เริ่มต้นปีใหม่ ใครที่กำลังได้รับรถคันใหม่ ซื้อรถคันใหม่มาแล้ว สิ่งที่คุณควรทำคือการเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ เพราะหาก โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ เรียบร้อยแล้ว หรือการโอนกรรมสิทธิ์รถ โดยมีชื่อคุณเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์คนล่าสุด ก็แสดงว่าคุณคือเจ้าของรถอย่างสมบูรณ์ การโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ บทความนี้มีคำตอบมาฝาก 

โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ มีกี่แบบ 

การโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ หรือการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ เปลี่ยนชื่อจากเจ้าของรถจากคนหนึ่งมาเป็นของอีกคนหนึ่ง โดยทั้งการโอนรถให้กันภายในครอบครัว หรือจากการซื้อขายรถ จะต้องมีการโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์เช่นกัน แต่ทั้งนี้การโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ยังมีรายละเอียดปลีกย่อย ลักษณะการโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ในกรณีที่ต่างกัน แต่การโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ จะต้องดำเนินการที่สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขาที่ผู้โอนมีที่อยู่ปรากฏในใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือที่ขอแจ้งใช้รถไว้ ทั้งนี้การโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์หรือเจ้าของรถยนต์ตัวจริง โดยจะต้องมีชื่อของตัวเองบันทึกลงในเล่มทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวจึงจะถือเป็นการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์อย่างสมบูรณ์ สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์จากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งนั้น มีอยู่ด้วยกันหลายกรณี ทั้งแบบโอนตรงระหว่างเจ้าของรถคนเก่ากับเจ้าของรถคนใหม่ไปโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ที่ขนส่งพร้อมกัน หรือ การโอนรถจากมรดกตกทอดหรือเจ้าของกรรมสิทธิ์เสียชีวิตไปแล้ว หรือการโอนรถข้ามจังหวัด เป็นต้น โดยการโอนเปลี่ยนชื่อรถแต่ละแบบ จะมีขั้นตอนและการเตรียมเอกสารที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ 

โอนรถ

1.โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์แบบโอนตรง  

เจ้าของรถคนเก่ากับเจ้าของรถคนใหม่ จะต้องไปยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนที่สำนักงานขนส่งจังหวัดพร้อมกัน โดยเอกสารที่ต้องเตรียมในการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์กับขนส่งมีดังนี้ 

เอกสารที่ต้องใช้ในการโอนรถยนต์กับขนส่งทางบก 

1.ใบคู่มือจดทะเบียนรถ 

2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ถ้ากรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 

3.สัญญาซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี 

4.แบบคำขอโอนและรับโอน ซึ่งกรอกรายการและลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนเรียบร้อยแล้ว  

2.โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์มรดกตกทอดหรือเจ้าของกรรมสิทธิ์เสียชีวิตไปแล้ว 

“พ่อซึ่งเป็นเจ้าของรถตัวจริงได้เสียชีวิต แต่ลูกต้องการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์นั้นเป็นชื่อของตัวเอง จะสามารถโอนรถได้หรือไม่” กรณีเจ้าของตัวจริงได้เสียชีวิตลงแต่ก่อนหน้านั้น ไม่ได้ทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมไปถึงการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ไปให้คนในครอบครัว กรณีโอนรถของพ่อหรือแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วมาเป็นชื่อลูกเกิดขึ้นมาแล้วหลายเคส กรณีนี้จำเป็นต้องมีผู้จัดการมรดก มาทำการโอนรถแทนเจ้าของรถที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยการโอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง มีดังต่อไปนี้ 

หลักฐานประกอบการโอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง 

1.ใบคู่มือจดทะเบียนรถ 

2.แบบคำขอโอนและรับโอน ซึ่งบันทึกรายการและลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอนเรียบร้อยแล้ว 

3.ถ้ากรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม 

4.หลักฐานการได้มาของตัวรถ เช่น ใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี สัญญาซื้อขาย (ถ้ามี) 

5.กรณีโอนรับมรดก แนบสำเนาใบมรณบัตรเจ้าของรถ และคำสั่งศาลหรือเอกสารของทางราชการที่ระบุชื่อผู้รับมรดก/ผู้จัดการมรดก 

6.หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ 

ขั้นตอนการโอนรถ 

1.นำรถเข้ารับการตรวจสอบ ที่ฝ่ายตรวจสภาพรถ (ยกเว้นกรณีโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถตามรายการจดทะเบียน ไม่ต้องตรวจสอบรถ) 

2.ยื่นตรวจสอบคำขอพร้อมหลักฐาน และผลการตรวจสอบรถ (ถ้ามี) 

3.ชำระเงินค่าธรรมเนียม 

4.รอรับเอกสารคืน 

หมายเหตุ การโอนกรรมสิทธิ์รถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแต่วันโอน (หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท) 

3.โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ในจังหวัด / ข้ามจังหวัดกี่วันถึงจะได้เล่ม 

การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ภายในจังหวัดเดียวจะมีความสะดวก รวดเร็วกว่าการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ข้ามจังหวัด สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ภายในจังหวัด จะใช้เวลาในการตรวจสภาพรถ  ยื่นเอกสาร ดำเนินการทางด้านเอกสาร เร็วที่สุดประมาณ 2-3 ชั่วโมง และหากช้าสุดคือประมาณ 15 วันทำการ ทั้งนี้คุณควรเตรียมเอกสารให้พร้อม ครบถูกต้อง เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาในการยื่นเอกสารและดำเนินการได้เร็วขึ้น 

กรณีการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ข้ามจังหวัด จะต้องมีการทำเรื่องขอโอนรถข้ามจังหวัดเสียก่อน นอกจากเอกสารชุดโอนลอยที่คุณเตรียมไว้ในมือแล้ว จะต้องทำการกรอกใบคำขอสำหรับการโอนรถข้ามจังหวัดก่อน ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมชำระค่าธรรมเนียม หลังจากยื่นเอกสารการขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ข้ามจังหวัดแล้ว เจ้าหน้าที่จะนัดวันให้นำรถยนต์มาตรวจสภาพอีกครั้ง อาจจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินขอโอนรถข้ามจังหวัดขั้นตอนแรก ประมาณ 3 วัน เมื่อถึงวันนำรถมาตรวจสภาพแล้ว นัดวันรอรับเล่มทะเบียนรถ พร้อมแผ่นป้ายทะเบียนใหม่ต่อไป 

โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายกี่บาท 

นอกจากจะต้องเตรียมเงินก้อนหนึ่งสำหรับซื้อรถมือสองสักคันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คิดเผื่อไว้ล่วงหน้านอกจากการซื้อรถแล้วนั่นก็คือ ค่าโอนรถยนต์  ซึ่งผู้ที่กำลังจะซื้อรถต้องเตรียมเงินในส่วนนี้เพื่อเป็นค่าโอนรถยนต์  โดยค่าโอนรถยนต์มีค่าใช้จ่ายแยกย่อยดังนี้ 

1.ค่าคำขอ  5 บาท 

2.ค่าธรรมเนียมค่าโอนรถยนต์  100 บาท 

3.ค่าอากรแสตมป์  500 บาทต่อราคาประเมินทุก 100,000 บาท 

4.ค่าเปลี่ยนป้ายทะเบียน  200 บาท  (ในกรณีที่ผู้ซื้อต้องการเปลี่ยนป้ายทะเบียนใหม่) 

5.ค่าเปลี่ยนเล่มทะเบียน  100 บาท  (ในกรณีที่เล่มทะเบียนเก่าหรือชำรุด) 

 

การโอนลอยและชุดโอนลอย คืออะไร  

หลายคนที่เคยทำการซื้อขายรถมือสองมาก่อน น่าจะคุ้นชินกับการโอนลอย สำหรับการโอนลอย คือ การที่เจ้าของรถหรือผู้ขายรถ ได้ขายรถให้กับผู้ซื้อรถ โดยทำการเซ็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการโอนรถให้แก่ผู้ซื้อ แล้วให้ผู้ซื้อไปดำเนินการเองที่สำนักงานขนส่งทางบก แต่ผู้ขายไม่ได้ไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่สำนักงานขนส่งจังหวัด การที่ผู้ขายได้เซ็นเอกสารทั้งหมดให้ผู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นแบบคำขอโอนและรับโอน หนังสือมอบอำนาจ รวมไปถึงสำเนาเอกสารประจำตัวของผู้ซื้อและเล่มทะเบียน ซึ่งการเตรียมเอกสารทั้งหมดไว้นี้ เรียกกันว่า ชุดโอนลอย ผู้ขายรถส่วนใหญ่มักจะมีการเตรียมชุดโอนลอยเอาไว้ เพื่อรอว่าวันไหนที่มีผู้ซื้อรถมาซื้อ ก็เพียงแค่เซ็นชื่อในช่องผู้รับโอน และผู้ซื้อรถก็นำรถและชุดโอนลอยที่ผู้ขายเตรียมไว้ให้ เอาไปดำเนินเรื่องแจ้งโอนรถที่สำนักงานขนส่งได้เลย ไม่ต้องมีผู้ขายตามไปด้วยนั่นเอง

เอกสารการโอนรถ

วิธีการโอนลอยรถนั้น มักจะใช้ในการซื้อขายรถมือสองเป็นส่วนใหญ่ ผู้ขายจะทำการเซ็นเอกสารสำหรับการโอนลอยรถรอไว้ก่อน แม้ว่าจะมีผู้ซื้อหรือยังไม่มีผู้ซื้อรถคันนั้นก็ตาม เมื่อใดมีผู้สนใจและซื้อรถคันนั้น ผู้ซื้อก็สามารถนำเอกสารชุดโอนลอยที่ผู้ขายได้เซ็นไว้แล้ว นำไปโอนรถที่สำนักงานขนส่งได้เลย ผู้ขายไม่ต้องไปที่สำนักงานขนส่งเพื่อทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้เสียเวลา แต่ก็มีข้อควรระวังตรงที่ หากผู้ซื้อไม่นำชุดโอนลอยนี้ ไปดำเนินการโอนรถที่ขนส่งให้เสร็จเรียบร้อย แต่กลับนำรถไปใช้ในทางที่ไม่ดี หรือทำผิดกฎจราจร จะทำให้ผู้ขายอาจได้รับความเสียหาย จึงจำเป็นต้องเก็บหลักฐานการซื้อขายรถไว้ให้ดี 

