เนื้อหาของบทความ

ถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่ทั้งที คุณจะเลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี? เพราะยางรถยนต์ เป็นส่วนสำคัญของรถที่จะต้องสัมผัสกับพื้นผิวถนนอยู่ทุกวัน ด้วยสภาพถนนที่แตกต่างกัน ทำให้ยางรถมีโอกาสเสื่อมได้ง่าย เพราะฉะนั้นเราจะเลือกรถยนต์แบบไหน ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี บทความนี้มีคำตอบมาฝากค่ะ 

เปลี่ยนยางเส้นใหม่ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี?  

ยางรถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญต่อรถและการเดินทางเป็นอย่างมาก เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่ คุณจะเลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีนั้น น่าจะเป็นคำถามของใครหลายคนอยู่ไม่น้อย เพราะเชื่อว่าไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่ายางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีที่สุด เพราะยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีสำหรับแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันนั่นเอง ทั้งนี้ก่อนที่ตัดสินใจว่ายางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีนั้น เรามาทำความรู้จักกับยี่ห้อยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก และมีคุณภาพที่เราควรรู้จักมีดังนี้ค่ะ 

ยางรถยนต์ยี่ห้อบริดสโตน (Bridgestone) 

ยางแบรนด์ Bridgestone เป็นยางที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย แบรนด์นี้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1931 และต่อมา Bridgestone กลายเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์อันใหญ่ที่สุดในโลก และยังให้สำคัญต่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แบรนด์นี้ยังมีสนามทดสอบยางรถยนต์มากกว่า 10 แห่งทั่วโลก รวมถึง Thai Bridgestone Proving Ground ซึ่งมีขนาดกว่า 329 ไร่ ตั้งอยู่ในประเทศไทย เพื่อทดสอบและพัฒนาสมรรถนะของยางรถยนต์ในเงื่อนไขการใช้งานต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ยาง มั่นใจว่ายางของ Bridgestone มีคุณภาพ ปลอดภัย ทุกการใช้งาน 

ยางรถยนต์ยี่ห้อมิชลิน (Michelin) 

หลายคนคงเคยคุ้นเคยกับมาสคอตตัวสีขาวอ้วนกลม ชื่อ “บิเบนดัม” (Bibendum)  หรือที่รู้จักกันในนาม “มิชลิน แมน” Michelin man ยางรถยนต์มิชลินมีประวัติอันยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.1898 เป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมในวงการยางรถยนต์ พวกเขาได้รับการยอมรับสูงสุดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ยาง Michelin มีความยืดหยุ่นและเกาะถนนได้ดีในทุกสภาพถนน ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจในการควบคุมรถยนต์และรู้สึกปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ Michelin มีการพัฒนายางเพื่อออกสำรวจอวกาศอีกด้วย 

ยางรถยนต์ยี่ห้อโยโกฮาม่า (Yokohama) 

ยางรถยนต์ยี่ห้อ Yokohama เป็นยี่ห้อยางที่มีประวัติศาสตร์ยาว ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1917 ในประเทศญี่ปุ่น โยโกฮาม่าได้เติบโตเป็นแบรนด์ยางรถยนต์ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ยางรถยนต์โยโกฮาม่ามีความมุ่งเน้นในการสร้างความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยางรถยนต์โยโกฮาม่า ยังเน้นการออกแบบที่สวยงามและให้ประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าใจ ด้วยการใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการผลิต ยางรถยนต์โยโกฮาม่ามีความทนทานและความยืดหยุ่นที่เหนือชั้นอีกด้วย 

ยางรถยนต์ยี่ห้อดันลอป (Dunlop) 

ยางรถยนต์ยี่ห้อดันลอปเป็นยี่ห้อยางที่มีประวัติศาสตร์ยาวนับกว่าร้อยปี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1888 ในประเทศไอร์แลนด์  โดยการคิดค้นของ MR. J.B. Dunlop ผู้ริเริ่มพัฒนายางรถยนต์ที่ต้องสูบลมและมียางในเส้นแรกของโลกได้สำเร็จ ยางรถยนต์ยี่ห้อนี้เน้นการพัฒนายางที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นมิตร  

