มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทางเลือกที่จะช่วยคุณประหยัดค่าน้ำมันในการเดินทาง และกำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน  เพราะนอกจากความคล่องตัวในการใช้งานภายในเมืองหรือในระยะทางประมาณ 60- 80 กิโลเมตรต่อวันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นสำคัญคือเรื่องของการประหยัดน้ำมัน เพราะไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันรถ แค่มีปลั๊กไฟและสายชาร์จก็ชาร์จไฟได้แล้ว  

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า คืออะไร? 

ในปัจจุบันนี้นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ ev ที่กำลังได้รับความนิยมแล้ว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (EV Bike) ยังเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่หลายคนกำลังให้ความสนใจไม่น้อย มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จะใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อนแทนเครื่องยนต์ ส่วนแบตเตอรี่รถจะเป็นหัวใจสำคัญของการจ่ายไฟไปยังมอเตอร์รถเพื่อให้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเคลื่อนที่ได้ แต่เมื่อพูดถึงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแล้ว เชื่อว่าคนที่ตอบโจทย์กับการใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า คือ คนที่เดินทางในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกลมากนัก และใช้มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะหลักมาอยู่แล้ว เพราะมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จะช่วยประหยัดค่าน้ำมัน ขับขี่ง่าย ออกตัวเร็วโดยเฉพาะถ้าคุณขี่มอเตอร์ไซค์ในเมืองที่มีการจราจรติดขัด ขี่ไปเบรกไป หากคุณเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยครั้ง ถือว่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าตอบโจทย์มากสำหรับคนเมือง

หรือถ้าคุณกำลังมองหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสักคัน สำหรับเป็นรถไปตลาดสำหรับแม่บ้าน หรือเป็นรถสำหรับวิ่งซื้อของในระยะที่ไม่ไกลมากนักได้ดีเลยทีเดียว แต่เราจะสังเกตเห็นว่า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เราเห็นนั้นจะมีทั้ง 2 ล้อ และ 3 ล้อ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เราเรียกกันจะมีทั้งแบบจักรยานไฟฟ้า 2 ล้อ 3 ล้อ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แต่ที่สำคัญคือ หากคุณต้องการซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อนำมาใช้เดินทางในชีวิตประจำวัน แนะนำว่าให้เลือกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สามารถจดทะเบียนได้ เพราะจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ถูกกฎหมาย สามารถนำมาวิ่งบนท้องถนนได้ และสามารถต่อภาษีประจำปีและต่อพ.ร.บ.รถมอเตอร์ไซค์ได้เหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไปนั่นเอง  

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า มีข้อดีในการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างไร? 

1.ช่วยลดการปล่อยมลพิษ 

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ช่วยลดการปล่อยทั้ง คาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดนคาร์บอน ไนตริคออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ อัลดิไฮด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เป็นต้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญต่อภาวะโลกร้อน  ทำให้การใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจึงช่วยลดการปล่อยควันพิษนั่นเอง 

2.ประหยัดค่าน้ำมัน 

ในยุคที่ราคาน้ำมันแพงขึ้น การใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าน้ำมันที่มีแนวโน้มจะแพงขึ้นทุกวัน ส่วนค่าไฟแม้ว่าจะมีช่วงลดหรือเพิ่มค่า FT หรือมีการขึ้นค่าไฟ แต่การชาร์จไฟในแต่ละครั้งเมื่อเทียบกับการเติมน้ำมัน ต่อการเดินทางในระยะที่เท่ากันแล้ว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากกว่าเยอะ  

3.ลดค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษา

เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์สำหรับการสันดาป จึงไม่จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาในส่วนของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำยาหล่อเย็น มีเพียงแต่แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ต้องเตรียมเงินเปลี่ยนใหม่ทุก ๆ 3-5 ปี ตามการใช้งาน รวมไปถึงยางรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นปกติตามการใช้งานรถทั่วไป 

วิธีเลือกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนได้  

การใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สามารถจดทะเบียนได้ จะช่วยให้คุณใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้อย่างคุ้มค่าและถูกกฎหมาย พร้อมกับช่วยประหยัดค่าน้ำมัน ไร้มลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทางเดินหายใจของเราอีกด้วย ทั้งนี้ในการเลือกมอเตอร์ไซค์มือสองสักคัน  จะต้องคำนึงถึงเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 

