ใครที่กำลังจะนำรถไปเคลมประกันเป็นครั้งแรก อาจจะเกิดความสงสัยเกี่ยวกับการเลือกอู่เพื่อซ่อมรถ ระหว่างซ่อมห้าง ซ่อมอู่ ซึ่งแตกต่างกันอย่างไร ซ่อมห้างกับซ่อมอู่ มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน สุดท้ายแล้วเราควรจะเลือกซ่อมที่ไหนดี มาอ่านกันต่อเลยค่ะ 

ซ่อมห้าง ซ่อมอู่ คืออะไร? 

ซ่อมห้างซ่อมอู่ จะเลือกแบบไหน? เชื่อว่าหลายคนที่กำลังจะนำรถไปเคลมครั้งแรก อาจจะไม่เข้าใจและเลือกไม่ถูกว่าการเลือกอู่ซ่อมรถ ระหว่างซ่อมห้าง ซ่อมอู่ มันคืออะไร ก่อนที่เราจะตัดสินใจเคลมรถ เลือกซ่อมห้าง ซ่อมอู่ ไหนก็ตาม แต่ก่อนอื่นเรามาเข้าใจเกี่ยวกับการซ่อมของประกันก่อน ปกติแล้วการซ่อมทั่วไปเราจะนำรถไปซ่อมศูนย์หรืออู่ประจำ สำหรับรถป้ายแดงที่อยู่ในช่วงรับประกัน ก็สามารถเปลี่ยนอะไหล่บางชนิดได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในบางรายการ เช่น ผ้าเบรก โช๊คอัพ ซึ่งจะไม่เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์แต่อย่างใด แต่หากเป็นการซ่อมของประกันนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุก่อนเท่านั้น ซึ่งการซ่อมรถเมื่อต้องการเคลมประกันรถยนต์ จะมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ ซ่อมห้าง ซ่อมอู่ มีความแตกต่างกันดังนี้ 

ซ่อมห้าง หรือ ซ่อมศูนย์ คือการนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อนั้น โดยคำว่า “ห้าง” มาจากคำว่า “ห้างหุ้นส่วนจำกัด” เพราะสมัยก่อนศูนย์บริการรถยนต์ จะจดทะเบียนในรูปแบบ หจก. จึงมีการเรียกสั้น ๆ ว่า “ซ่อมห้าง” 

ซ่อมอู่ คือการนำรถไปซ่อมที่อู่รถ โดยมีทั้งอู่นอกเครือบริษัทประกันรถ ผู้เอาประกันต้องสำรองเงินจ่ายก่อนแล้วค่อยเอาใบเสร็จไปเคลมกับทางบริษัทประกันอีกที และอู่ในเครือของบริษัทประกันรถ ผู้เอาประกันไม่ต้องสำรองเงินจ่ายก่อน ซึ่งเป็นอู่ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกันแล้ว 

ซ่อมห้าง

ซ่อมห้าง ซ่อมอู่ เลือกแบบไหนดี? 

ตอนนี้เราน่าจะพอเห็นความแตกต่างของซ่อมห้าง ซ่อมอู่ กันบ้างแล้ว โดยเราจะมาดูถึงข้อดีและข้อเสีย ของการซ่อมห้าง ซ่อมอู่กันก่อนว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร สรุปแล้วเราควรจะเลือกซ่อมแบบไหนดี ระหว่างซ่อมห้างกับซ่อมอู่  

1.การซ่อมห้าง  

ซ่อมห้าง หรือ ซ่อมศูนย์ คือการนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อนั้น โดยคำว่า “ห้าง” มาจากคำว่า “ห้างหุ้นส่วนจำกัด” เพราะสมัยก่อนศูนย์บริการรถยนต์ จะจดทะเบียนในรูปแบบ หจก. จึงมีการเรียกสั้น ๆ ว่า “ซ่อมห้าง” 

ข้อดีของการซ่อมห้าง 
  1. มีชิ้นส่วนอะไหล่รองรับมากกว่า และอะไหล่ทุกชิ้นเป็นของแท้ 
  2. หากรถมีปัญหาเฉพาะภายในเครื่องยนต์  จะมีช่างผู้ชำนาญการคอยให้บริการ 
  3. งานซ่อมได้รับมาตรฐาน 
ข้อเสียของการซ่อมห้าง 
  1. ราคาค่าซ่อม ค่าส่วนต่าง ซ่อมแพงกว่าการซ่อมอู่  
  2. ต้องเข้าคิวรอซ่อมนาน และการซ่อมยังให้เวลานานเช่นกัน  
  3. ในบางจังหวัดไม่มีศูนย์บริการจึงเข้าถึงได้ยาก 

