊ส ให้ปิดสวิตช์ เพื่อตัดการทำงานของระบบแก๊สและดับเครื่องยนต์

3.หากไฟไหม้รถเพียงเล็กน้อยให้ควบคุมเพลิง โดยใช้ถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิงให้ดับสนิท

4.หากมีเปลวไฟออกมาจากฝากระโปรงรถ ให้ปลดสลักฝากระโปรง และฉีดพ่นผ่านทางช่องฝากระโปรงที่แง้มไว้ ห้ามเปิดฝากระโปรงในทันที เพราะจะทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น เมื่อไฟเริ่มสงบลง จึงค่อย ๆ เปิดฝากระโปรง

6.หากไฟดับสนิทให้รีบถอดขั้วแบตเตอรี่ออก เพื่อไม่ให้ไฟไหม้รถยนต์อีกครั้ง

กรณีไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว 

กรณีเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ให้รีบออกห่างจากรถที่เกิดไฟไหม้โดยเร็วที่สุด โดยออกจากรถอย่างน้อย 30 เมตร เพื่อป้องกันรถระเบิด จากนั้นให้รีบโทรแจ้ง ศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199  หรือหน่วยกู้ภัยทันที

ไฟไหม้รถยนต์ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะนำมาซึ่งความความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินไม่น้อย หากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น  การหมั่นดูแลรักษารถยนต์ในส่วนต่าง ๆ ตามระยะเวลา เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อครบระยะ หากเกิดอาการผิดปกติเกี่ยวกับตัวรถหรือเกิดไฟเตือนที่หน้าคอนโซลรถ คลิก  ควรรีบนำไปเช็คและแก้ไขปัญหาโดยด่วน หากมีการเปลี่ยนอะไหล่ควรเลือกอะไหล่แท้ที่ได้มาตรฐาน มีการตรวจสุขภาพรถเป็นประจำทุกปี หรือเช็ครถก่อนออกเดินทางไกล เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดปัญหารถเสียระหว่างทางหรือจะได้ไม่เกิดปัญหาไฟไหม้รถยนต์ได้ ทั้งนี้โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเป็นไปได้เสมอ เพราะฉะนั้นการทำประกันรถยนต์คุ้มครองรถไว้จึงเป็นสิ่งที่เจ้าของรถควรทำติดรถไว้ ทั้งนี้ประกันรถยนต์ที่คุ้มครองกรณีไฟไหม้รถยนต์ได้นั้นมีเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 2+ และ 2  หากสนใจและกำลังมองหาบริษัทประกันใกล้บ้าน สามารถติดต่อได้ที่เฮงลิสซิ่งทุกสาขา มีให้เลือกหลายแผนตามความต้องการ ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน ผ่อนสบายนานสุด 12 เดือน  

vara

Share
Published by
vara

Recent Posts

‘เฮงลิสซิ่ง’ สนับสนุนน้ำดื่ม กิจกรรมตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงวัณโรค รพ.สต.บ้านสันคะยอม เชียงใหม่

‘เฮงลิสซิ่ง’ สนับสนุนน้ำดื่ม กิจกรรมตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงวัณโรค รพ.สต.บ้านสันคะยอม เชียงใหม่ บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพของคนใน ชุมชน มอบน้ำดื่มสำหรับบริการกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับบริการตรวจคัดกรองวัณโรคโดยรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ โดย…

1 day ago

เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสาน “งานประเพณีบุญบั้งไฟล้าน ปี 2567” จ.กำแพงเพชร

บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมอนุรักษ์การสืบทอดศิลปะ ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดีงามของชาวบ้านนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งจุดบริการน้ำดื่ม “น้ำเฮง น้ำใจ” แก่ประชาชน

3 days ago

5 คีย์เวิร์ดหลักช่วยสร้าง ภูมิคุ้มกันทางการเงิน ที่ดี

การสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดี คือการศึกษาความรู้ทางการเงินตั้งแต่ยังเด็ก วันนี้เราจะชวนคุณมาสร้างภูมิคุ้มกันการเงินที่ดีในบทความนี้

4 days ago

10+1 เทคนิค วางแผนการเงิน ในชีวิตประจำวัน 

มัดรวมเทคนิค วางแผนการเงิน ในชีวิตประจำวัน จากวัยทำงานสู่วัยเกษียณ เพิ่มความั่นคงทางการเงิน ไม่เกิดปัญหาหนี้สินในอนาคต อ่านต่อในบทความนี้

4 days ago

รวมพื้นฐาน ความรู้ทางการเงิน ที่ทุกคนควรรู้ 

ความรู้ทางการเงิน Financial Literacy เป็นการทำความเข้าใจการเงินในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้คุณมีนิสัยทางการเงินที่ดีในอนาคต

4 days ago

5 ทักษะการเงินที่โรงเรียนไม่เคยสอน แต่เราต้องมีติดตัว 

ทักษะการเงิน ความรู้ทางการเงิน เป็นสิ่งสำคัญแต่กลับไม่มีการสอนในโรงเรียน แต่วันนี้เราจะมาแนะนำทักษะทางการเงินที่ควรมีติดตัว รู้ก่อนรวยก่อน

4 days ago