บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
เนื้อหาของบทความ
การทำใบขับขี่ครั้งแรกของหลายคน อาจจะมีความกังวลว่าข้อสอบจะออกอะไรบ้าง ยากหรือไม่อย่างไร หรือ ต้องทำให้ได้กี่ข้อถึงสอบผ่าน วันนี้เราได้รวบรวมแนวข้อสอบ ข้อสอบใบขับขี่ 2566 มีเนื้อหาที่จะต้องเตรียมตัวสำหรับการสอบอย่างไรบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมแนวข้อสอบเพื่อใช้เตรียมตัวทำข้อสอบใบขับขี่ 2566 มาฝากกันค่ะ
การเตรียมตัวทำ ข้อสอบใบขับขี่ 2566 สำหรับผู้เริ่มทำใบขับขี่ครั้งแรกอาจจะกังวลใจ หรืออยากจะรู้ว่าในการทำข้อสอบใบขับขี่ 2566 มีแนวข้อสอบอย่างไร ข้อสอบใบขับขี่มีกี่ข้อ ต้องทำให้ได้กี่ข้อจึงจะถือว่าทำข้อสอบใบขับขี่ผ่าน ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าคนที่ต้องเตรียมตัวทำข้อสอบใบขับขี่นั้น ได้แก่ ผู้ที่ทำใบขับขี่ครั้งแรก ผู้ที่มีใบขับขี่แบบชั่วคราวอายุ 2 ปีหมดอายุเกิน 1 ปี หรือผู้ที่มีใบขับขี่ชนิด 5 ปี ขาดต่อเกิน 1 ปี โดบข้อสอบใบขับขี่จะมีทั้งหทด 50 ข้อ 9 หมวด ผู้สอบจะต้องทำข้อสอบให้ได้ 45 ข้อขึ้นไป หรือทำได้ 90% ขึ้นไปจึงจะถือว่าทำข้อสอบใบขับขี่ 2566 ภาคทฤษฎีผ่าน ก่อนที่จะทำข้อสอบใบขับขี่ 2566 จะต้องเตรียมตัวดังนี้
แนวข้อสอบใบขับขี่ 2566 มีทั้งหมด 50 ข้อ ซึ่งผู้สอบต้องทำข้อสอบใบขับขี่ 2566 ให้ได้ 45 ข้อขึ้นไป หรือ 90% ถึงจะผ่านการทดสอบใบขับขี่ 2566 โดยหมวดหมู่ข้อสอบใบขับขี่ 2566 มี 9 หมวด ได้แก่
ในหมวดนี้จะทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของเครื่องหมายพื้นทางต่าง ๆ เช่น เส้นชะลอความเร็ว ขับรถในช่องจราจร ห้ามแซง หรือคร่อมเส้นแต่สามารถแซงได้ เป็นต้น
ในหมวดนี้จะทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของป้ายบังคับต่าง ๆ เช่น ป้ายห้ามกลับรถไปทางขวา ป้ายห้ามจอดรถทุกชนิด ป้ายห้ามใช้เสียง เป็นต้น
ในหมวดนี้จะทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของป้ายเตือน ต่าง ๆ
ในหมวดนี้จะทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของป้ายแนะนำต่าง ๆ
หลังจากที่ได้รับใบขับขี่มาแล้ว จนมาถึงวันที่ใบขับขี่ใกล้หมดอายุ เป็นประจำทุกปีสำหรับผู้ที่ขับขี่รถแต่ละท่าน ที่อาจจะถึงเวลาที่ต้องต่ออายุใบขับขี่ ในปี 2566 แล้ว สำหรับการต่ออายุใบขับขี่ 2566 จะมีอยู่ 2 ประเภท โดยที่บางคนอาจจะถึงคราวที่ต้องต่ออายุใบขับขี่ 2566 จากชนิดชั่วคราว (2ปี) เป็น 5 ปี หรือการต่ออายุใบขับขี่ 2566 ชนิด 5 ปี หากกลัวลืมต่ออายุขับขี่ก็สามารถต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าได้ก่อนหมดอายุ 6 เดือน หรือ 180 วัน โดยมีค่าใช้จ่ายในการต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าตามประเภทรถดังนี้
1.รถจักรยานยนต์ ต่ออายุใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 255 บาท
2.รถยนต์ ต่ออายุใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 505 บาท
ทั้งนี้หากปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุและมีการนำไปใช้งาน จะผิดกฎหมายพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มีโทษปรับ 2,000 บาทตามมาตรา 66
โดยก่อนอื่นจะต้องเข้ารับการอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์จะต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ในการเข้าระบบ DLT e-learning สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้ทั้งสมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ได้ทั้งคู่ แต่สำคัญคือต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้คุณยังต้องเตรียมเอกสารเพื่อใช้สำหรับกรอกข้อมูลลงในระบบดังนี้
1.เตรียมข้อมูลให้พร้อม ได้แก่ บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และวันเดือนปีเกิด สำหรับลงทะเบียนในระบบ DLT e-learning