 

ซ่อมอู่

2.การซ่อมอู่ 

การนำรถไปซ่อมที่อู่รถ โดยมีทั้งอู่นอกเครือบริษัทประกันรถ ผู้เอาประกันต้องสำรองเงินจ่ายก่อนแล้วค่อยเอาใบเสร็จไปเคลมกับทางบริษัทประกันอีกที และอู่ในเครือของบริษัทประกันรถ ผู้เอาประกันไม่ต้องสำรองเงินจ่ายก่อน ซึ่งเป็นอู่ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกันแล้ว โดยการซ่อมอู่ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ นอกเครือบริษัทประกันรถ และอู่ในเครือบริษัทประกันรถ 

2.1 อู่ซ่อมในเครือบริษัทประกัน  

อู่ซ่อมรถ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกันที่คุณทำไว้ สามารถนำรถไปซ่อมได้ทันที ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายก่อน (กรณีซ่อมภายในเงื่อนไขที่ได้ตกลงกับบริษัทประกันไว้) 

2.2 อู่นอกเครือบริษัทประกัน   

อู่ซ่อมรถที่ไม่ได้อยู่ในส่วนของการรับรองจากบริษัทประกันที่ลูกค้าทำไว้ มักจะเป็นอู่ซ่อมประจำ อู่ซ่อมแถวบ้าน หรือเป็นอู่ซ่อมที่คนรู้จักแนะนำมาเป็นต้น  จะต้องสำรองเงินจ่ายเองก่อน แล้วค่อยนำใบเสร็จไปเบิกกับบริษัทประกันรถทีหลัง 

ข้อดีจากการซ่อมอู่ 
  1. คุยง่าย มีความเป็นกันเอง 
  2. เบี้ยประกันรถยนต์จะถูกกว่าการซ่อมศูนย์ 
  3. มีหลายอู่ซ่อมให้เลือก 
  4. ระยะเวลาการซ่อมไม่นาน 
ข้อเสียจากการซ่อมอู่ 
  1. หากเกิดปัญหาจากการซ่อมในภายหลัง อาจจะไม่มีการรับประกันจากอู่ซ่อม 
  2. เสี่ยงถูกนำอะไหล่ปลอม คุณภาพไม่ดีมาใช้ 
  3. หากเลือกอู่ซ่อมรถที่ไม่คุ้นเคย ไม่รู้จัก อาจจะได้งานซ่อมที่คุณภาพไม่ดี เมื่อเทียบกับอู่ซ่อมรถที่รู้จักและไว้ใจ 

การเคลมประกันรถยนต์ คืออะไร? 

นอกจากการเลือกอู่ซ่อมแล้ว สิ่งที่ผู้ที่กำลังจะเคลมประกันรถยนต์ครั้งแรก ควรรู้จักก่อน คือ การเคลมประกัน สำหรับการเคลมประกัน มักจะทำหลังจากที่มีการเกิดอุบัติเหตุแล้ว  เบื้องต้นเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน สิ่งสำคัญที่เจ้าของรถจะต้องทำ คือ การมีสติ และจดจำ รวบรวมรายละเอียด หลักฐานความเสียหาย สถานที่เกิดเหตุ เพื่อแจ้งให้บริษัทประกันทราบก่อน     โดยการเคลมประกันรถจะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ การเคลมประกันรถยนต์แบบสด คือ การเคลมประกัน ณ ที่เกิดเหตุและมีพนักงานบริษัทประกันมาตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุ ส่วนการเคลมประกันรถยนต์แบบแห้ง คือ การเคลมหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไประยะหนึ่งแล้ว หลังจากที่มีการทำเรื่องเคลมประกันรถแล้ว บริษัทประกันจะออกใบประเมินความเสียหาย เพื่อให้ผู้เอาประกันนำรถไปเคลมกับอู่ซ่อมรถในเครือบริษัทโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด แต่ในระหว่างที่รถรอซ่อมอยู่นั้น ผู้เสียหายที่เป็นฝ่ายถูกมีสิทธิที่จะเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ เงินค่าชดเชยที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ของฝ่ายที่ผิด ต้องชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายที่เป็นฝ่ายถูกจากการเสียประโยชน์ที่ไม่มีรถใช้ในระหว่างการซ่อม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันภัยภาคสมัครใจของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด ต้องเข้ามารับผิดชอบแทนผู้ขับขี่นั่นเอง 

ประเภทของการเคลมประกันรถยนต์มีอะไรบ้าง? 

