ปัญหา น้ำเข้าไฟหน้ารถ เป็นปัญหากวนใจของผู้ใช้รถหลายคน ไม่ว่าคุณจะขับรถเก่าหรือขับรถใหม่ โอกาสที่น้ำเข้าไฟหน้ารถย่อมเกิดขึ้นได้กับรถทุกคัน เพราะเหตุใดน้ำถึงสามารถเข้าโคมไฟหน้ารถยนต์ หรือมีไอน้ำเกาะโคมไฟหน้ารถของเราได้ หากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลกระทบกับรถมากน้อยแค่ไหน และน้ำเข้าโคมไฟหน้าแก้ไขได้อย่างไร เรามีคำตอบมาฝากค่ะ 

น้ำเข้าโคมไฟหน้ารถยนต์ เกิดจากอะไร? 

ปัญหาน้ำเข้าโคมไฟหน้ารถ เป็นปัญหาที่สร้างความกวนใจให้กับเจ้าของรถไม่น้อย แต่รถบางคันอาจจะไม่ได้น้ำเข้าโคมไฟหน้ารถ แต่มีไอน้ำเกาะที่โคมไฟหน้ารถ หรือมีน้ำขังในโคมไฟหน้ารถ โดยสาเหตุของน้ำเข้าโคมไฟหน้ารถ แน่นอนว่าจะต้องมีรอยรั่วจุดไหนสักแห่งทำให้น้ำเข้าโคมไฟหน้ารถได้ แล้วจุดไหนของโคมไฟหน้ารถที่ทำให้น้ำเข้าโคมไฟหน้ารถได้ ลองสังเกตแถวโคมไฟหน้ารถหรือไม่ว่าจะมีซีนกันน้ำด้วยซิลิโคนยาง ทั้งตัวโคมไฟหน้ารถและขาหลอดไฟหน้า เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน จึงทำให้น้ำสามารถเข้าโคมไฟหน้ารถได้ โดยมักจะพบว่าน้ำมักจะเข้าโคมไฟหน้ารถในช่วงที่ฝนตกหนัก รถลุยน้ำท่วม หรือการล้างรถโดยใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และเมื่อน้ำซึมเข้าไฟหน้ารถจะกลายเป็นไอน้ำเกาะ เกิดฝ้า หยดน้ำ หรือโคมไฟหน้ารถบางคันอาจถึงขั้นน้ำขังเป็นตู้ปลาเลยทีเดียว ทั้งนี้หากปล่อยปัญหาน้ำเข้าโคมไฟหน้ารถย่อมจะเกิดความเสียหายให้กับโคมไฟหน้ารถ หลอดไฟหน้ารถ รวมไปถึงระบบไฟของรถได้อีกด้วย หากพบว่าน้ำเข้าโคมไฟหน้ารถยนต์ ให้ทำการแก้ไขปัญหาโดยด่วน ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเองได้ ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำเข้าโคมไฟหน้ารถยนต์ ทำได้ดังนี้ 

วิธีแก้ปัญหาน้ำเข้าโคมไฟหน้ารถ  

เพราะสภาพอากาศและความชื้นในช่วงหน้าฝน มักจะส่งผลให้เกิดไอน้ำเกาะโคมไฟหน้ารถ หยดน้ำเกาะภายในโคมไฟหน้ารถ และหากปล่อยไว้อาจส่งความเสียหายให้กับระบบไฟฟ้า โดยการแก้ปัญหาน้ำเข้าโคมไฟหน้ารถ สามารถทำได้ไม่ยากและทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ 

  1. ถอดโคมไฟหน้ารถออกมาล้าง

เริ่มต้นถอดโคมไฟหน้ารถเพื่อนำออกมาล้าง ในระหว่างที่ล้างโคมไฟหน้ารถ คุณควรสำรวจว่าโคมไฟมีความเสียหายตรงไหนหรือไม่ หากพบรอยรั่วแล้วหลังจากที่ล้างเสร็จ เช็ดให้แห้ง  นำซิลิโคนอุดรอยรั่ว และอาจจะต้องเปลี่ยนยางขั้วหลอดไฟหรือซิลิโคนใหม่  

  1. เมื่อเจอรอยแตกร้าว

หากพบรอยแตกร้าวบริเวณโคมไฟหน้ารถ ให้นำกระดาษทรายเบอร์ละเอียดสุดขัดเบา ๆ ตรงรอยแตก แล้วเช็ดให้เรียบร้อย จากนั้นใช้ปืนกาวค่อย ๆ แต้มรอยร้าวให้เรียบเสมอกัน ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วนำมาประกอบต่อไป 

