ปัจจุบันนี้คนทำงานส่วนใหญ่ใช้รถยนต์ในการเดินทาง ทั้งไปเรียน ไปทำงานหรือเดินทางไกล แม้ว่าจะได้นั่งแอร์เย็นฉ่ำ แต่ก็ยังคงโดนแสงแดดส่องเข้ามาภายในรถ จึงทำให้การ ติดฟิล์มรถยนต์ จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเข้มของแสงแดดที่เป็นผลเสียต่อผิวหนัง ดวงตาและส่วนต่าง ๆ ภายในรถ  ทั้งนี้ก่อนติดฟิล์มรถยนต์จะต้องรู้อะไรบ้างมาดูกันค่ะ 

ติดฟิล์มรถยนต์ มีกี่ประเภท 

การติดฟิล์มรถยนต์ ถือเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานที่รถทุกคันต้องทำ ด้วยอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนและแสงแดดที่รุนแรงแล้ว การติดฟิล์มรถยนต์ จะช่วยลดความเข้มของแสงแดด และยังสะท้อนแดดไม่ให้กระทบกับสายตาผู้ขับขี่ แต่สำหรับการติดฟิล์มรถยนต์สำหรับบางคนช่วยเพิ่มความเท่ห์ ให้กับรถ และช่วยให้ปิดบังสายตาจากคนภายนอกเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจติดฟิล์มรถยนต์นั้น เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับประเภทของการติดฟิล์มรถยนต์ที่คุณควรรู้จัก ดังนี้ 

ติดฟิล์มรถยนต์ แบบธรรมดา (Dyed Window Tints) 

ฟิล์มติดรถยนต์แบบธรรมดาทั่วไป ป้องกันรังสียูวีหรือรังสีอัลตราไวโอเลตได้ในระดับหนึ่ง และลดปริมาณความร้อนสะสมได้เพียงเล็กน้อย เมื่อใช้ไฟสักระยะสีของฟิล์มรถยนต์ประเภทนี้จะเริ่มซีดลง แต่มีข้อดีคือราคาถูก 

ติดฟิล์มรถยนต์ แบบปรอท (Metallized Window Tints) 

การติดฟิล์มรถยนต์แบบปรอท มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีและสะท้อนความร้อนได้ดี เนื้อฟิล์มถูกย้อมด้วยสีที่มีส่วนผสมของโลหะ ทำให้ตัวฟิล์มจึงมีความแข็งแกร่ง ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ แต่จะทำให้อุปกรณ์ เช่น GPS หรือ Easy Pass ใช้งานได้ไม่ดีมากนัก 

ติดฟิล์มรถยนต์ แบบไฮบริด (Hybrid Window Tints) 

การติดฟิล์มรถยนต์แบบไฮบริด มาจากการผสมผสานกันระหว่างฟิล์มย้อมสีและฟิล์มสีเมทัลไลซ์ที่มีส่วนผสมของโลหะอยู่ในชั้นฟิล์ม ทำให้กรองแสงได้ดีไม่ซีด สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ แต่ก็ข้อเสียในเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูง และไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก 

ติดฟิล์มรถยนต์แบบคาร์บอน (Carbon Window Tints) 

การติดฟิล์มรถยนต์แบบคาร์บอน เนื้อฟิล์มจะมีส่วนผสมของอนุภาคคาร์บอนสะท้อนแสงพิเศษ สะท้อนความร้อนได้ดี มีความทนทานสูง สามารถกักเก็บความร้อนได้ดีจึงไม่ค่อยเหมาะกับสภาพอากาศในบ้านเราเท่าใดนัก 

ติดฟิล์มรถยนต์แบบเซรามิค (Ceramic Window Tints) 

การติดฟิล์มรถยนต์แบบเซรามิค  ผลิตโดยการเคลือบเซรามิคอนุภาคเล็กระดับนาโน ประมาณ 65 นาโนเมตร ลงบนเนื้อฟิล์มทำให้มีความสามารถในการกรองแสง กรองรังสีต่างๆ ได้ละเอียดกว่าฟิล์มธรรมดา นอกจากนี้ยังมีความทนทาน ดำนอกสว่างใน คมชัด ไม่สะท้อนแสงอีกด้วย 

ติดฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดี 

การติดฟิล์มรถยนต์ในปัจจุบันมีให้เลือกหลายยี่ห้อ ซึ่งมีประเภทและคุณภาพแตกต่างกัน เรามาดูกันว่าฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์มียี่ห้อไหนบ้างที่น่าใช้บ้างค่ะ 

ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ Hi-Kool 

ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ Hi-Kool ฟิล์มคุณภาพสูงจากโรงงานที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกามาขายในประเทศไทยนานกว่า 30 ปี จุดเด่นของฟิล์มติดรถยนต์ Hi-Kool มีการคิดค้นและวิจัยออกแบบฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ให้เหมาะสมกับพื้นที่เขตร้อนอย่างประเทศไทยเป็นพิเศษ ทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดได้อย่างดีเยี่ยม และราคาจับต้องได้ 

ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ Lamina 

ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ยี่ห้อ Lamina  เป็นแบรนด์ฟิล์มกรองแสงกันความร้อนคุณภาพสูงสุดจากสหรัฐอเมริกา ผลิตโดยโรงงานฟิล์มกรองแสง Lamina ชั้นนำที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลกอย่าง CPFilms ผู้เชี่ยวชาญฟิล์มกรองแสงกันความร้อนทุกประเภทมาอย่างยาวนานตั้งแต่ ค.ศ. 1955 หรือมากกว่า 65 ปี จุดเด่นของฟิล์มลามิน่า คือ ฟิล์มรถยนต์แบบฉาบโลหะและฟิล์มเซรามิค ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Ceramatrix ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของลามิน่าเท่านั้น อีกทั้งยังมีสีให้เลือกค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะโทนสีแบบ Soft Charcoal ทำให้ไม่เกิดเงาสะท้อนหลอกตาขณะขับขี่ และเนื้อฟิล์มจะมีลักษณะบาง ทำให้รู้สึกสบายตาเป็นธรรมชาติ 

ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ 3M 

ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ยี่ห้อ 3M ถือว่าเป็นเจ้าแรกของโลกที่ผลิตฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ทำให้แบรนด์นี้เป็นที่จดจำในฐานะของผู้ผลิตฟิล์มกรองแสงรถยนต์รายแรกในไทย และยังได้มีการออกแบบฟิล์มประเภทต่าง ๆ มาให้เหมาะสมกับการใช้ได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการของลูกค้าด้วย โดยจุดเด่นของฟิล์มติดรถยนต์ 3M มีการเคลือบชั้นป้องกันรังสีอินฟราเรดหรือรังสีความร้อน สะท้อนรังสียูวีได้ถึง 99%  แต่ไม่มีผลกระทบต่อสัญญาณไวไฟ บลูทูธ และสัญญาณโทรศัพท์  ที่สำคัญยังได้รับการรับรองจากสถาบันด้านมะเร็งผิวหนัง ป้องกันรังสีจากแสงแดดได้ดีแบบไม่มีอันตราย  

ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ V-Kool 

ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ ยี่ห้อ V-Kool เป็นฟิล์มที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีสุดพิเศษ นำเอาเทคโนโลยีผลิตฟิล์มกรองแสงสำหรับยานอวกาศและเครื่องบินล่องหนมาใช้ในการผลิตฟิล์ม มีการเคลือบชั้นของโลหะลงบนแผ่นโพลีเอสเตอร์คุณภาพสูงด้วยชั้นอนุภาคอะตอมขนาดเล็กของ ทองคำ เงิน และอินเดียมออกไซด์ ทำให้ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ V-Kool สามารถสะท้อนความร้อนและกรองช่วงรังสีของดวงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ Solar FX 

ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ยี่ห้อ Solar FX แบรนด์จากอเมริกา ผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดใช้การฝังอนุภาคของนาโนเซรามิคขนาด 80-90 นาโนเมตรเข้าไปในเนื้อฟิล์มแทนการย้อมสีหรือการเคลือบด้วยโลหะ จนเกิดเป็นฟิล์มเซรามิคคุณภาพเยี่ยมที่มีสีเข้มและสะท้อนแสงน้อย แถมยังรับประกันนานถึง 18 ปีเลยทีเดียว 

