เป็นประจำทุกปีสำหรับผู้ที่ใช้รถที่จะต้องทำการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี หรือ ป้ายวงกลมที่หลายคนยังเรียกกันติดปาก โดยภาษีรถยนต์ เป็นสิ่งที่ใช้แสดงว่าคุณได้ทำการเสียภาษีประจำปีเรียบร้อยแล้ว ส่วนใครที่กำลังคิดจะ ต่อภาษีรถยนต์ใช้อะไรบ้าง ต้องไปทำที่ไหนและต่อล่วงหน้าได้หรือไม่ เรามีคำแนะนำมาฝากค่ะ

ต่อภาษีรถยนต์ใช้อะไรบ้าง

ภาษีรถยนต์ หรือหลายคนเรียกยังว่า ป้ายวงกลม เนื่องจากสมัยก่อนก่อนที่ป้ายภาษีรถยนต์จะมีลักษณะสี่เหลี่ยมสีชมพูฟ้าแบบที่เราเห็นกันนี้ เดิมมีลักษณะเป็นวงกลมมาก่อนนั่นเอง ในการ ต่อภาษีรถยนต์ใช้อะไรบ้าง นั้นก็ไม่ยุ่งยาก เพราะเอกสารเหล่านี้เรามักจะเอาใส่ติดรถไว้ โดยเอกสารต่อภาษีรถยนต์ใช้อะไรบ้าง  ได้แก่

1.สำเนาคู่มือทะเบียนรถ หรือสมุดคู่มือทะเบียนรถตัวจริง

2.เอกสารการต่อประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ที่ยังไม่หมดอายุ

3.ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป )

ภาษีรถยนต์ (ป้ายวงกลม) กับ พ.ร.บ. ไม่เหมือนกัน

เชื่อว่าหลายคนมักเกิดความสับสนและเข้าใจผิด หรือเรียกผิดเรียกถูกระหว่างป้ายภาษี (ป้ายวงกลม) และพ.ร.บ. เพราะแม้ว่าทั้งสองอย่างจะต้องมีการต่ออายุควบคู่กันเป็นส่วนใหญ่ แต่แท้จริงแล้วมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเรามาทำความเข้าใจให้ถูกต้องเกี่ยวกับ 2 สิ่งนี้ระหว่างภาษีรถยนต์กับพ.ร.บ.กันค่ะ

พ.ร.บ. คือประกันภัยภาคบังคับ ที่รถทุกคันต้องมี หากไม่ต่อพ.ร.บ.ก็จะไม่สามารถต่อภาษีได้ เป็นเอกสาร A4 ที่ออกโดยบริษัทประกันภัย ในกรณีที่ภาษีขาดแต่พ.ร.บ.ไม่ขาด หากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน พ.ร.บ.ก็จะยังให้ความคุ้มครองอยู่เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นการทำพ.ร.บ.จึงเป็นสิ่งสำคัญและอย่าปล่อยให้พ.ร.บ.ขาดเด็ดขาด เพราะพ.ร.บ.จะให้ความคุ้มครองโดยจะได้รับความคุ้มครองเป็นค่าเสียหายเบื้องต้น และค่าสินไหมทดแทนดังนี้

1.ค่ารักษาพยาบาลตามจริงคนละไม่เกิน 80,000 บาท

2.ค่าสินไหมทดแทน กรณี สูญเสียอวัยวะ*/ทุพพลภาพอย่างถาวรหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูงสุดคนละ 500,000 บาท  

3.ค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิต สูงสุดคนละ 500,000 บาท

4.เงินชดเชยกรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในสถานพยาบาล วันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน

หมายเหตุ *กรณีสูญเสียอวัยวะ เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

พ.ร.บ.จะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถที่ได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่บริษัท พ.ร.บ.ได้รับคำร้องขอ โดยไม่รอการพิสูจน์ความรับผิด ดังนี้

1.ค่ารักษาพยาบาลตามจริง คนละไม่เกิน 30,000 บาท

2.ค่าเสียหายเบื้องต้น กรณีผู้ประสบภัยสูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพอย่างถาวร   คนละไม่เกิน 35,000 บาท