  1. รอยร้าวบริเวณขอบยาง

หากพบรอยร้าวที่บริเวณขอบยางซิลิโคน ให้นำแป้นยางเดิมออกจากโคมไฟหน้ารถ จากนั้นเช็ดแป้นยางให้สะอาด จากนั้นนำซิลิโคนหลอดแบบนิ่มสามารถกันน้ำได้ หยอดบริเวณโคมไฟหน้ารถกับยางเดิม แล้วใส่ยางเดิมกลับเข้าไปใหม่  

  1. เปิดฝากระโปรงหน้ารถทิ้งไว้

ทำการถอดขั้วหลอดไฟออก นำรถไปจอดตากแดดไล่ความชื้นให้ระเหยออกไป  

แต่หากคุณทำตามขั้นตอนทั้งหมดแล้ว ปัญหาน้ำเข้าไฟหน้ารถยนต์ยังไม่หาย แนะนำให้เปลี่ยนโคมไฟหน้ารถยนต์ใหม่ ก็จะช่วยให้ปัญหาน้ำเข้าไฟหน้ารถยนต์หายไปได้ นอกจากปัญหาน้ำเข้าโคมไฟหน้ารถยนต์ที่สร้างความกวนใจให้กับเจ้าของรถแล้ว ปัญหาที่มักพบได้บ่อยในไฟหน้ารถยนต์ส่วนใหญ่ ไม่ว่ารถของคุณจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่าคือ โคมไฟหน้ารถยนต์เหลือง ขุ่น ไม่เงามันสวยงามเหมือนก่อน  

ไฟหน้ารถเหลืองแก้ยังไงดี 

ปัญหาโคมไฟหน้ารถเหลือง ขุ่นมัว เป็นอีกหนึ่งปัญหาโคมไฟหน้ารถที่กวนใจเจ้าของรถไม่แพ้กับปัญหาน้ำเข้าไฟหน้ารถ  พอใช้รถนาน ๆ ไปไฟหน้ารถของคุณ เริ่มเหลือง ขุ่น มัว ๆ ไม่สว่างใสวิบวับเหมือนตอนออกรถมาใหม่ ๆ เพราะว่าโคมไฟหน้ารถยนต์ทำจากพลาสติก เมื่อโดนแสงแดดจัด จอดรถตากแดดตลอดทั้งวัน ความร้อนส่งผลให้พสาลติกเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง มัว ขุ่น ดูแล้วทำให้ดูรถเก่าไปด้วย นอกจากนี้ยังเกิดจากคราบเขม่าควันรถเกาะโคมไฟหน้าเป็นเวลานานจนทำให้โคมไฟหน้าเหลือง รวมไปถึงรถที่ต้องเปิดไฟหน้ารถเป็นเวลานาน หรือคนที่ต้องใช้รถในเวลากลางคืนเป็นประจำ ความร้อนจากหลอดไฟทำให้พลาสติกเสื่อม จนทำให้โคมไฟหน้ารถยนต์เหลืองจากภายในนั่นเอง ซึ่งวิธีแก้นั่นก็คือการ ขัดไฟหน้ารถ โดยปกติแล้วเราสามารถไปขัดไฟหน้ารถที่ร้านคาร์แคร์ได้ เพราะที่นั่นจะมีบริการขัดไฟหน้ารถ ให้ใสเหมือนใหม่เช่นเดียวกัน แต่ใช่ว่าเราจะต้องไปจ้างคาร์แคร์ให้เขาขัดไฟหน้ารถได้ที่เดียวซะเมื่อไหร่ เราสามารถขัดไฟหน้ารถด้วยตัวเองได้ โดยสิ่งที่จะนำมาใช้ในการขัดไฟหน้ารถก็หาง่าย ๆ จากในบ้านของเราเองอีกด้วย โดยวิธีในการขัดไฟหน้ารถยนต์ด้วยสิ่งของใกล้ตัวในบ้าน ดังนี้ 

ขัดไฟหน้ารถด้วยยาสีฟัน 

ยาสีฟัน เป็นของที่หาได้ง่ายมากที่สุด ราคาประหยัด แถมชาวเน็ตยังการันตีว่าได้ผลจริง โดยสิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ ยาสีฟัน ผ้าแห้ง/ แปรงสีฟันนุ่มสำหรับขัด  และผ้าแห้งสำหรับเช็ด ขั้นตอนขัดไฟหน้ารถด้วยยาสีฟันมีดังนี้ 

1.ล้างโคมไฟหน้ารถให้สะอาดก่อนขัดไฟหน้ารถ 

2.ใช้ยาสีฟันทาไฟหน้ารถให้ทั่ว 

3.ใช้ผ้าแห้งสำหรับขัด ถูวนเบา ๆ หรือใช้แปรงสีฟันนุ่มขัดบริเวณโคมไฟหน้ารถประมาณ 1-2 นาที 