1.กำลังของมอเตอร์ 

มอเตอร์ไฟฟ้า คือส่วนสำคัญของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อช่วยในการขับเคลื่อนแทนเครื่องยนต์ หากขับขี่รถในระยะไกล ควรเลือกกำลังมอเตอร์สูง เพื่อให้คุณสามารถทำความเร็ว เร่งแซง หรือหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ทันใจ  

2.ระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้ง 

ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประเมินได้ว่า ควรจะเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นไหนดี เพราะคุณสามารถคำนวณระยะทางที่ใช้ในแต่ละวันได้ว่าคุณเดินทางวันละกี่กิโลเมตร โดยระยะทางที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคือ 60 80 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นคุณจำเป็นจะต้องเลือกให้เพียงพอและครอบคลุมสำหรับการใช้งานของคุณ  

3.ประเภทของแบตเตอรี่รถ  

แบตเตอรี่รถนั้น คือ หัวใจสำคัญของรถไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ไฟฟ้า เพราะฉะนั้นการเลือกแบตเตอรี่รถไฟฟ้าอย่าง ลิเธียมไอออน แบตเตอรี่ประเภทนี้จะสามารถเก็บไฟฟ้าได้มากกว่า ชาร์จเร็วกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่น    

4.การจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 

หากคุณซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อใช้ในการเดินทางในชีวิตประจำวัน รถของคุณจะต้องจดทะเบียนได้ มิเช่นนั้นหากนำรถที่ไม่สามารถจดทะเบียนได้ไปใช้บนถนน ถือว่าผิดกฎหมาย มีสิทธิถูกจับและโดนปรับได้ โดยเราจะมีตัวอย่างรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สามารถจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมายในหัวข้อถัดไป 

5.บริการหลังการขาย 

บริการหลังการขาย ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่น้อย เพราะเมื่อไหร่ที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของคุณเกิดความขัดข้อง หรือแบตเตอรี่รถมีปัญหา ก็จะได้สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ หรือเคลมแบตเตอรี่หรืออะไหล่ตามเงื่อนไขต่อไปได้   

6.จดทะเบียนได้ตามกฎหมาย 

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเดโก้ สามารถจดทะเบียนขับขี่มอเตอร์ไซค์ตามท้องถนนได้ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจว่าสามารถขับบนท้องถนนได้เหมือนรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป 

 

ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อรถ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 

แม้ว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะมีข้อดีต่าง ๆ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ก็ยังมีข้อควรพิจารณาหรือข้อด้อยของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าดังนี้ 

1.ไม่เหมาะกับขับขี่รถระยะไกล 

โดยเฉลี่ยแล้วมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะวิ่งได้ในระยะทางเฉลี่ย 50-60 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งยังถือว่าวิ่งได้ในระยะทางที่น้อยเมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ทั่วไป รวมไปถึงการทำความเร็วสูงสุดจะยังสู้มอเตอร์ไซค์ทั่วไปไม่ได้  

2.สถานีชาร์จสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 

 ปกติเราจะเห็นสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามจุดต่าง ๆ ทั้งปั๊มน้ำมัน หรือห้างสรรพสินค้า แต่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแล้ว อาจจะหาสถานีชาร์จภายนอกได้ยากมาก เพราะฉะนั้นการชาร์จมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะต้องชาร์จจากที่บ้านให้เรียบร้อย หรือควรพกสายชาร์จติดรถไปด้วย เพื่อนำแบตเตอรี่รถไปชาร์จที่จุดหมายปลายทางที่คุณไปถึง ซึ่งอาจจะไม่สะดวกมากนัก 

3.ชาร์จ 1 ครั้ง ให้เวลานาน 

ในการชาร์จมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 1 ครั้ง อาจจะใช้เวลาในการชาร์จอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงตามการใช้งาน ซึ่งเมื่อเทียบกับการเติมน้ำมันแล้ว การเติมน้ำมันใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น 