ยางรถยนต์ยี่ห้อแม็กซิส (Maxxis) 

ยางรถยนต์ยี่ห้อแม็กซิส มีประวัติศาสตร์ยาวตั้งแต่ปี ค.ศ.1967 มีต้นกำเนิดจากประเทศไต้หวัน แม็กซิสเป็นแบรนด์ยางที่มีความเชื่อมั่นและมีคุณภาพที่ยอมรับในทั่วโลก ตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งแม็กซิสได้มุ่งเน้นในการสร้างยางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง คุณภาพเยี่ยมระดับพรีเมี่ยม ด้วยการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทันสมัย แม็กซิสเป็นยี่ห้อยางรถยนต์ที่เน้นความปลอดภัยและความเสถียรในการขับขี่ ด้วยการออกแบบร่องรอยที่เหมาะสมและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย 

ยางรถยนต์ยี่ห้อกู๊ดเยียร์ (Goodyear) 

ยางรถยนต์ยี่ห้อ Goodyear เป็นยี่ห้อยางที่มีประวัติศาสตร์ยาวนับกว่า 120 ปี กู๊ดเยียร์เป็นแบรนด์ยางที่มีชื่อเสียงและความเชื่อมั่นทั่วโลก กู๊ดเยียร์ได้เริ่มต้นดำเนินธุรกิจยางในปี 1898 และมีการพัฒนาและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ยางรถยนต์กู๊ดเยียร์เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้รถยนต์ที่ต้องการคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการขับขี่ นอกจากนี้ Goodyear ยังเข้าร่วมกิจกรรมทางกีฬาและการแข่งขันระดับโลก ยางกู๊ดเยียร์ได้รับการยอมรับจากนักกีฬาและทีมแข่งขันในสาขาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งรถยนต์ฟอร์มูลาวัน การแข่งรถยนต์มอเตอร์สปอร์ต หรือวงการกีฬายานยนต์ เป็นต้น 

ยางรถยนต์ยี่ห้อนิตโตะ (Nitto) 

นิตโตะ ได้เริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจยางในปี 1949 และมีการพัฒนาและปรับปรุงตลอดเวลา ยางรถยนต์นิตโตะ เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายสำหรับผู้ใช้รถยนต์ที่ต้องการความสมดุลและประสิทธิภาพในการขับขี่ นิตโตะออกแบบยางรถยนต์ด้วยคอมพิวเตอร์ และมีการพัฒนาเทคโนโลยีเนื้อยางโพลีเมอร์เพิ่มการยึดเกาะทุกสภาพท้องถนนให้ดีขึ้นอีกด้วย 

ยางรถยนต์ยี่ห้อโตโย (Toyo) 

โตโย ได้เริ่มก่อตั้งบริษัทในปี 1945 และได้พัฒนายางรถยนต์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงตลอดเวลา โตโยเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่ต้องการประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีและความนุ่มนวลในทุกสภาวะถนน สำหรับโตโยมีตลาดใหญ่ในอเมริกาเหนือ 

ยางรถยนต์ยี่ห้อคอนติเนนทอล (Continental) 

Continental เริ่มก่อตั้งในปี 1871 และเป็นบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ที่มีชื่อเสียง ยางรถยนต์ Continental มีคุณภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีการวิจัยและพัฒนาตลอดเวลาเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือกว่า นอกจากนี้ยังเป็นแบรนด์ที่มีพัฒนาจากยางที่มีร่องดอกยางรุ่นแรกของโลกอีกด้วย 

ยางรถยนต์ยี่ห้อฮันกุ๊ก (Hankook 

Hankook เริ่มก่อตั้งในปี 1941 จากเกาหลี อีกหนึ่งแบรนด์ยางรถยนต์ที่มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับทั้งในยุโรปและอเมริกา ได้มีการพัฒนายางรถยนต์อย่างต่อเนื่อง และยังได้มีการนำไปใช้ใน สนามแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต และยังเป็นผู้สนับสนุนหลักใน รายการ Thailand Super Series ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบของอาเซียนอีกด้วย 