3.ค่าปลงศพ ไม่เกิน 35,000 บาท

4.หากเกิดความเสียหาย หลายกรณีรวมกัน จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นรวมกันแล้วไม่เกินคนละ 65,000 บาท

หมายเหตุ :กรณี ผู้ประสบภัยเป็นผู้ขับขี่รถคันที่เอาประกัน  จะได้รับความคุ้มครองไม่เกินค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น

ป้ายวงกลม หรือ ป้ายภาษี คือเอกสารที่ติดบนกระจกรถ แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้ได้เสียภาษีเรียบร้อยแล้ว หากขาดต่อภาษีอาจจะทำให้ทะเบียนรถถูกระงับ ในกรณีขาดต่อภาษีเกิน 3 ปี ต้องจดทะเบียนเล่มใหม่และเสียค่าปรับร้อยละ 1 ต่อเดือน

เงื่อนไขรถสำหรับการยื่นต่อภาษีรถยนต์ (ป้ายวงกลม)

  1.       เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) และรถจักรยานยนต์ (รย.12) ที่จดทะเบียนทุกจังหวัด
  2.       รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถประเภท , รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ,รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปีนับจากวันจดทะเบียนครั้งแรก และรถจักรยานยนต์ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี นับจากวัน
  3.       จดทะเบียนครั้งแรก ต้องผ่านการตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อนชำระภาษี
  4.       รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถประเภท , รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ,รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม หรือที่ไม่ต้องขอรับความเห็นชอบก่อนชำระค่าภาษีประจำปี
  5.       รถที่ค้างชำระค่าภาษีประจำปี เกิน 1 ปี ต้องผ่านการตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.)ก่อนชำระภาษี
  6.       ไม่ใช่รถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (แก๊ส) ทุกชนิดเป็นเชื้อเพลิง
  7.       เป็นรถที่มีสถานะทางทะเบียน หรือไม่ถูกระงับทะเบียนเนื่องจากค้างชำระภาษีประจำปี ติดต่อกันครบ 3 ปี
  8.       ไม่ใช่รถที่ได้รับการยกเว้นค่าภาษีประจำปี
  9.       ไม่ใช่รถที่ถูกอายัดทะเบียน
  10.   ชำระภาษีประจำปีล่วงหน้าไม่เกิน 90 วัน ก่อนวันครบกำหนดชำระภาษี

ต่อภาษีรถยนต์ ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมขนส่งทางบก

กรมการขนส่งทางบก เพิ่มความสะดวกให้กับเจ้าของรถมากขึ้นโดยไม่ต้องไปทำเรื่องต่อภาษีที่ขนส่ง ด้วยช่องทางเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th/ โดยสามารถ ต่อภาษีรถยนต์ ผ่านช่องทางนี้ได้ง่าย ๆ โดยมีขั้นตอนดังนี้

โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1.เข้าไปที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th

2.ทำการสมัครสมาชิก

3.คลิกชำระภาษีประจำปี จากนั้นก็กรอกข้อมูลรถ ประเภทรถ จังหวัด และเลขทะเบียนรถ กดค้นหา จากนั้นระบบจำการแสดงรายการข้อมูลการลงทะเบียนรถของเรา จากนั้นก็กดยื่นชำระภาษีที่ช่องตารางขวาสุดได้เลย

4.ในการชำระเงินสามารถทำได้หลายช่องทาง ทั้งการหักบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต ชำระผ่านตู้ ATM หรือ Internet Banking ในแอปพลิเคชันธนาคารของเรา

5.รอป้ายภาษีอยู่ที่บ้านได้เลย ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 3-5 วัน หลังจากที่ได้รับแล้ว อย่าลืมเอาไปเปลี่ยนแทนป้ายภาษีเดิมเลยนะ

เลื่อนล้อต่อภาษี Drive Thru for Tax

การเลื่อนล้อต่อภาษี สามารถดำเนินการได้ที่กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ เป็นการต่อภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งรถเก๋ง รถตู้ รถกระบะ รถจักรยานยนต์ รวมไปถึงรถที่ใช้แก๊ส LPG หรือ NGV เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงเตรียมเอกสารให้พร้อม โดยเอกสารที่ต้องใช้สำหรับการต่อภาษีรถจักรยานยนต์มีดังนี้

1.สมุดคู่มือทะเบียนรถ หรือสำเนาทะเบียนรถ

2.หลักฐานการเอาประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ที่ยังไม่สิ้นอายุ

3.ใบตรวจสภาพรถ (รถยนต์อายุเกิน 7 ปี /รถจักรยานยนต์อายุเกิน 5 ปี) ที่เราได้จากตรอ.