4.ราคาสูง 

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ขายในท้องตลาดนั้น ยังถือว่ามีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ทั่วไป   

 

แนะนำ 9 รุ่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จดทะเบียนได้ 

การเลือกรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อการเดินทางบนท้องถนน จะต้องเลือกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนได้ เพื่อจะได้ขับขี่บนท้องถนนได้อย่างถูกกฎหมาย สำหรับใครที่กำลังมองหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ควรเลือกรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนได้ โดยเรามีตัวอย่างของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนได้ ดังนี้

CIAO HSEM Motor 

ใครที่ชอบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด น่ารัก แนะนำ CIAO จาก HSEM Motor ความเร็วสูงสุด 60 กม./ชม.  ระยะทางสูงสุด 60 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โหมดปรับความเร็ว 3 ระดับ ระยะเวลาชาร์จไฟ 3 – 4 ชั่วโมง เฉลี่ยค่าใช้จ่ายเพียง 7 – 8 บาทต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ราคาอยู่ที่ประมาณ 49,700 บาท 

HANNAH Deco Green Energy 

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เน้นการใช้งานคล่องตัว ดีไซน์สวยงาม แนะนำ HANNAH จาก Deco Green Energy รองรับ USB สำหรับชาร์จแบตมือถือ ขาตั้งมีสวิทช์สำหรับควบคุมความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้รถออกตัวได้ขณะที่ขาตั้งกางลงมา ราคาอยู่ที่ประมาณ 49,900 บาท 

C-Like AJ EV Bike

รถมอเตอร์ไซค์เน้นการใช้งานในเมือง C-Like จาก AJ EV Bike ทำความเร็วสูงสุดได้ 60 กม./ชม.  ระยะทางสูงสุด 60 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มอเตอร์ 2,000 วัตต์  พร้อมกับเบาะนั่งขนาดใหญ่ เฉลี่ยค่าไฟ : 0.12บาท/กม. หรือ 6 บาท/50กม. ราคาอยู่ที่ประมาณ 39,900 บาท 

VESPAL KAVALLO 

ใครที่ชอบมอเตอร์ไซค์สไตล์วินเทจ แนะนำ VESPAL KAVALLO จาก KAVALLO รูปลักษณ์ดีไซน์ไม่เหมือนใคร วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด  ความเร็วสูงสุด 60 กม./ชม. และระยะทางสูงสุด 65 – 70 กม. ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง พร้อมระบบตัดไฟฟ้าเมื่อชาร์จเต็ม  ชาร์จ 1 ครั้ง ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 10 บาท ให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีฟ้า สีขาวและสีแดง ราคาอยู่ที่ประมาณ 72,000 บาท  

NQiGT Sport NIU 

ใครที่จำเป็นต้องเดินทางไกลขึ้นประมาณ 80 – 120 กิโลเมตร แนะนำ NQiGT Sport จาก NIU เพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3,000 วัตต์ ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. ขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 80 – 120 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มีระบบกันขโมยและระบบติดตามรถด้วย GPS นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชัน NIU สำหรับดูข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถต่าง ๆ ราคาอยู่ที่ประมาณ 154,900 บาท 

Saber Tiger AJ EV BIKE 

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่วิ่งได้ไกลสูงสุด 150 กม. Saber Tiger จาก AJ EV BIKE กำลังมอเตอร์ 2,000 W ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 80 กม./ชม. เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเร็วและชอบความประหยัดไปในตัว มีระบบ Disc Brake ทั้งล้อหน้าและหลัง และยังมีลำโพงบลูทูธสำหรับฟังเพลงได้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 89,900 บาท 

Deco SuperAce

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าดีไซน์เท่ห์โฉบเฉี่ยว ใช้งานคล่องตัว  Deco SuperAce แผงคอนโซลไฟฟ้า ทรงกลม ดูง่าย สบายตา มือเบรค (ปรับระดับได้) ขาตั้งมีสวิทช์สำหรับควบคุมความปลอดภัยเพื่อให้รถไม่สามารถออกตัวได้ขณะที่ขาตั้งข้างกางลงมา ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 80 กม./ชม. วิ่งได้ไกลสูงสุด 70 กิโลเมตร กำลังมอเตอร์ 2,000 W ชาร์จไฟเต็มต่อครั้ง 8.3 บาท หรือ 3.50 บาท/ หน่วยไฟฟ้าราคาอยู่ที่ประมาณ 62,900 บาท 