เมื่อเราทำความรู้จักกับยี่ห้อยางรถยนต์แล้ว ในการเลือกซื้อยางรถยนต์ คุณควรจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องยางรถยนต์เรื่องต่าง ๆ ดังนี้ 

วิธีอ่านขนาดยางรถยนต์อ่านอย่างไร 

เคยสังเกตหรือไม่ว่าที่แก้มยางรถยนต์ จะมีตัวเลขและตัวอักษรปรากฏอยู่ซึ่งตัวเลขและตัวอักษรเหล่านี้คือ ขนาดยางรถยนต์ เชื่อว่าผู้ขับขี่จำนวนหนึ่งอาจจะทราบความหมายของตัวเลขและอักษรเหล่านี้ แต่ก็ยังมีผู้ขับขี่บางท่านที่อาจจะไม่เข้าใจความหมายหรือยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีตัวเลขบนแก้มยางรถยนต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่บอกขนาดยางรถยนต์ และขอบเขตการใช้งานของยางรถยนต์นั้น ๆ โดยบทความนี้เราจะมาสอนอ่านขนาดยางรถยนต์ เพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าใจความหมายของตัวเลขและตัวอักษรได้มากยิ่งขึ้น โดยยางรถยนต์ทั่วไปจะมีชุดตัวเลข 4 หลักที่แก้มยาง และชุดตัวเลขตัวอักษรอีกชุด โดยที่แต่ชุดมีความหมายดังนี้ 

ตัวอย่างตัวเลขบนแก้มยาง 215/55 R17 91W 

  • 215 ความกว้างของยาง 
  • 55 ความสูงของยาง (ซีรีย์%) 
  • R ชนิดของยาง (เรเดียล) 
  • 17 เส้นผ่าศูนย์กลางล้อ (นิ้ว) 
  • 91 พิกัดรับน้ำหนักบรรทุก (กก) 
  • W อัตราความเร็วที่ยางรับได้ (km/h) 
  • 0500 สัปดาห์ที่เท่าไหร่ของปีและปีค.ศ.ที่ผลิตยาง (เลข 4 หลักที่แก้มยาง) 

สำหรับชุดตัวเลข 4 หลักนี้ จะบอกวันที่ผลิตยางรถยนต์ ซึ่ง 2 ตัวแรก บอกสัปดาห์ที่ผลิต และ 2 ตัวหลัง บอกปีที่ผลิต จากรูปภาพ คือ ยางผลิตสัปดาห์ที่ 5 ของปี ค.ศ.2000 นั่นเอง นอกจากนี้เมื่อคุณสามารถอ่านขนาดของยางรถยนต์และปีที่ผลิตแล้ว ยังทำให้คุณรู้อายุของยางรถยนต์อีกด้วย ซึ่งปกติแล้วยางรถยนต์ปกติจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี หรือ 40,000 กม. หากครบ 5 ปีแล้วแนะนำให้เปลี่ยนยางเส้นใหม่ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากจะทำให้เรารู้ขนาดยางรถยนต์ ปีที่ผลิตและอายุยางรถยนต์แล้ว เวลาที่เราอาจจำเป็นต้องซื้อยางรถยนต์มือสองใช้ คุณก็สามารถดูปียางรถยนต์ได้ เพื่อจะได้ไม่ถูกย้อมแมวขาย เพราะบางร้านมีการย้อมแมวขายยางรถเก่าโดยอ้างว่าเป็นยางรถยนต์ปีใหม่ โดยการขัดข้อมูลรหัสปียางรถยนต์ออก แล้วปั๊มเข้าไปใหม่ ให้ตัวเลขเป็นปัจจุบันมากที่สุดนั่นเอง เห็นหรือไม่ว่าแค่คุณสามารถอ่านรหัสบนแก้มยางรถยนต์ ทำให้คุณรู้ว่าขนาดยางรถยนต์เท่าไหร่ ผลิตปีไหน และยางมีอายุการใช้งานเท่าไหร่แล้ว เวลาที่คุณจำเป็นต้องซื้อยางรถยนต์มือสองมาใช้จะได้ไม่โดนหลอกอีกด้วย  