เมื่อเตรียมเอกสารพร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็ไม่ยุ่งยากเลย เพียงขี่รถไปที่สำนักงานขนส่ง จะมีช่อง Drive Thru for Tax เลื่อนล้อต่อภาษี คล้าย ๆ เวลาที่เราไปสั่งอาหารที่ช่องไดร์ฟทรูนั่นแหละค่ะ แต่เปลี่ยนจากการสั่งอาหารมาเป็นการยื่นเอกสารที่เราเตรียมไว้ให้กับทางเจ้าหน้าที่ ใช้เวลาไม่กี่นาทีเราก็จะได้ป้ายภาษีเรียบร้อย พร้อมนำไปเปลี่ยนแทนอันเดิมได้เลยค่ะ

ต่อภาษีรถยนต์ที่ต.ร.อ.ที่เดียวจบ ครบทั้งภาษีและพ.ร.บ.

หากรถที่เข้าเงื่อนไขต้องนำรถไปตรวจสภาพ ก็สามารถไปฝากต่อภาษีที่ตรอ.พร้อมทำพ.ร.บ. โดยเอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่  เล่มทะเบียนตัวจริง หรือสำเนาทะเบียนรถ บัตรประชาชน และเงิน  เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสภาพรถและออกใบตรวจสภาพ เพื่อเพื่อให้เรานำไปใช้ในการต่อภาษีรถยนต์ต่อไป ซึ่งหากใครที่ต้องการฝากให้ตรอ.ต่อภาษี ก็สามารถทำได้แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนิดหน่อย แต่แลกกับความสะดวกของเราไม่ต้องไปทำเรื่องเองที่ขนส่งนั่นเองค่ะ

ต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้กี่วัน      

หลายคนอาจเคยเจอปัญหาลืมต่อภาษีรถยนต์ เพราะไม่ได้ดูวันที่ภาษีของรถตนเองหมด หรือยังไม่มีเวลาไปต่อภาษีจนภาษีหมด แต่ทั้งนี้เราสามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้ 90 วัน ก่อนครบอายุภาษีหมด  ผ่านอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ หรือช่องทาง Drive Thru For Tax เลื่อนล้อต่อภาษี ขับรถผ่านช่องทางรับชำระภาษีโดยที่เราไม่ต้องลงจากรถ ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ

คำนวณภาษีรถยนต์ (ป้ายวงกลม)

คำนวณภาษีรถยนต์ (ป้ายวงกลม) รถแต่ละรุ่น มีอัตราการจ่ายภาษีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น รุ่นรถ ประเภทรถ ขนาดเครื่องยนต์ ซี.ซี.รถ อายุรถ น้ำหนักรถ เป็นต้น โดยมีรายละเอียดภาษีรถยนต์ ดังนี้

1.รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือดำ (ป้ายดำ)

รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่งอย่างเช่นรถเก๋งทั่วไป, รถกระบะ 4 ประตู, รถ SUV ที่มีเบาะนั่งได้ไม่เกิน 7 คน มีการคำนวณภาษีรถยนต์ดังนี้

  1. เครื่องยนต์ขนาด 1-600 ซีซี คิดเป็น ซีซี ละ 50 สตางค์
  2. เครื่องยนต์ขนาด 601-1,800 ซีซี คิดเป็น ซีซี ละ 1.50 บาท
  3. เครื่องยนต์ขนาด 1,801 ซีซี ขึ้นไป คิดเป็น ซีซี ละ 4 บาท

ในกรณีเมื่อรถมีการใช้งานเกินกว่า 5 ปีขึ้นไป จะมีการเสียภาษีรถยนต์ลดลงตามสัดส่วนดังนี้

  1. รถยนต์อายุเกิน 6 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 10%
  2. รถยนต์อายุเกิน 7 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 20%
  3. รถยนต์อายุเกิน 8 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 30%
  4. รถยนต์อายุเกิน 9 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 40%
  5. รถยนต์อายุเกิน 10 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 50%

ตัวอย่างการคำนวณภาษีรถกระบะ 4 ประตู ขนาดเครื่องยนต์ 2,755 ซี.ซี.