 

เอกสารในการโอนลอยรถหรือชุดโอนลอยมีอะไรบ้าง 

1.หนังสือสัญญาซื้อขายรถ (เตรียมสัญญาซื้อขาย 2 ฉบับ สำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย) 

2.สมุดคู่มือทะเบียนรถตัวจริง (เล่มเขียว) 

3.สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมลายเซ็นถูกต้องของผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์คนล่าสุด 

4.สำเนาบัตรประชาชน พร้อมลายเซ็นถูกต้องของผู้ซื้อ (ในกรณีที่เจ้าของรถขายต่อกับผู้ซื้อโดยตรง) 

5.แบบคำขอโอนและรับโอนจากกรมขนส่งทางบก พร้อมลายเซ็นถูกต้องของผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์คนล่าสุด 

6.หนังสือมอบอำนาจจากกรมขนส่งทางบก พร้อมลายเซ็นถูกต้องของผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์คนล่าสุด กรณีที่เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ ไม่ได้ไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่สำนักงานขนส่งด้วยตัวเอง โดยให้บุคคลอื่นหรือผู้ซื้อรถยนต์สามารถนำเอกสารเหล่านี้ไปดำเนินการเรื่องโอนรถที่สำนักงานขนส่งเอง 

 **ข้อสังเกตของการเตรียมเอกสาร**  

เอกสารการซื้อขายรถ ควรมี 2 ฉบับ เพื่อให้ผู้ขายรถและผู้ซื้อ แต่ละฝ่ายเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานในการซื้อขายรถยนต์และผู้ขายควรเก็บสำเนาบัตรประชาชนของผู้ซื้อเอาไว้ด้วย เพราะป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลัง หากผู้ซื้อไม่ยอมไปโอนรถที่สำนักงานขนส่งหลังจากที่ได้มีการซื้อขายรถกันเรียบร้อยแล้ว เช่น ทำผิดกฎจราจร ฝ่าไฟแดง ขับรถเกินความเร็วที่กำหนด จะมีจดหมายใบสั่งส่งมาที่บ้านของผู้ขายหรือเจ้าของรถเดิม หรือผู้ซื้อนำรถไปทำเรื่องผิดกฎหมาย  ก่อคดีความโดยนำรถที่ซื้อไปก่อเหตุ หรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นต้น ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของรถเดิมอาจจะต้องได้รับผิดชอบ โดยที่ตัวผู้ขายไม่ได้เป็นผู้กระทำเนื่องจากได้ขายรถคันนั้นไปแล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องเก็บเอกสารการซื้อขายตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเองค่ะ 

การโอนรถ โอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ เป็นขั้นตอนที่จะทำให้คุณได้เป็นเจ้าของรถอย่างสมบูรณ์ หรือมีชื่อตัวเองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถคันนั้น และสามารถนำรถไปทำธุรกรรมอื่น ๆ ต่อไปได้ เช่น การนำไปขายต่อ  หรือการเอารถเข้าไฟแนนซ์ สำหรับการซื้อขายรถมือสองนั้น การโอนรถเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะหากรถที่คุณซื้อไปแล้วนั้น มีความผิดปกติ เช่น รถย้อมแมวขาย รถขโมยมา รถถูกตัดต่อ หรือเป็นรถที่ผิดกฎหมาย ก็จะไม่สามารถทำการโอนได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นใครที่ซื้อรถมือสอง แนะนำว่าเมื่อซื้อแล้วให้รีบนำรถไปโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์เป็นชื่อตัวเองให้เรียบร้อย เพราะหากเกิดปัญหาเรื่องการโอน จะได้รีบแจ้งเจ้าของรถเข้ามาจัดการต่อไป หรือหากไม่สามารถโอนได้ คุณก็ไม่ควรจะซื้อรถคันนั้น เพราะนอกจากจะได้รถที่ไม่สามารถขับขี่บนท้องถนนได้แล้ว ยังไม่สามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถได้ และไม่สามารถเอารถไปขอสินเชื่อในยามจำเป็นได้ สำหรับใครที่ต้องการซื้อรถมือสอง แนะนำสินเชื่อเฮงรถมือสองของเฮงลิสซิ่ง สมัครได้ที่เฮงลิสซิ่งทุกสาขา มองหาสินเชื่อสีเขียวใกล้บ้าน โทร.1361 หรือกดปุ่มสมัครด้านล่างเลย 

สมัครสินเชื่อ