สินเชื่อ รถแลกเงิน ดีกว่า เงินกู้นอกระบบ อย่างไร ?

หลายคนคงเคยประสบปัญหาทางการเงินซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ เงินไม่พอใช้ รายรับไม่พอกับรายจ่าย ทำบัตรกดเงินสดเพื่อนำเงินสดมาใช้ บัตรเครดิตวงเงินเต็ม ยืมเงินญาติพี่น้องไม่ได้ กู้เงินไม่ผ่าน สารพัดปัญหาการเงินที่จำเป็นต้องหาทางออกให้ได้ แต่จะทำอย่างไรถึงจะได้เงินใช้อย่างรวดเร็ว หากใครกำลังมองหาแหล่งเงินก้อนอยู่ หรือกำลังมองหา เงินกู้นอกระบบ ลองอ่านบทความนี้นะคะ

รถแลกเงิน รถยังมีขับ

สินเชื่อรถแลกเงิน หรือ สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (P-Loan) หมายถึง สินเชื่อที่ผู้ประกอบธุรกิจรับเอาสมุดคู่มือทะเบียนรถของผู้กู้เงินมาเป็นประกันการชำระหนี้ โดยที่ผู้กู้ยังคงเป็นเจ้าของรถและมีรถไว้ใช้อยู่ ส่วนประเภทรถที่นำมาเป็นประกัน ได้แก่ รถเก๋ง รถกระบะ รถจักรยานยนต์ รถเพื่อการเกษตร รถโดยสาร และรถบรรทุก เป็นต้น

รถแลกเงิน เหมาะกับใคร

หากคุณมีรถเป็นของตัวเองและเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถ (หรือมีชื่อเป็นเจ้าของรถในสมุดคู่มือทะเบียนรถ) และรถจะต้องปลอดภาระหนี้ ก็สามารถถือเล่มพร้อมรถมาแลกเงินได้ที่ผู้ให้บริการสินเชื่อรถที่คุณสนใจ ซึ่งเป็นแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมาย เชื่อถือได้เพราะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย

แต่สำหรับบางคน ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งการเงินที่ถูกกฎหมายได้ เพราะไม่มีหลักทรัพย์เพื่อใช้ในการกู้เงิน จึงจำเป็นต้องพึ่งช่องทางลัดที่ได้เงินไว ไม่ใช้หลักทรัพย์ อย่าง เงินกู้นอกระบบ นั่นเอง มาทำความรู้จักกับ เงินกู้นอกระบบ กันค่ะ

เงินกู้นอกระบบ คืออะไร

เงินกู้นอกระบบ เงินด่วนนอกระบบ หนี้นอกระบบ เงินกู้ดอกร้อยละ 20 เงินกู้ตามเสาไฟฟ้า หรือแก๊งหมวกกันน็อก แล้วแต่ท้องที่ แล้วแต่คนแต่ละคนจะเรียก แต่มีความหมายเดียวกัน คือ หนี้ที่เกิดจากการกู้ยืมกับสถาบันการเงินที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ประเภทของเงินกู้นอกระบบ

รูปแบบของเงินกู้นอกระบบ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท โดยแบ่งตามระยะเวลาการชำระหนี้ คือ หนี้ระยะสั้น และหนี้ระยะยาว

เงินกู้นอกระบบระยะสั้น หรือ เงินกู้รายวัน มีหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ เงินสด ทอง หรือสินค้าอื่น ๆ เป็นเงินกู้ที่เก็บเงินดอกเบี้ยรายวัน โดยบวกทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไว้ด้วยกัน

เงินกู้นอกระบบระยะยาว เป็นการปล่อยกู้ระยะยาวมากกว่า 1 เดือนขึ้นไป และเก็บดอกเบี้ยรายเดือนจนกว่าจะมีเงินก้อนมาใช้คืน เป็นการกู้เงินที่ไม่ค่อยมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน มักจะมีหลักทรัพย์มาค้ำประกันการกู้ยืม เงินกู้แบบนี้ มักมีปัญหาเรื่อง “ดอกลอย” คือหากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ทั้งจำนวนได้ในคราวเดียวกัน จะสามารถชำระได้เฉพาะดอกเบี้ยเท่านั้น และหากมีการผิดชำระหนี้ ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยทบต้นทบดอก ทำให้ยอดหนี้เพิ่มสูงขึ้น

