]

ทำไมช่วงนี้รู้สึกว่ารถของตัวเอง รถอืดเร่งไม่ขึ้น เหยียบไม่พุ่ง รอบไม่ขึ้น ขับแล้วหงุดหงิดใจ ถ้าหากรถของคุณกำลังเจอสัญญาณแบบนี้เช่นกัน แสดงว่าเครื่องยนต์ของรถคุณอาจเกิดปัญหาทำงานได้ไม่เต็มที่จึงแสดงอาการ รถอืด เหยียบคันเร่งจนมิดนั่นเอง หากเจออาการเหล่านี้ จะต้องตรวจเช็กจุดไหนบ้าง เราจะมาแนะนำกันให้ทราบกันค่ะ

รถอืดเร่งไม่ขึ้น เกิดจากอะไร

เมื่อรถของคุณเกิดอาการรถอืดเร่งไม่ขึ้น หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงเกิดอาการรถอืดเร่งไม่ขึ้นแบบนี้ แต่เมื่อกลับมาคิดแล้วเราจะเห็นว่าอาการรถอืดเร่งไม่ขึ้น เมื่อรถยนต์ของคุณถูกใช้งานเป็นประจำทุกวันเป็นระยะเวลานาน ชิ้นส่วนภายในรถย่อมเสื่อมสภาพหรือมีการชำรุดไปตามอายุการใช้งาน และหนึ่งในอาการที่แสดงว่าเครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนภายในเริ่มสึกหรอ คือ อาการรถอืดเร่งไม่ขึ้น อาการรถอืดเร่งไม่ขึ้นนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ของทุกคน หากตอนนี้รถยนต์ของคุณมีอาการรถเร่งไม่ขึ้น แสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่จนทำให้เครื่องยนต์อืดรถเร่งไม่ขึ้นนั่นเอง แต่ทั้งนี้การทำงานของเครื่องยนต์มีความเกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในรถหลายอย่าง ซึ่งหากรถเร่งไม่ขึ้นจำเป็นจะต้องเช็คส่วนต่าง ๆ ของรถ สำหรับการเช็กรถว่าเกิดความผิดปกติตรงไหนบ้างนั้น เราจะขอแยกการเช็กรถออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รถเกียร์ธรรมดาและรถเกียร์ออโต้ โดยเริ่มต้นที่รถยนต์เกียร์ธรรมดากันก่อน

เช็กอาการรถอืดเร่งไม่ขึ้น เกียร์ธรรมดา

1.หัวเทียน

เมื่อไหร่ที่รถเร่งไม่ขึ้น รถอืด ให้สงสัยตัวแรกนี้ก่อนเลยสำหรับหัวเทียน หัวเทียน ทำหน้าที่ในการจุดระเบิดในกระบอกสูบเพื่อเครื่องยนต์เดินเครื่องไปได้ หากหัวเทียนเสื่อมสภาพจะส่งผลให้สมรรถภาพของรถลดลง โดยปกติแล้วหัวเทียนที่ใช้งานได้ปกตินั้นจะต้องอยู่ในสภาพที่ปลายฉนวนหุ้มมีสีเหลืองน้ำตาลปนคลาบสีเทาเขี้ยวของหัวเทียนอาจมีการสึกหรอนิดหน่อยตามอายุการใช้งาน

2.น้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างไหลลื่น แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ น้ำมันเครื่องเริ่มเก่าจะส่งผลให้น้ำมันเครื่องหนืด ดำ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานไม่เต็มกำลัง เครื่องอืด เกิดความร้อน และทำให้รถเร่งไม่ขึ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาจากรถเร่งไม่ขึ้นเนื่องมาจากน้ำมันเครื่องเก่า แนะนำให้มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 8,000 – 10,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 6 เดือนครั้ง

3.กรองอากาศ

กรองอากาศทำหน้าที่ช่วยกรองอากาศไม่ให้ไหลเข้ามาในรถ หากที่กรองอากาศสกปรก อากาศก็จะไหลเข้าไปไม่สะดวก ทำให้การจุดระเบิดมีปัญหาและทำให้รถอืดเร่งไม่ขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนกรองอากาศเมื่อรถวิ่งครบ 20,000 กม. แต่ถ้ารถของคุณต้องวิ่งผ่านสถานที่ก่อสร้าง หรือที่ที่มีฝุ่น ดินแดง สามารถเปลี่ยนกรองอากาศได้ไม่ต้องรอครบระยะ

4.กรองน้ำมัน

กรองน้ำมัน มีหน้าที่กรองฝุ่นหรือสิ่งสกปรกในน้ำมันเชื้อเพลิง หากที่กรองน้ำมันอุดตัน จะทำให้รถเดินเครื่องกระตุก ไม่เรียบ และรถเร่งไม่ขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนกรองน้ำมันทุก 2 ปี