4.นำผ้าชุบน้ำเช็ดยาสีฟันออก เป็นอันเสร็จ 

ขัดไฟหน้ารถ ด้วยเบคกิ้งโซดา+มะนาว  

เบคกิ้งโซดา ถือได้ว่ามีประโยชน์สารพัดสำหรับทั้งงานครัว งานซักล้าง หรือแม้กระทั่งการทำอาหารหรือขนม นอกจากนี้ยังสามารถนำมาขัดไฟหน้าได้อีกด้วย โดยสิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ เบคกิ้งโซดา มะนาวหั่นแว่น น้ำเปล่า ขั้นตอนขัดไฟหน้ารถด้วยเบคกิ้งโซดามีดังนี้ 

1.นำเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย 

2.นำมะนาวหั่นแว่นจุ่มลงไปในเบคกิ้งโซดาที่เตรียมไว้ 

3.นำมะนาวไปขัดไฟหน้ารถจนกว่าจะใส แต่ข้อควรระวังคืออย่าให้น้ำมะนาวโดนสีรถ 

ขัดไฟหน้ารถ ด้วยสเตคลีน 

สเตคลีน เป็นครีมทำความสะอาดอเนกประสงค์หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป ราคาไม่แพง  สามารถเช็ดทำความสะอาด คราบต่าง ๆ ได้หลายพื้นผิว สิ่งที่ต้องเตรียมได้แก่ สเตคลีน ขั้นตอนขัดไฟหน้ารถด้วยสเตคลีนมีดังนี้ 

1.ทาสเตคลีนให้ทั่วโคมไฟหน้ารถทิ้งไว้สักครู่ 

2.ใช้ผ้านุ่มเช็ดออก 

สำหรับใครที่มีเครื่องขัดก็สามารถใช้ร่วมกับสเตคลีนขัดไฟหน้ารถได้ โดยสิ่งที่ต้องเตรียมได้แก่ สเตคลีน เครื่องขัด กระดาษทรายเบอร์ละเอียด หรือ เบอร์ 1000 และน้ำยาล้างจาน ขั้นตอนขัดไฟหน้ารถด้วยสเตคลีน+เครื่องขัดมีดังนี้ 

1.ขัดไฟหน้ารถด้วยกระดาษทราย ระหว่างขัดให้เทน้ำด้วย 

2.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด 

3.ทาสเตคลีน แล้วด้วยเครื่องขัด 

4.ล้างออกด้วยน้ำยาล้างจานอีกครั้ง 

ขัดไฟหน้ารถ ด้วยกระดาษทราย 

วิธีนี้อาจจะเหมาะสำหรับคนที่เคยขัดโคมไฟหน้ารถด้วยกระดาษทรายมาบ้าง โดยเลือกกระดาษทรายอย่างน้อย 2 เบอร์ ได้แก่ กระดาษทรายน้ำเบอร์ 320 และกระดาษทรายน้ำเบอร์ 1000 ซึ่งคนละแบบกับกระดาษทรายขัดไม้ และเตรียมสเปรย์เคลือบเงา ขั้นตอนขัดไฟหน้ารถด้วยกระดาษทรายมีดังนี้ 

1.นำกระดาษทรายน้ำเบอร์ 320 ชุบน้ำนิดหน่อย ขัดโคมไฟหน้าด้วยแรงขัดสม่ำเสมอจนผิวเรียบเนียน ล้างด้วยน้ำเปล่า 

2.เปลี่ยนมาใช้กระดาษทรายน้ำเบอร์ 1000 ซึ่งเป็นเบอร์ละเอียด ชุบน้ำนิดหน่อย ขัดโคมไฟหน้ารถต่อประมาณ 5 นาทีหรือจนกว่าส่วนที่ขุ่นจะหลุดออกมา 

3.ฉีดพ่นโคมไฟหน้ารถด้วยสเปรย์เคลือบเงา 

4.นำกระดาษทรายน้ำเบอร์ 1000 ขัดโคมไฟหน้ารถอีกครั้ง โดยขัดเป็นวงกลมหลายครั้งจนโคมไฟหน้าใส 

ขัดไฟหน้ารถ ด้วยน้ำยาขจัดคราบ 

น้ำยาขจัดคราบหรือน้ำยาล้างห้องน้ำ ยังสามารถใช้ขัดไฟหน้ารถได้ แต่ต้องระวังสักนิดเพราะอาจจะไหลไปโดนผิวรถได้ โดยสิ่งที่ต้องเตรียมได้แก่ น้ำยาขจัดคราบ ถุงพลาสติก ผ้าไมโครไฟเบอร์ ขั้นตอนขัดไฟหน้ารถน้ำยาขจัดคราบมีดังนี้ 