  1. 600 ซี.ซี. แรก – ซี.ซี. ละ 0.50 บาท วิธีคิด 600 x 0.5 = 300 บาท
  2. 601 – 1,800 ซี.ซี. – ซี.ซี. ละ 1.50 บาท วิธีคิด (1,800 – 600) = 1200 x 1.50 = 1,800 บาท
  3. 1,801-2,755 ซี.ซี. – ซี.ซี. ละ วิธีคิด (2,755-1,800) = 955 x 4 = 3,820

นำตัวผลลัพธ์ของแต่ละช่วง ซี.ซี. มาบวกกัน เท่ากับ 300+1,800+3,820 = 5,920 บาท

2.รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือเขียว (ป้ายเขียว)

เช่น รถบรรทุกส่วนบุคคลที่เกิน 7 ที่นั่ง การคำนวณภาษีจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักรถดังนี้

  1. น้ำหนักรถ 501- 750 กิโลกรัม อัตราภาษี 450 บาท
  2. น้ำหนักรถ 751 – 1,000 กิโลกรัม อัตราภาษี 600 บาท
  3. น้ำหนักรถ 1,001 – 1,250 กิโลกรัม อัตราภาษี 750 บาท
  4. น้ำหนักรถ 1,251 – 1,500 กิโลกรัม อัตราภาษี 900 บาท
  5. น้ำหนักรถ 1,501 – 1,750 กิโลกรัม อัตราภาษี 1,050 บาท
  6. น้ำหนักรถ 1,751 – 2,000 กิโลกรัม อัตราภาษี 1,350 บาท
  7. น้ำหนักรถ 2,001 – 2,500 กิโลกรัม อัตราภาษี 1,650 บาท

3.รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือน้ำเงิน (ป้ายน้ำเงิน)

รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง การคำนวณภาษีจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักรถ แต่จะมีการคิดอัตราภาษีแตกต่างจาก รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือเขียว ดังนี้

  1. น้ำหนักรถไม่เกิน 1,800 กิโลกรัม อัตราภาษี 1,300 บาท
  2. น้ำหนักรถเกิน 1,800 กิโลกรัม อัตราภาษี 1,600 บาท

การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี เป็นสิ่งที่คนใช้รถต้องใส่ใจและปฏิบัติเป็นประจำทุกปี บทความนี้ได้ให้คำแนะนำในการต่อภาษีรถยนต์ใช้อะไรบ้าง และหากคนที่กลัวลืมต่อภาษีก็ยังสามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วันอีกด้วย ปัจจุบันนี้ ได้มีหลากหลายช่องทางในการต่อภาษีรถยยน์ และพ.ร.บ.ที่สะดวก ง่าย อยู่ที่บ้านก็สามารถทำได้ สามารถดำเนินการผ่านช่องทาง e-service ของกรมการขนส่งทางบก ผ่านช่องทาง Drive Thru เลื่อนล้อต่อภาษี ที่ขนส่ง , แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ,ตรอ.ใกล้บ้าน, ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) , เคาน์เตอร์เซอร์วิส ,ที่ทำการไปรษณีย์ , แอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet

แนะนำ : นอกจากจะมีพ.ร.บ.ภาคบังคับที่เราต้องทำแล้ว ยังมี ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็นประกันภัยรถที่กฎหมายไม่ได้บังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ซื้อ ซึ่งทำด้วยความสมัครใจ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ อุ่นใจในการใช้รถใช้ถนน ให้ความคุ้มครองหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายบริษัท แนะนำ ประกันภัยรถยนต์ ผ่อน 0% ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน จากเฮงลิสซิ่ง คลิก