สมัยนี้ผู้หญิงขับเองคนเดียวเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปเที่ยว ไปรับลูก หรือไปเรียนหนังสือ แต่สำหรับสาว ๆ คนไหน ที่ต้องขับรถกลับบ้านดึกเป็นประจำ อาจจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะช่วงกลางคืนมักเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากลัวไม่น้อยคือเรื่องความปลอดภัยจากผู้ที่ไม่หวังดี ทั้งนี้เราได้รวมเทคนิค ผู้หญิงขับรถกลางคืน ใช้ได้ทั้งชายและหญิงค่ะ   

เทคนิคขับรถสำหรับ ผู้หญิงขับรถกลางคืน  

เราจะเห็นว่าสมัยนี้ผู้หญิงขับรถเองเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับผู้หญิงขับรถกลางคืนเป็นประจำ อาจจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเรามักจะเห็นข่าวการถูกดักปล้น ชิงทรัพย์ในช่วงกลางคืนบ่อยครั้ง โดยเฉพาะผู้หญิงขับรถกลางคืนคนเดียว มีความเสี่ยงมาก ทั้งนี้เราจึงได้รวมเทคนิคขับรถสำหรับผู้หญิงขับรถกลางคืน เพื่อให้ผู้หญิงขับรถกลางคืนเป็นประจำ สามารถป้องกันตัวเองและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันได้  ผู้ชายเองก็สามารถนำเทคนิคดังกล่าวไปใช้ได้เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่รถในยามวิกาลด้วย ดังนี้ 

1.มองรอบรถก่อนขึ้น-ลงรถ 

ก่อนจะเดินขึ้นรถควรมองบริเวรโดยรอบก่อนเปิดประตูรถไม่ว่าจะขื้นรถหรือลงรถก็ตาม เพราะอาจจะมีผู้ไม่หวังดีแอบซุ่มดูเพื่อหวังทำร้ายร่างกายหรือปล้นเอาทรัพย์สินของคุณ หากพบว่ามีบุคคลน่าสงสัยในบริเวณที่คุณจอดรถอยุ อาจขอให้รปภ.หรือคนที่น่าไว้ใจในบริเวณนั้นเดินไปเป็นเพื่อนคุณ 

2.ขึ้นรถปุ๊บ ล็อกรถปั๊บ 

เมื่อขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ให้ล็อกรถทันที เพราะบางคนมักจะวางกระเป๋า วางสิ่งของ ใส่เข็มขัด สตาร์ทรถ แต่ยังไม่ล็อกรถในทันทีที่ขึ้นรถ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่โจรจะเข้ามาทำร้าย ปล้นชิง หรือหากขับรถออกไปแล้วจอดติดไฟแดง หากเราไม่ล็อกรถ โจรอาจจะสุ่มเปิดประตูรถเพื่อเข้ามาปล้น หรือทำร้ายร่างกายได้ เพราะฉะนั้นเมื่อขึ้นรถรถปุ๊บ ให้ล็อกรถปั๊บ แล้วค่อยจัดวางสิ่งของก่อนออกเดินทาง และทางที่ดีก่อนออกจากบ้านควรสำรวจประตูรถทั้งสี่บานว่าระบบล็อกยังดีอยู่หรือไม่ ส่วนรถที่มีระบบล็อกประตูรถเอง หากคุณขับรถคนเดียวเป็นประจำควรล็อกประตูหลังและประตูหน้าฝั่งคนนั่งไว้เลย เพื่อความปลอดภัยของคุณ 

 3.มีสมาธิในการขับรถ ระมัดระวังมากกว่าเดิม 

แม้ว่าจะขับรถในเส้นทางเดิม แต่หากเป็นช่วงกลางคืนจะต้องมีสติและเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะวันดีคืนดีถนนหนทางที่คุณคุ้นเคย อาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ปิดถนนเพื่อซ่อมบำรุง ไฟถนนข้างทางดับ หรือมีสิ่งกีดขวางขวางถนนอยู่ ทำให้เป็นอุปสรรคในการขับขี่ ทั้งนี้คุณจะต้องมีสติและความระมัดระวังในการเดินทาง  

ผู้หญิงแชทมือถือขณะขับรถ

4.หลีกเลี่ยงคุยโทรศัพท์หรือแชท 

หลีกเลี่ยงการคุยโทรศัพท์หรือพิมแชทขณะขับรถ เพราะสมาธิของเราจะจดจ่อที่การสนทนามากกว่าการขับขี่รถ และยิ่งเป็นช่วงกลางคืนด้วยแล้ว ทำให้การมองเห็นท้องถนนลดลง จึงไม่ควรคุยมือถือหรือพิมแชทระหว่างขับรถ 