5.คอยล์จุดระเบิด

คอยล์จุดระเบิด เป็นตัวกลางในการนำส่งไฟไปยังหัวเทียน หากตัวคอยล์จุดระเบิดมีปัญหา หัวเทียนจะทำงานไม่เต็มที่ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานไม่เต็มที่ เครื่องอืด รถเร่งไม่ขึ้น

เราจะเห็นว่า 5 จุดที่ต้องเช็กเมื่อรถมีอาการรถเร่งไม่ขึ้นมีการทำงานที่สัมพันธ์กันกับเครื่องยนต์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหารถเร่งไม่ขึ้นควรจะมีการหมั่นนำรถไปเช็กสุขภาพเป็นประจำทุกปี และเปลี่ยนชิ้นส่วนหรืออะไหล่ต่าง ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างปกติต่อไปหมดปัญหารถเร่งไม่ขึ้น รถอืด ได้ แต่สำหรับรถเกียร์ออโต้ มีความซับซ้อนมากกว่าเกียร์ธรรมดา และยิ่งขาดการดูแลรักษาและเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะ จะทำให้รถเกิดปัญหา เช่น รถเร่งไม่ขึ้น เกียร์กระตุก หรือถอยหลังไม่ได้ ทั้งนี้เรามาดูกันต่อว่าสาเหตุที่ทำให้รถเร่งไม่ขึ้นสำหรับรถเกียร์ออโต้มีอะไรบ้าง

เช็กอาการรถอืดเร่งไม่ขึ้น เกียร์อัตโนมัติ

หากเกิดปัญหารถเร่งไม่ขึ้นในรถเกียร์ออโต้ จะมีความแตกต่างและซับซ้อนจากรถเกียร์ธรรมดาพอสมควร และยิ่งขาดการดูแลรักษาและเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะ จะทำให้รถเกิดปัญหา เช่น รถเร่งไม่ขึ้น เกียร์กระตุก หรือถอยหลังไม่ได้ ทั้งนี้เรามาดูกันต่อว่าสาเหตุที่ทำให้รถเร่งไม่ขึ้นสำหรับรถเกียร์ออโต้มีอะไรบ้าง

1.เกียร์กระตุกกระชาก

หากเกิดอาการเกียร์กระตุกกระชาก มักจะเกิดจากการที่ระบบเกียร์สกปรก จะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ใหม่และเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ ซึ่งโดยปกติแล้วเราควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโต้ที่ประมาณ 20,000-30,000 กิโลเมตร หรือปีละครั้ง

2.มีคราบน้ำมันไหลออกมานองพื้นหรือล้อรถ

หากพบว่าเกิดจากการรั่วไหลของน้ำมันเกียร์ วิธีแก้ไขคือเปลี่ยนจุดที่รั่วซึม

3.เข้าเกียร์ D หรือ R แล้วแต่รถไม่ตอบสนอง

หากคุณเข้าเกียร์รถแล้วเกิดอาการรถไม่ขยับ ถอยไม่ได้ เร่งไม่ขึ้นนี้ต้องรีบเข้าเช็กระบบเกียร์โดยด่วน หากอาการไม่หนักมากก็เพียงแค่เปลี่ยนคลัทช์ แต่หากอาการหนักจะก็ต้องเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูก ทั้งนี้ต้องให้ช่างซ่อมทำการตรวจเช็กถึงสาเหตุเสียก่อน

4.เครื่องเย็นนิ่งสนิท แต่เครื่องร้อนถึงจะออกแล่นได้

โดยปกติแผ่นคลัตช์ของเกียร์ออโต้แบบ Torque Converter Transmissions หากใช้ไปนาน ๆ จะเกิดการสึกหรอ สังเกตได้ง่ายคือต้องรอให้เครื่องยนต์ร้อนรถก่อนถึงจะออกตัวไปได้ อาการนี้ต้องให้ช่างซ่อมคลัทช์และเปลี่ยนยกชุดคลัทช์ของเกียร์ทั้งหมด

นอกจากอาการที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นทั้งสาเหตุที่ทำให้รถเร่งไม่ขึ้นสำหรับรถเกียร์ธรรมดาและรถเกียร์ออโต้ ทั้งนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถพบความผิดปกติของรถได้จากสัญญาณไฟเครื่องยนต์โชว์ที่หน้าปัดคอนโซลรถได้อีกด้วย

รถอืดเร่งไม่ขึ้น ไฟเครื่องโชว์ เกิดจากสาเหตุใด

นอกจากจุดต่าง ๆ ทั้ง 5 จุด ที่ต้องเช็กเมื่อเครื่องยนต์มีปัญหาทำงานได้ไม่เต็มที่ส่งผลให้รถอืด รถเร่งไม่ขึ้นแล้ว เราจะพบว่าอาจจะมีสัญญาณไฟเตือนรูปเครื่องยนต์โชว์ที่หน้าปัดคอนโซลรถของคุณ หากมีสัญญาณไฟรูปเครื่องยนต์โชว์แสดงว่าเครื่องยนต์ของคุณมีความผิดปกติ เช่น รถสตาร์ทไม่ค่อยติด รถเร่งไม่ขึ้น เครื่องยนต์เดินเบา เป็นต้น ทั้งนี้หากไฟรูปเครื่องยนต์โชว์อาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