ติดฟิล์มรถยนต์กี่เปอร์เซ็นต์ 

หลังจากที่เรารู้แล้วว่าจะฟิล์มกรองแสงรถยนต์มียี่ห้อไหนบ้างแล้วนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่คนกำลังเตรียมตัวติดฟิล์มรถยนต์คือ เรื่องของฟิล์มรถยนต์ 40/60/80 บางคนอาจจรู้จักเลขทั้ง 3 นี้แต่บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะฉะนั้นเราจะพามาทำความรู้จักกับตัวเลขเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับการติดฟิล์มรถยนต์อย่างไร  

ฟิล์ม 40/60/80 ตัวเลขเหล่านี้ คือ ค่า VLT Visible Light Transmission คือ ค่าที่บอกถึงปริมาณของแสงสว่างที่สามารถส่องผ่านฟิล์มกรองแสงเข้ามาภายในรถได้ โดยแสดงในรูปแบบของค่า % โดยยิ่ง % น้อย หมายถึง แสงผ่านเข้ามาได้น้อย สีฟิล์มก็ยิ่งเข้ม และถ้าค่า % สูง หมายถึง แสงผ่านเข้ามาได้มาก สีฟิล์มจะยิ่งใส จะเห็นได้ว่าการระบุสเปกของฟิล์มตามค่า %VLT จะทำได้ละเอียดกว่าการระบุความเข้มแบบ 40 / 60 / 80 แต่คนไทยจะเรียกความเข้มของแสง ต่างจากมาตรฐานสากลตามตารางดังต่อไปนี้ 

ค่าความเข้มของฟิล์มกรองแสง 40/60/80 ของไทยเทียบกับค่า VLT มาตรฐานสากล 
%VLT มาตรฐานสากล  5%  20%  40%  60%  80% 
ค่าแสงส่องผ่าน 

ไทย 

80  60  40 
ความทึบ ฟิล์มทึบ  ฟิล์มทึบปานกลาง  ฟิล์มทึบปานกลาง  ฟิล์มเกือบใสถึงใส 

 

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 40% คือ ฟิล์มติดรถยนต์ที่แสงสามารถส่องผ่านได้มาก ตัวฟิล์มจะมีความใส ไม่ทึบจนเกินไป มองเห็นได้ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน  

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 60% คือ ฟิล์มติดรถยนต์ความเข้มปานกลาง ให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และยังพอได้ชัดในเวลาแสงน้อย เช่น กลางคืน 

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 80% คือ ฟิล์มติดรถยนต์ความเข้มสูง แสงส่องผ่านได้น้อย ให้ความเป็นส่วนตัว โดยส่วนใหญ่นิยมติดที่กระจกประตูทั้ง 4 บาน แต่ไม่นิยมติดที่กระจกหน้าและหลัง เนื่องจากความเข้มสูงทำให้การมองเห็นไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะยิ่งในเวลากลางคืน 

ทั้งนี้การนำค่า %VLT มาใช้ในการพิจารณาเลือกฟิล์มรถยนต์ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้คุณเลือกติดฟิล์มรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณ นอกจากนี้ยังมีอีก 3 ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกติดฟิล์มรถยนต์ดังนี้ 

1.ขับรถกลางวันหรือกลางคืนบ่อยกว่ากัน 

หากคุณต้องใช้รถในช่วงกลางวันมากกว่าช่วงค่ำ การเลือกติดฟิล์มรถยนต์สีเข้ม เช่น 60/80 ก็สามารถใช้ได้ แต่หากคุณต้องเดินทางช่วงกลางคืนบ่อย ควรจะติดฟิล์ม 40/60 เพื่อจะได้เห็นภายนอกได้ชัดเจนขึ้น 

2.ใช้กระจกมองหลังเพื่อถอยจอดรถหรือไม่ 

หากคุณใช้กระจกมองหลังสำหรับถอยรถ แนะนำว่าควรใช้ฟิล์ม 40 หรือ 60 แต่ถ้าคุณใช้กล้องมองหลังสำหรับถอยรถ คุณจะเลือกฟิล์มเข้มแค่ไหนก็ได้ตามความสะดวก 

3.สายตาของผู้ขับขี่ 

สายตาของผู้ขับขี่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกความเข้มของฟิล์มกรองแสงรถยนต์ แนะนำว่ากระจกบานหน้าควรจะเป็น 40 เพื่อที่เวลากลางคืนจะได้เห็นภายนอกได้ชัดเจนขึ้น  