5.ไม่ควรสวมรองเท้าส้นสูงขณะขับรถ   

สำหรับผู้หญิงที่เลือกใส่ส้นสูง ขอแนะนำให้ทำการถอด และเก็บรองเท้าในบริเวณอื่น ส้นสูงอาจเป็นสาเหตุของการที่ทำให้ผู้ขับขี่เหยียบคันเร่ง หรือเบรกด้วยแรงกดที่ไม่เท่าเดิม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ยิ่งการถอดรองเท้าส้นสูงไว้ใต้ที่นั่งคนขับ ลองนึกภาพดูว่าถ้าเกิดรองเท้าส้นสูงไปขัดที่คันเร่ง หรือเบรกก็มีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นเดียวกัน และยิ่งไปกว่านั้น หากเกิดเหตุในช่วงเวลากลางคืน ก็อาจทำให้เกิดความกลัว หรือความล่าช้าขึ้นอีกด้วย 

6.เช็กสัญญาณไฟเตือนต่างๆ ที่หน้าปัดรถ 

หน้าปัดรถ หรือคอนโซลรถ เป็นตำแหน่งที่จะบอกรายละเอียด และแสดงผลความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถ สำหรับผู้ที่ขับขี่กลางคืน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก็ควรสังเกตสัญญาณเตือนหน้าปัดอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากมีสัญญาณเตือนก็ให้รีบทำการแก้ไข อย่าปล่อย หรือละเลย เพราะนั่นอาจจะทำให้เกิดปัญหาขึ้น และสร้างความลำบากตามมาอย่างแน่นอน 

7.ระบบไฟหน้าพร้อมใช้งานและใช้ไฟสูงเป็น 

ความพร้อมของระบบไฟไม่ว่าจะเป็นระบบไฟของรถทั้ง ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟเลี้ยว ไฟท้าย และไฟภายในห้องโดยสาร ซึ่งระบบไฟที่พร้อมใช้งาน มีส่วนสำคัญในการขับรถกลางคืนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้การใช้ไฟหน้ารถยนต์ในเวลาขับรถกลางคืน ยังเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ผู้ขับขี่รถควรมีนั่นก็คือการเปิดไฟหน้ารถยนต์ให้เป็นเพื่อให้เป็นสัญญาณในการสื่อสารให้กับผู้ขับรถคันอื่นดังนี้ 

การให้สัญญาณโดยการเปิดไฟสูง 

1.ใช้สัญญาณโดยการกะพริบแจ้งเตือนรถช้าที่แล่นอยู่เลนขวา ขอทางเพื่อทำการแซง 

2.ใช้ส่องไปที่ด้านหน้าเมื่อขับในเส้นทางที่มืดมิดไม่มีไฟถนน เพื่อตรวจสอบสภาพการณ์ข้างหน้า/ 

3.ให้สัญญาณแจ้งเตือนรถคันข้างหน้า 

4.ไม่ขับรถเร็วพร้อมกับการสาดไฟสูง 

5.ใช้ไฟสูงบนถนนแบบสองเลนสวนกันต้องระวังรถที่แล่นสวนมา 

6.ไม่ควรเปิดไฟสูงใส่แบบตรงๆ ซึ่งจะทำให้รถที่แล่นสวนมามองไม่เห็น และตามด้วยอุบัติเหตุรุนแรง 

8.เว้นระยะห่างจากคันหน้า 

การขับรถกลางวันหรือขับรถกลางคืน การเว้นระยะห่างจากคันข้างหน้า ช่วยให้คุณมีระยะสำหรับการเบรกรถอย่างกะทันหัน จะได้ไม่เกิดกรณีรถชนท้ายคันข้างหน้า ยิ่งมีการทิ้งระยะห่างจากคันข้างหน้าพอสมควรโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุย่อมมีลดน้อยลง โอกาสในเรื่องความปลอดภัยย่อมมีสูงขึ้นตามไปด้วย 