ข้อได้เปรียบของเงินกู้นอกระบบ

เนื่องจากการกู้เงินนอกระบบ ไม่จำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันก็สามารถกู้ได้ แถมได้เงินไวภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือภายใน 1 วัน จึงทำให้กลุ่มชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้า หรือคนที่ไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินในระบบ จึงให้ความสนใจและกู้เงินนอกระบบนี้เยอะ ยกเว้นกรณีที่ต้องการกู้เงินเป็นจำนวนมาก มักจะใช้ โฉนดที่ดิน มาค้ำประกัน

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากใช้บริการเงินกู้นอกระบบ

รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง…เพราะการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงินไม่สามารถทำได้ทุกคน จึงทำให้คนกลุ่มนี้ต้องพึ่งพาการกู้ยืมเงินกู้นอกระบบ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่าย ได้เงินไวกว่า แต่นั่นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเรามักเห็นผลจากการกู้ยืมเงินกู้นอกระบบ ได้จากข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์

ดอกแพง

เงินกู้นอกระบบหรือที่บางคนเรียกว่า เงินกู้ดอกโหด เพราะดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบจะมีอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ( กฎหมายกำหนดไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี หรือร้อยละ 1.25 ต่อเดือน ) โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 2-5 ต่อวันบ้าง หรือ คิดแบบร้อยละ 20 ต่อการกู้ยืม 1 ครั้ง ซึ่งจะมีชายชุดดำ หรือ แก๊งหมวกกันน็อก มาเรียกเก็บดอกจากลูกหนี้เป็นรายวัน เรียกว่า ดอกลอย หากไม่จ่ายดอกเป็นวัน แต่ชำระเป็นงวด หรือ การจ่ายแบบทบต้นทบดอก ดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้นมากอาจสูงถึงร้อยละ 300 ต่อปีได้ ซึ่งมีทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากหนี้แบบนี้ได้คือ หาเงินต้นมาชำระคืนในคราวเดียวให้หมด

สัญญาไม่เป็นธรรม

ในสัญญาของเงินกู้นอกระบบ มักจะเขียนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตัวผู้ให้กู้มากที่สุด ลูกหนี้อาจไม่มีสิทธิ์ในการต่อรองอันใดได้ อาจไม่ระบุกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน และกฎหมายไม่ได้คุ้มครองอีกด้วย

ภัยถึงชีวิต

เรามักจะเห็นข่าวการถูกทำร้ายร่างกายของชาวบ้านตามหน้าหนังสือพิมพ์ จากการทวงหนี้เงินกู้นอกระบบ แก๊งหมวกกันน็อก โดยพวกนี้มักจะใช้วิธีการขู่ ก่อกวน ทำลายทรัพย์สิน หรือ อาจถึงขั้นทำร้ายร่างกาย หนักสุดคือ อาจทำร้ายร่างกายจนอาจถึงชีวิตได้

หากคุณต้องการเงินด่วน ทางออกที่เราอยากแนะนำ คือ การนำ รถแลกเงินหรือการเปลี่ยนรถเป็นเงิน กับสถาบันการเงินในระบบ เพราะจะมีข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างชัดเจน ทั้งอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไข สัญญาที่เป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ และผู้กู้จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอีกด้วย ซึ่งแตกต่างจากการกู้เงินนอกระบบที่กฎหมายไม่ได้มีการรับรอง ถึงจะได้เงินเร็วกว่า ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำ แต่ก็เสี่ยงต่อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและกฎหมายไม่ครอบคลุมด้วย ซึ่งสินเชื่อเปลี่ยนรถเป็นเงินที่เฮงลิสซิ่ง สามารถตอบโจทย์กลุ่มคนที่มีรถเป็นของตัวเองที่ต้องการเงินก้อนได้อย่างลงตัว