1.ทำความสะอาดโคมไฟหน้ารถและเช็ดให้แห้ง 

2.นำถุงพลาสติกหรือแผ่นพลาสติกแปะในส่วนของผิวรถ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาขจัดคราบไหลไปโดน 

3.พ่นน้ำยาขจัดคราบที่โคมไฟหน้ารถ ทิ้งไว้ 2-3 นาที 

4.ใช้ผ้าสะอาดเช็ดโคมไฟหน้ารถ 

5.ล้างโคมไฟหน้ารถด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง 

6.ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้งเป็นอันเสร็จ 

วิธีดูแลไฟหน้ารถยนต์ให้ส่องสว่างได้ดี 

นอกจากการเลือกหลอดไฟหน้ารถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ไฟหน้ารถยนต์ส่องสว่างได้ดีคือการดูแลรักษาไฟหน้ารถยนต์ ซึ่งสามารถได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ 

1.ล้างโคมไฟหน้ารถยนต์ 

การใช้ฟองน้ำล้างรถชุบน้ำยาล้างจานเช็ดล้างทำความสะอาดคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะบนโคมไฟหน้ารถยนต์ เพื่อให้โคมไฟหน้ารถยนต์สะอาดใส หลอดไฟสามารถส่องสว่างได้ดีขึ้นอีกด้วย 

2.ขัดไฟหน้ารถยนต์ 

รถอายุหลายปีมักเริ่มประสบปัญหาโคมไฟหน้ารถยนต์เหลือง ขุ่น ไม่ใสเหมือนก่อน ซึ่งปัญหาโคมไฟหน้ารถยนต์เหลืองนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไฟหน้ารถยนต์ไม่สว่างเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นการขัดโคมไฟหน้ารถยนต์จึงช่วยให้ไฟหน้ารถมีความสว่างสดใสได้โดยใช้ ยาสีฟัน เบคกิ้งโซดา+มะนาว ครีมทำความสะอาดอเนกประสงค์ กระดาษทราย และน้ำยาขจัดคราบ ส่วนวิธีในการขัดไฟหน้ารถยนต์สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความ ไฟหน้ารถยนต์มีกี่ประเภทแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร คลิก 

3.เปลี่ยนโคมไฟหน้ารถใหม่เมื่อมีรอยแตก 

หากพบว่าโคมไฟหน้าเกิดความเสียหาย ควรรีบเปลี่ยนโคมไฟหน้ารถใหม่ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ฝุ่น ละอองน้ำมันรถ หรือความชื้นเข้าไปภายในโคม ไฟ มีผลทำให้ระบบไฟมีปัญหาหรือโคมไฟหน้ามัวจากข้างในอีกด้วย 

4.เปลี่ยนหลอดไฟหน้าเมื่อไฟขาด 

หากหลอดไฟหน้าหลอดใดหลอดหนึ่งขาดหรือเสื่อม ควรเปลี่ยนหลอดไฟหน้าเป็นคู่ เพื่อไม่ทำให้หลอดไฟอีกข้างที่สว่างอยู่ ทำงานหนักมากเกินไป 

5.การเคลือบโคมไฟหน้ารถ 

การเคลือบโคมไฟหน้ารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยให้โคมไฟหน้ารถดูเหมือนใหม่อีกครั้ง โดยทำหลังจากการขัดไฟหน้ารถ เพื่อช่วยเคลือบไฟหน้ารถที่ถูกขัดออกไป ด้วยน้ำยาพ่นเคลือบสำหรับโคมไฟหน้ารถ ช่วยปกป้องแสงแดดไม่ให้โคมไฟหน้ารถเหลืองเร็ว 

เมื่อพบปัญหา น้ำเข้าไฟหน้ารถ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับรถทั้งรุ่นใหม่-รุ่นเก่า ทั้งนี้ไม่ควรปล่อยให้น้ำ ไอน้ำเกาะไฟหน้านานเกินไป เพราะจะทำให้น้ำซึมไปถึงขั้วหลอดไฟ และอาจทำให้ระบบไฟฟ้าเกิดความเสียหายได้ ทั้งนี้อาการน้ำเข้าไฟหน้ารถ ยังสามารถเข้าไฟท้ายรถได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่ควรจะหมั่นตรวจสอบสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับตัวรถทั้งหมด เพื่อจะได้ทำการแก้ไขได้ทันท่วงที เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และไม่ทำให้โคมไฟหน้าหรือระบบไฟเสียหาย  นอกจากการดูแลรถที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองแล้ว  การทำประกันรถยนต์ยังช่วยดูแลทั้งรถ คน และความเสียหายต่าง ๆ เพิ่มความอุ่นใจกับทุกการเดินทางของคุณ   แนะนำประกันภัยรถยนต์ที่เฮงลิสซิ่ง ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน คลิกปุ่มด้านล่างเลย 

สมัครสินเชื่อ