9.ฝนตกหนักแวะพักข้างทาง 

หากคุณกำลังขับรถเข้าไปในกลุ่มฝนที่ตกหนัก นั่นจะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นของคุณแย่ลง ไฟหน้ารถยนต์และไฟตัดหมอกจะช่วยเพิ่มการมองเห็นในขณะที่ฝนตกหนักได้ แต่หากประเมินสถานการณ์ข้างหน้าแล้วไม่สามารถไปต่อได้ คุณควรที่จะแวะจอดพักข้างทางเพื่อรอฝนซาก่อนเพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้ และเมื่อฝนเบาลงแล้วค่อยเดินทางต่อไปได้ 

10.ระวังรถที่จอดข้างทาง 

บางครั้งหากคุณจำเป็นต้องขับรถกลางคืนเพื่อเดินทางไกล จะต้องระวังรถที่จอดข้างทาง โดยเฉพาะรถบรรทุกที่อาจจะจอดพักหรือจอดเสียอยู่ข้างทาง รวมไปถึงทางโค้งลงหรือขึ้นที่ต้องระวังเพราะอาจจะมีรถจอดอยู่และอาจจะไม่เปิดไฟสัญญาณใด ๆ คุณสามารถเปิดไฟสูงต่ำสลับกันเพื่อดูสถานการณ์ด้านหน้าว่ามีรถจอดข้างทางหรือไม่อย่างไร แต่ไม่ควรเปิดไฟสูงทิ้งไว้เพราะจะเป็นการรบกวนสายตาของผู้ที่ขับรถสวนมานั่นเอง    

11.หากเกิดเหตุฉุกเฉินอย่าเพิ่งลงจากรถ  

หากเกิดเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนน ไม่ว่าจะมีสิ่งกีดขวาง รถเฉี่ยว รถชนท้าย หากคุณขับรถมาคนเดียว อย่าเพิ่งลงรถในทันที เพราะนี่อาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของโจร เพื่อหลอกให้คุณเปิดประตูลงจากรถเพื่อตรวจสอบความเสียหายของรถ หรือเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางออกจากถนน แต่โจรอาจจะอาศัยช่วงเวลานี้ปล้นชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายได้ แนะนำให้ล็อกประตูรถโทรหาประกันหรือคนที่บ้าน ให้มาอยู่เป็นเพื่อน และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน 

12.อย่าไว้ใจใครในยามวิกาล 

เรามักจะเห็นมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบของการขอความช่วยเหลือในเวลากลางคืน เช่น มีคนโบกมือขอความช่วยเหลือ เดินข้างถนน หรือรถเสียกลางทาง และหากโชคไม่ดีนักคุณอาจจะเจอมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบของผู้ที่กำลังเดือดร้อนอยู่ก็เป็นได้ ในทางกลับกันหากคุณคือคนที่กำลังขอความช่วยเหลือในยามวิกาล คุณอาจจะเจอมิจฉาชีพในรูปแบบผู้ไม่หวังดีที่อาจจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคุณในยามวิกาล ทั้งนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะคนที่ต้องการความช่วยเหลือหรือคนที่กำลังจะเข้าไปช่วยเหลือใครสักคนที่กำลังมีปัญหาในยามวิกาล คุณไม่ควรจะลงจากรถยนต์ของตัวเองเพื่อลงไปช่วยเหลือทันที แต่สามารถขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่น ๆ เช่น 191 หรือ 1669 เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือแทน 

อุบัติเหตุยามวิกาล

หากรถเสียกลางทางในยามวิกาลต้องทำอย่างไร 

ในกรณีที่คุณอยู่ในฐานะคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือบนท้องถนนในยามวิกาล และเจอปัญหารถเสียกลางทาง ไม่ว่าจะเป็นรถดับ รถสตาร์ทไม่ติด หรือเหตุผลใดก็ตาม เรามีข้อควรปฏิบัติเมื่อรถของคุณมีปัญหากลางทางและต้องการความช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นต้องทำอย่างไรนั้นเรามีคำแนะนำมาฝาก 

1.หากรถของคุณยังพอเคลื่อนตัวไปได้ พยายามประคองรถเข้าข้างทางเสียก่อน อย่าลืมเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้รถที่ตามมาเห็นสัญญาณไฟของเรา 

2.หากมีเบอร์ช่างซ่อมรถประจำหรือเบอร์รถลากก็ให้โทรหาเพื่อช่วยลากรถให้ไปที่อู่ซ่อมรถเพื่อทำการตรวจเช็กต่อไป 

3.หากรถเสียเรียกประกันได้หรือไม่ คำตอบคือ หากคุณทำประกันรถไว้กับบริษัทไหน คุณสามารถโทรเรียกบริษัทประกันเพื่อมาช่วยเหลือเราได้ เพราะประกันรถจะมีบริการช่วยเหลือรถเสียกลางทางอีกด้วย 