เราจะเห็นว่าการเรียกค่าความเข้ม 40/60/80 จะเรียกในเมืองไทยเท่านั้น เพราะอ่านแล้วเข้าใจง่าย ยิ่งตัวเลขสูง ยิ่งแสดงว่าฟิล์มทึบมาก แสงลอดเข้ามาได้น้อยลงนั่นเอง จึงทำให้คนไทยมักจะเรียกด้วยตัวเลข 40/60/80 แต่กลับกันในต่างประเทศ หากเรียกค่า % VLT ตามมาตรฐานสากลแล้ว ยิ่งเลข % มาก ฟิล์มยิ่งใส ทั้งนี้ผู้ขับขี่ควรอ่านให้ถูกต้อง และเลือกติดฟิล์มรถยนต์ให้ตรงกับการใช้งานและความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย 

ติดฟิล์มรถยนต์ กี่วันถึงจะเปิดกระจกได้ 

หลังจากที่เราไปติดฟิล์มรถยนต์ที่ร้านมาแล้ว ร้านจะติดสติกเกอร์ปิดตรงปุ่มกระจกไฟฟ้าเพื่อห้ามเลื่อนกระจกขึ้นลง 7 วัน หรือทางที่ดีควรจะประมาณ 7-14 วัน เพราะในระหว่างที่ช่างกำลังติดฟิล์มรถยนต์ จะมีการฉีดน้ำยาที่มีส่วนผสมของแชมพูและน้ำ เพื่อให้ช่างสามารถเลื่อนแผ่นฟิล์มเพื่อปรับตำแหน่งฟิล์มให้ตรง และทำให้กาวติดผิวกระจกได้ดี จึงห้ามเลื่อนกระจกขึ้นลงในช่วง 7 วัน หรือหากเป็นไปได้ประมาณ 14 วัน ส่วนคราบน้ำจะหายสนิทภายใน 21 วัน เพื่อให้ฟิล์มติดกระจกได้ แน่น เรียบสนิทไปกับกระจก ไม่เกิดการเคลื่อนตัวหรือหลุดได้นั่นเอง 

กฎหมายเกี่ยวกับการติดฟิล์มรถยนต์ 

ในสมัยก่อนการติดฟิล์มรถยนต์ทึบรอบคันมีความผิดตามกฎหมาย แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการยกเลิกไปแล้ว แต่ฟิล์มรถยนต์แบบปรอท ซึ่งลักษณะของฟิล์มเป็นเหมือนกระจกเงาสะท้อน จึงทำให้แสงแยงตาหรือสร้างความร้อนเกิดกับผู้ขับขี่ท่านอื่น จึงเข้าข่ายความผิดกฎหมาย พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 รถใดที่จดทะเบียนแล้ว หากปรากฏในภายหลังว่ารถนั้นมีเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กฎในกระทรวง หรือเพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปซึ่งก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายของผู้อื่น ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถนั้นจนกว่าจะจัดให้มีครบถ้วนถูกต้องหรือเอาออกแล้ว 

การติดฟิล์มรถยนต์ ควรคำนึงถึงไลฟ์สไตล์การขับขี่ สายตาของผู้ขับขี่ และความปลอดภัยเป็นสำคัญ ก่อนที่คุณจะติดฟิล์มรถยนต์ คุณสามารถลองไปดูความเข้มของสีฟิล์มจากตัวอย่างฟิล์มก่อนได้ เพราะหากคุณสายตาไม่ดี สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง แนะนำว่าไม่ควรติดฟิล์มรถยนต์ทึบรอบคัน เพราะจะเห็นทัศนียภาพภายนอกรถไม่ชัดเจน ควรติดบานหน้าและหลัง 40 เพื่อความปลอดภัยทั้งการเดินหน้าและถอยหลัง หากคุณสายตาดี ขับรถในช่วงกลางวันบ่อย และต้องการความเป็นส่วนตัวมากก็สามารถติดฟิล์มทึบรอบคันได้ แต่ก็คำนึงในเรื่องความปลอดภัยด้วย นอกจากการติดฟิล์มรถยนต์จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากแสงแดดแล้ว การทำประกันรถยนต์ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ควรมีติดรถเช่นกัน แนะนำประกันรถยนต์ที่เฮงลิสซิ่ง ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน สนใจสมัครคลิกปุ่มด้านล่างเลย 

สมัครสินเชื่อ