ในการเคลมประกันรถยนต์จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ เคลมประกันรถยนต์แบบสด จะมีพนักงานจากบริษัทประกันออกไปตรวจสอบทันที และเคลมประกันรถยนต์แบบแห้ง การเคลมหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไประยะหนึ่งแล้ว (ไม่เกิน 2-3 วัน) สาเหตุการเคลมมักจะเกิดจากกรณีที่เกิดการเฉี่ยวชนหรืออุบัติเหตุที่เกิดความเสียหายไม่มากนัก 

1.การเคลมประกันรถยนต์แบบสด 

การเคลมประกันรถยนต์แบบสด คือการเคลม ณ ที่เกิดเหตุ และมีพนักงานบริษัทประกันมาตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุ โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบดังนี้ 

  • การเคลมแบบมีคู่กรณี คือ อุบัติเหตุแบบรถชนรถ พนักงานบริษัทประกันจะตรวจสอบและพิจารณาว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด โดยฝ่ายผิดจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ให้กับคู่กรณีก่อน ตามเงื่อนไขของบริษัทประกัน* 
  • การเคลมแบบไม่มีคู่กรณี คือ กรณีที่ผู้เอาประกันชนสิ่งของทำให้เกิดความเสียหาย กรณีนี้ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ก่อน 

2.การเคลมประกันรถยนต์แบบแห้ง 

การเคลมประกันรถยนต์แบบแห้ง คือ การเคลมหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไประยะหนึ่งแล้ว (ไม่เกิน 2-3 วัน) สาเหตุการเคลมมักจะเกิดจากกรณีที่เกิดการเฉี่ยวชนหรืออุบัติเหตุที่เกิดความเสียหายไม่มากนัก โดยผู้ถือประกันต้องระบุรายละเอียดว่าเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร วันที่เท่าไหร่ สถานที่ไหน ชนเข้ากับอะไร แล้วจึงแจ้งเคลมกับบริษัทประกันเอง 

**มีเพียงประกันชั้น 1 เท่านั้น ที่สามารถ “เคลมรอบคัน” เป็นการเก็บรายละเอียดร่องรอยต่างๆ รอบตัวรถให้กับคุณได้ 

เบี้ยประกันลดลง สำหรับผู้ที่ไม่เคยเคลมประกันรถใช่หรือไม่?        

รถไม่เคยมีการเคลมประกันเลยในช่วงประกันปีแรก เบี้ยประกันในปีต่อไปจะลดลง หรือหากคุณเปลี่ยนบริษัทประกันภัยใหม่ และไม่มีการเคลมประกันเลย ก็สามารถนำไปลดเบี้ยประกันกับทางบริษัทประกันใหม่ได้เช่นเดียวกัน 

 สรุปแล้วไม่ว่าจะเลือก ซ่อมห้าง ซ่อมอู่ ต่างมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ทั้งนี้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกซ่อมอู่ซ่อมห้างตามความเหมาะสม ตามงบประมาณ ความสะดวกในการเดินทาง หรือตามความพึงพอใจของคุณนั่นเอง อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ยังไม่ได้ทำประกันรถยนต์ แนะนำทำประกันรถยนต์ เพราะนอกจากจะช่วยคุ้มครองคุณจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทั้งคน รถ แล้วหากรถเสียหายก็สามารถนำซ่อมรถต่อได้ทันที มีให้เลือกทั้งการซ่อมห้างซ่อมอู่ ที่เราได้อธิบายไปแล้วข้างต้น สามารถเลือกได้ตามความพึงพอใจของคุณได้เลย สนใจทำประกันรถยนต์ ที่เฮงลิสซิ่ง สินเชื่อสีเขียว ทุกสาขาใกล้บ้าน หรือคสอบถามเพิ่มคลิกปุ่มด้านล่างเลย  

สมัครสินเชื่อ