2.เตรียมเวลาให้ว่าง ในการอบรมเพื่อต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ แม้ว่าจะสามารถนั่งอบรมที่ไหนก็ได้ แต่เนื่องจากต้องใช้เวลาในการอบรมไม่ต่างจากการไปอบรมที่ขนส่ง เพราะฉะนั้นคุณจำเป็นต้องหาเวลาที่ว่าง สะดวก และไม่มีธุระ เพื่อนั่งอบรมใบขับขี่ออนไลน์นี้ ประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ใบขับขี่แต่ละประเภทจะใช้เวลาในการอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์แตกต่างกัน จากนั้นเริ่มทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/Home คลิก
2.กดปุ่ม “ลงทะเบียน” สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนเข้าใช้งาน
3.กรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน ประกอบไปด้วยเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด
4.เลือกการอบรมตามใบอนุญาตขับรถที่ต้องการต่ออายุ ประกอบไปด้วย ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ) ระยะเวลาการอบรม 1 ชั่วโมง ใบอนุญาตขับรถขนส่ง ระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง และใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (รถยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ) ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง
4.เลือกข้อ1.แบบทดสอบก่อนอบรม
5.ทำแบบทดสอบก่อนอบรม
6.ดูวิดีโออบรมใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล
7.ทำแบบทดสอบหลังอบรม เมื่อเรียบร้อยแล้วให้กดส่งข้อสอบ
8.เมื่อผ่านการอบรมแล้ว ให้บันทึกหน้าจอผลการอบรมเก็บไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอต่อใบอนุญาตที่กรมการขนส่งต่อไป โดยผลการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์จะมีอายุ 90 วัน นับจากวันที่ผ่านการอบรม
เมื่อทุกคนมีใบขับขี่รถเรียบร้อยแล้ว จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนนเต็ม จะถูกตัดแต้มใบขับขี่เมื่อทำผิดทันที โดยเกณฑ์การตัดแต้มใบขับขี่ 2566 จะแบ่งกลุ่มความผิดออกเป็น 4 ระดับ 20 ฐานความผิดที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้
ตัดแต้มใบขับขี่ 1 คะแนน | ตัดแต้มใบขับขี่ 2 คะแนน | ตัดแต้มใบขับขี่ 3 คะแนน | ตัดแต้มใบขับขี่ 4 คะแนน |
1.ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
2.ไม่สวมหมวกกันน็อก 3.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 4.ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด 5.ขับรถบนทางเท้า 6.ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย 7.ไม่หลบรถฉุกเฉิน 8.ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว 9.ขับรถไม่ติดป้ายทะเบียน หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไข 10.ไม่ติดป้ายภาษี |
1.ขับรถฝ่าไฟแดง
2.ขับรถย้อนศร 3.ขับรถในระหว่างโดยพักใช้หรือเพิกถอนใบขับขี่ |
1.ขับรถในขณะหย่อนความสามารถ
2.ขับผิดวิสัยคนขับรถธรรมดา 3.ขับรถชนแล้วหนี |
1.เมาแล้วขับ
2.ขับรถในขณะเสพยาเสพติด 3.แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น |
สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ | 1.หากถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน (รถทุกประเภท)
2.หากฝ่าฝืนขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน และหากยังถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ |
หวังว่าแนวข้อสอบที่เราได้รวบรวมไปข้างต้นนี้ จะเป็นแนวทางช่วยให้คุณสามารถเตรียมตัวสำหรับการทำ ข้อสอบใบขับขี่ 2566 นี้ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น นอกจากจะเตรียมตัวสำหรับการสอบข้อเขียนแล้ว การสอบภาคปฏิบัติ ผู้สอบจะต้องมีทักษะการขับขี่รถ เข้าใจกฎหมายจราจร และเมื่อคุณสอบข้อสอบใบขับขี่ผ่านแล้วผ่านเรียบร้อยแล้ว เราอยากแนะนำให้คุณทำประกันรถติดเอาไว้สักกรมธรรม์ เพื่อช่วยคุ้มครองคุณและรถจากอุบัติเหตุรถชน หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ อย่างน้อยการมีประกันติดรถไว้ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุอีกด้วย หากสนใจทำประกันรถยนต์แนะนำ ประกันรถยนต์ผ่อน 0% ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน มีให้เลือกหลากหลายแผนประกันตามความต้องการ คุ้มครองคุณ อุ่นใจทุกการเดินทาง
ประกาศผลประกวดร…
เฮงลิสซิ่ง เปิด…
บริษัท เฮงลิสซิ…