4.ติดต่อเบอร์สายด่วนเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือคุณ   

  • 1193 ตำรวจทางหลวง เมื่อมีเหตุบนทางหลวง 
  • 1146 กรมทางหลวงชนบท สำหรับเหตุบนทางหลวงชนบท 
  • 1554 หน่วยแพทย์กู้ชีพวชิรพยาบาล ให้ความช่วยเหลือในพื้นที่กรุงเทพและพื้นที่ใกล้เคียงกรณีมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ 
  • 199 เจ้าหน้าที่ดับเพลิง กรณีรถยนต์ไหม้ 
  • 1543 สายตรงทางด่วน 
  • 1197 สายด่วนจราจร สามารถสอบถามเส้นทาง เส้นที่จราจรติดขัดหรือไม่สามารถผ่านได้ 
  • 1644 สวพ. 91 สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทุกด้านไม่ว่าจะเป็นข่าวจราจร ของหาย แจ้งเหตุ แจ้งเตือนเหตุและช่วยประสานงานให้กับเจ้าหน้าที่ 
  • 1137 จส 100 ให้บริการเหมือน สวพ. 91 
  • 1677 ร่วมด้วยช่วยกัน 
  • 1543 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ สามารถสอบถามเส้นทางบนทางด่วนและขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ 

ซื้อประกันรถยนต์เพิ่มความคุ้มครองในการขับขี่ 

การซื้อประกันรถยนต์ไม่เพียงแต่ช่วยความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ หรือค่าเสียหายอื่น ๆ เท่านั้น ในกรณีฉุกเฉินอย่างเช่น รถเสียกลางทาง รถดับ หรือรถสตาร์ทไม่ติด หากคุณทำประกันรถไว้ ก็ยังสามารถโทรหาบริษัทเพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือคุณได้อีกด้วย เพราะปัจจุบันนี้บริษัทประกันหลายแห่งมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงที่นอกเหนือจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หากเกิดปัญหารถเสียกลางทาง ก็สามารถโทรสายด่วนประกันรถของคุณ โดยสิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อจะต้องติดต่อกับบริษัทประกันมีดังนี้ 

1.ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 

2.ข้อมูลรถ ได้แก่ เลขทะเบียนรถ หรือ หมายเลขกรมธรรม์รถยนต์ 

3.อาการของรถที่เกิดขึ้น เช่น รถดับ รถมีเสียงผิดปกติ ควันออกมากเกินไป เป็นต้น 

4.พิกัด หรือ สถานที่ที่เกิดเหตุ 

ทั้งนี้บริการความช่วยเหลือและเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันไม่เหมือนกัน ผู้เอาประกันควรจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขการรับบริการความช่วยเหลือและเงื่อนไขความคุ้มครองเสียก่อน เพราะหากอยู่ในเงื่อนไขคุณจะรับการบริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด 

ผู้หญิงขับรถกลางคืน  จำเป็นจะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ เพราะทัศนวิสัยที่แย่ลง แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ รวมไปถึงความเหนื่อยล้าจากการทำงานของผู้ขับขี่ อาจจะทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ทั้งนี้ลองทำเทคนิคขับรถกลางคืนที่เราได้แนะนำไปข้างต้นนำไปใช้ได้ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่นั่นก็คือ การทำประกันรถยนต์ติดไว้สักแผน นอกจากจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถแล้ว เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินรถเสียกลางทางในขณะขับรถกลางคืน คุณยังสามารถโทรเรียกบริษัทประกันภัยที่คุณทำอยู่ มาช่วยเหลือคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ควรศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองและบริการพิเศษของประกันรถยนต์ที่คุณทำไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ขึ้นมาอย่างน้อยก็ยังสามารถโทรเรียกประกันเพิ่มเข้ามาช่วยเหลือได้นอกเหนือจากการเกิดอุบัติเหตุได้เช่นเดียวกันนั่นเองค่ะ หากสนใจทำประกันรถยนต์แล้ว เฮงลิสซิ่งยังมีประกันรถยนต์ผ่อน 0% นานสูงสุด 12 งวด ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตก็ซื้อประกันรถยนต์ได้เติมเต็มความคุ้มครองในการใช้รถให้คุณได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม สนใจเลือกแผนประกันรถ คลิกปุ่มสมัครด้านล่างเลย 

สมัครสินเชื่อ