ทั้งนี้เราจะเห็นว่ารถแต่ละรุ่นมีขนาดยางรถยนต์ที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นการเลือกขนาดยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถและการใช้งานจึงช่วยให้การเดินทางมีความนุ่มนวล ปลอดภัย ลดแรงกระแทก ลดความเสียหายของช่วงล่าง และยังช่วยประหยัดน้ำมันรถอีกด้วย ในการเลือกขนาดยางรถยนต์มีหลักเกณฑ์ในการเลือกดังนี้ 

การคำนวณขนาดยางรถยนต์ 

การคำนวณขนาดยางรถยนต์จะช่วยให้คุณสามารถเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถของคุณรวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้งานรถ ทั้งนี้การคำนวณขนาดยางรถยนต์สามารถคำนวณได้ 2 แบบ ได้แก่ 

ขนาดยางรถยนต์แบบเมตริก 

ตัวเลข 3 หลัก แสดงความกว้างยางเป็น มม. เช่น 205/45R17 

205 หมายถึง หน้ายางกว้าง 205 มิลลิเมตร 

45 หมายถึง อัตราความสูงแก้มยาง  45% (ซีรีย์) 

17 หมายถึง เส้นผ่าศูนย์กลางวงล้อ 17 นิ้ว 

สูตรการหาความกว้างแก้มยาง  

หน้ายาง*(อัตราความสูงแก้มยาง/100) 

205*(45/100) 

= 92.25 มม. หรือ 3.6 นิ้ว (92.25*25.4),1 นิ้ว = 25.4 มม. 

 ขนาดยางรถยนต์แบบนิ้ว 

ตัวเลข 2 หลัก แสดงเส้นผ่าศูนย์กลางยาง เช่น 31*10.5R15 

31 หมายถึง ความสูงของยาง 31 นิ้ว 

10.5 หมายถึง หน้ายางกว้าง 10.5 นิ้ว 

15 หมายถึง เส้นผ่าศูนย์กลางวงล้อ 15 นิ้ว 

สูตรการหาความกว้างแก้มยาง 

ความสูง – ขอบล้อ/2 

(31-15)/2 = 8 นิ้ว 

สูตรการหาอัตราความสูงแก้มยาง (ซีรีย์) ของยาง 

(แก้มยาง/หน้ายาง) 

8/10.5 = 76% หรือ ซีรีย์ 76 

ประเภทของยางรถยนต์ มีกี่ประเภท 

เมื่อเราทราบขนาดยางรถยนต์แล้ว มาทำความรู้จักกับประเภทของยางรถยนต์ที่ใช้กันส่วนใหญ่ ซึ่งมี 3 ประเภท ได้แก่ HT,AT,MT 

HT: Highway Terrain 

ยางมาตรฐานสำหรับรถยนต์ใหม่และนิยมใช้กันมากที่สุด โดยจะมีอักษร HT บนแก้มยางรถ เน้นการใช้งานบนถนนทั่วไป โดยมีดอกยางเล็ก เรียบ ละเอียด มีคุณสมบัติรีดน้ำดี เกาะถนน เหมาะสำหรับ รถยนต์เก๋ง กระบะทั่วไป แต่ไม่รองรับรถกระบะที่ต้องแบกรับน้ำหนักเยอะ ๆ ได้ 

AT: All Terrain 

ยางรถยนต์เหมาะสำหรับรถกระบะแบบ 4*4 โดยมีอักษร AT บนแก้มยางรถ เน้นการใช้งานบนถนนทั่วไป  หรือลุยบนพื้นถนนขรุขระได้ระดับหนึ่ง ดอกยางสะบัดดินออกได้ดี เหมาะสำหรับรถกระบะที่ใช้งานทั่วไป หรือใช้งานลุยเข้าป่าได้ 