Strom Sailfish SFH-150Ls

อีกหนึ่งมอเตอร์ไซค์ไฟ้าสไตล์วินเทจ Sailfish จาก Strom ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 75 กม./ชม. กำลังมอเตอร์ 1,500 W วิ่งได้ไกล  80 กิโลเมตร (Model S) 100 กิโลเมตร (Model M) 160กิโลเมตร (Model L) 200กิโลเมตร (Model XL) แบตเตอรี่ Lithium เทคโนโลยี EMS V.2 ช่วยจัดการพลังงานได้ดี ราคาอยู่ที่ประมาณ ราคา 69,900 บาท

MYRA ETRAN

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า MYRA จาก ETRAN มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าดีไซน์ชิค ๆ ไม่เหมือนใคร เน้นการขับขี่ภายในเมืองโดยเฉพาะ วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม. และมีระยะทางสูงสุด 250 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มอเตอร์ 7,000 วัตต์ สร้างแรงบิดได้สูงสุดถึง 200 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ 51 ah 2 ลูก และสำหรับใครที่อยู่กรุงเทพมหานครยังมี ETRAN POWERSTATION 14 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร หรือสามารถเข้าไปเปลี่ยนแบต เพื่อใช้งานรถต่อได้ทันที ราคาอยู่ที่ประมาณ 79,900 บาท

จดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ที่ไหน? 

การจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า มีขั้นตอนที่ไม่แตกต่างจากการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป สำหรับผู้ที่อาศัยในกรุงเทพ ฯ สามารถจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ที่ กรมการขนส่งทางบก ต่างจังหวัด สามารถยื่นคำขอจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ที่สำนักงานขนส่งประจำจังหวัดนั้น  

เอกสารในการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 

  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ (ในกรณีที่ให้ผู้อื่นดำเนินการแทน จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจด้วย) 
  1. แบบคำขอจดทะเบียนรถ 
  1. หนังสือแจ้งจำหน่ายจากบริษัทผู้ผลิต 
  1. หลักฐานเจ้าของรถ ได้แก่ สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาเช่าซื้อ 
  1. ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี 
  1. หลักฐานการประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 

ขั้นตอนการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 

สามารถเตรียมเอกสารทั้งหมดไปยื่นคำขอที่สำนักมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถจักรยานยนต์ หรือ สำนักงานขนส่งประจำจังหวัดได้เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสภาพรถ จดทะเบียนรถ และมอบแผ่นป้ายทะเบียนรถให้ทันที 

จดทะเบียน รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ราคาเท่าไหร่? 

  1. ค่าจดทะเบียนรถใหม่ 315 บาท 
  1. ป้ายทะเบียนรถ ป้ายละ 100 บาท 
  1. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ 100 บาท 
  1. ค่าธรรมเนียมอัตราภาษีประจำปีของรถแต่ละประเภท (พรบ.) 

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เป็นอีกทางเลือกสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน การเดินทางไปกลับระยะทางประมาณ 60-80 กิโลเมตร หากใครที่เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์เป็นประจำทั้งไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ การเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสักคันก็ช่วยให้คุณประหยัดค่าน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแบบนี้ และในปัจจุบันนี้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เลือกหลายรุ่น หลายสไตล์ สามารถเลือกได้ตามความชอบและเงินในกระเป๋าของคุณเอง และที่สำคัญเลือกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนได้ตามกฎหมาย เพราะจะสามารถวิ่งบนท้องถนนได้เหมือนมอเตอร์ไซค์ที่เราใช้กันทั่วไป และได้รับความคุ้มครองจากพ.ร.บ.รถมอเตอร์ไซค์เช่นกัน แต่ห้ามปล่อยให้พ.ร.บ.ขาดเด็ดขาด เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หากคุณกำลังตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสักคันหวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณสามรถตัดสินใจเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ตามความเหมาะสมของคุณมากที่สุดค่ะ