  1. ปิดฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงไม่แน่น

เมื่อฝาน้ำมันปิดไม่แน่นจะทำให้แรงดันภายในถังน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ปกติจะขึ้นไฟโชว์ที่หน้าปัดรถ ทั้งนี้ให้นำรถจอดเพื่อทำการปิดฝาถังน้ำมันให้เรียบร้อย และเมื่อขับรถออกไปประมาณ 5 – 10 กิโลเมตร ไฟเตือนจะหายไปเอง

  1. แคทาไลติคคอนเวอร์เตอร์มีปัญหา

Catalytic converter หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าแคท มีหน้าที่กรองไอเสียที่ปล่อยจากเครื่องยนต์ไปสู่อากาศข้างนอก เมื่อรถยนต์ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ๆ ตัวของแคทาไลติคคอนเวอร์เตอร์ก็จะเสื่อมสภาพเป็นปกติ อาจทำให้ไฟเตือนโชว์ขึ้นได้

  1. เซนเซอร์วัดออกซิเจนระบบไอเสียมีปัญหา (O2 sensor)

เซนเซอร์วัดออกซิเจนระบบไอเสีย ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพไอเสียที่ปล่อยออกมาจากเครื่องยนต์ว่าเป็นไปตามค่ามาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ไม่ โดยเซนเซอร์วัดออกซิเจนระบบไอเสียจะทำงานร่วมกับกล่อง ECU เมื่อเซนเซอร์วัดออกซิเจนระบบไอเสียเสียขึ้นมาจะทำให้รถมีอาการอาการกระตุก รถกินน้ำมัน นั่นเอง

  1. คอยล์จุดระเบิดและหัวเทียนมีปัญหา (Ignition Coil and Spark Plug)

หากคอยล์จุดระเบิดและหัวเทียนมีปัญหาจากการเสื่อมสภาพการใช้งาน จะทำให้เครื่องยนต์สะดุด รถเร่งไม่ขึ้น หรือบางครั้งก็ดับ จะต้องเปลี่ยนใหม่แล้วไฟเตือนรูปเครื่องยนต์จะหายไป

  1. หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงมีปัญหา (Fuel Injector)

หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ทำหน้าที่ฉีดน้ำมันเป็นฝอยละเอียดเพื่อส่งต่อไปยังห้องเผาไหม้ แต่เมื่อหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเกิดมีปัญหาจะทำให้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ไม่ดี ทำให้รถกินน้ำมัน รอบรถสะดุด ต้องเปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่

  1. เทอร์โมสตัทหรือวาล์วน้ำมีปัญหา (Thermostat)

วาล์วน้ำ ทำหน้าที่ควบคุมการไหลของน้ำหล่อเย็นในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ซึ่งจะมีการควบคุมอุณหภูมิว่าจะเปิดวาล์วน้ำไว้ที่อุณหภูมิเท่าไหร่ เมื่อวาล์วน้ำเสียอาจทำให้เครื่องยนต์ หม้อน้ำ และท่อยางทางเดินเกิดความเสียหาย

เมื่อทราบปัญหาที่ทำให้รถอืดเร่งไม่ขึ้นแล้ว อย่าลืมหมั่นดูแลเครื่องยนต์อยู่เสมอ นำรถไปตรวจเช็กสุขภาพ เปลี่ยนอะไหล่หรือของเหลวต่าง ๆ เมื่อถึงระยะที่ครบกำหนดเปลี่ยนก็ควรเลือกอะไหล่แท้เปลี่ยนซึ่งอาจจะมีราคาสูงกว่าของเทียมแต่ก็มีการรับประกันและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วและช่วยให้คุณไม่ต้องเสี่ยงที่จะต้องเสียเงินก้อนซ่อมใหญ่เพราะเครื่องยนต์พังในอนาคตอีกด้วย รถยนต์เป็นยานพาหนะที่เราต้องใช้เดินทางไปทำงานทุกวัน นอกจากจะต้องดูแลบำรุงรักษาตามระยะแล้ว การทำประกันรถก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผู้ขับขี่ควรทำติดรถไว้ เพราะการเดินทางในทุกวันย่อมมีความเสี่ยง การมีประกันคุ้มครองตลอดการเดินทางก็ช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ และหากเกิดเหตุฉุกเฉินบนท้องถนน อย่างเช่นรถเสียกลางทาง ก็ยังสามารถโทรเรียกบริษัทประกันเข้ามาช่วยเหลือเพื่อนำไปเข้าอู่เพื่อตรวจเช็คต่อไปได้เช่นกัน แนะนำประกันรถยนต์ผ่อน 0% ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน ซื้อปั๊บรับความคุ้มครองทันที ที่เฮงลิสซิ่ง สนใจสมัครคลิกปุ่มด้านล่างเลย

สมัครสินเชื่อ