MT: Mud Terrain 

ยางรถยนต์สำหรับรถยนต์สายลุยโดยเฉพาะ โดยมีอักษร MT บนแก้มยางรถ เน้นการใช้งานหนัก ลุยบนถนนสภาพแย่ ๆ ได้ดี เช่น ดินโคลน ลุยป่า เป็นต้น โดยมีร่องยางลึก หนา ใหญ่ จึงสามารถดีดดิน โคลนออกจากยางได้อย่างดี แต่ไม่เหมาะสำหรับการนำมาใช้งานบนถนนทั่วไปได้ 

เติมลมยางรถยนต์ เท่าไหร่จึงจะดีกับรถคุณ 

เชื่อว่าผู้ขับขี่หลายท่าน อาจจะยังไม่รู้ว่ายางรถยนต์ที่ตนเองใช้อยู่ต้องเติมลมยางรถยนต์เท่าไหร่กันแน่ เพราะทุกครั้งที่มีการเติมลมยางรถยนต์ อาจจะไม่ได้เติมเองบ้าง หรือฟังจากคนอื่นว่าต้องเติมลมยางรถยนต์เท่าไหร่โดยที่การเติมลมยางรถยนต์แต่ละประเภท จะมีแรงดันลมยางที่ไม่เท่ากัน โดยปกติการเติมลมยางรถยนต์ ประเภทรถเก๋งจะอยู่ที่ประมาณ 30-32 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) สำหรับล้อหน้าและล้อหลัง แต่ถ้ามีการบรรทุกหรือมีผู้โดยสารเต็มคันรถ จะอยู่ที่ประมาณ  33-35 PSI  ส่วนรถกระบะ จะเติมลมยางรถยนต์ล้อหน้าอยู่ที่ 36-38 PSI  ล้อหลัง  40-42 PSI หรือหากมีการบรรทุกของเต็มท้ายรถ  47-51 PSI  แต่หากจำแนกประเภทรถออกมา จะพบว่าการเติมลมยางรถยนต์แต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน ดังนี้ 

  • รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมแรงลมที่ 25 – 30 ปอนด์ 
  • รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมแรงลมที่ 30 – 35 ปอนด์ 
  • รถกระบะ (ไม่บรรทุก) ควรเติมแรงลมที่ 35 – 40 ปอนด์ 
  • รถตู้บรรทุก 7 – 10 คน ควรเติมแรงลมที่ 43 – 55 ปอนด์ 

โดยความถี่ในการเติมลมยางรถยนต์นั้น ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าต้องเติมเมื่อไหร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานรถบ่อยแค่ไหน ปกติแล้วลมยางรถยนต์จะลดลง 2-3 PSI ในหนึ่งเดือน หากไม่ค่อยได้ขับขี่รถบ่อยควรเติมลมยางรถยนต์ เดือนละครั้งถึงสองครั้ง ทั้งนี้ควรหมั่นตรวจสอบเช็กลมยางรถยนต์อยู่เสมอจึงจะดีที่สุด 

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าจะเลือก ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี สำหรับรถของคุณ ทั้งนี้การเลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดีนั้น ควรเลือกยางที่เหมาะสมกับการขับขี่ เพราะยางรถยนต์จะต้องสัมผัสกับผิวถนนที่มีสภาพแตกต่างกันทั้งขรุขระ เงียบ พื้นถนนเปียก หรือมีดินลูกรัง รวมไปถึงยางรถยนต์ยังต้องแบกน้ำหนักทั้งรถ คนและสัมภาระ จึงทำให้การเลือกยางรถยนต์ต้องเลือกยางรถยนต์ที่มีคุณภาพ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย  รวมไปถึงการดูแลรักษาและเติมลมยางรถยนต์อย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้ยืดอายุยางรถยนต์ให้ใช้ได้นาน ไม่เสื่อมสภาพไปเสียก่อน อย่างไรก็ตามในการเดินทางนอกจากความพร้อมของรถแล้ว การทำประกันรถยนต์ ยังเพื่อช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง เพราะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งคน รถ และความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุรถชน  พิเศษสำหรับคุณซื้อประกันรถยนต์กับเฮงลิสซิ่ง สามารถซื้อประกันแบบแบ่งชำระ ไม่มีดอกเบี้ย นานสูงสุด 12 เดือน สนใจคลิก  

สมัครสินเชื่อ