นอกจากการเช็กสภาพยางรถยนต์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับขี่ควรรู้เป็นความรู้พื้นฐานคือการดู อายุยางรถยนต์ ซึ่งดูได้ไม่ยาก ที่แก้มยางรถยนต์จะเป็นเลข 4 ตัว แสดงสัปดาห์และปีที่ผลิต เช่น 14 23 หมายถึง ผลิตสัปดาห์ที่ 14 ปี 2023 โดยปกติแล้ว ยางรถยนต์ควรเปลี่ยนทุก 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานของแต่ละคน หรือทางที่ดีควรเช็กอายุยางรถยนต์ตรงแก้มยางแนะนำให้เปลี่ยนยางทุก 2-3 ปี นับตั้งแต่วันที่ติดตั้งยาง ทั้งนี้ เราจะสังเกตว่าบริเวณแก้มยางยังมีตัวเลขอื่น ๆ โดยตัวเลขเหล่านี้ เป็นสิ่งที่คุณควรรู้ ดังนี้  

เช็ก อายุยางรถยนต์ จากตัวเลขบนแก้มยางรถ? 

การเช็กอายุยางรถยนต์ เป็นความรู้พื้นฐานที่ผู้ขับขี่ควรรู้ เพราะการเช็กอายุยางรถยนต์ จะทำคุณสามารถรู้อายุยางรถยนต์ และเปลี่ยนยางรถยนต์ได้ตามเวลาที่ควรเปลี่ยน เพราะหากใช้ยางที่เสื่อมสภาพแล้ว ความปลอดภัยในการขับขี่ลดน้อยลงไปด้วย การเช็กดูอายุยางรถยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก มาเริ่มต้นดูอายุยางรถยนต์โดยก้มไปดูตัวเลขที่แก้มยางรถยนต์ อายุยางรถยนต์จะเป็นตัวเลข 4 ตัวเรียงติดกัน ส่วนตัวเลขและตัวอักษรอื่นคือขนาดของยางรถยนต์ โดยเราจะมาสอนอ่านตัวเลขบนแก้มยางรถยนต์ดังนี้  

ตัวอย่าง ตัวเลขบนแก้มยาง 215/45 R17 91W

  • 215 ความกว้างของยาง  
  • 45 ความสูงของยาง (ซีรีย์%)   
  • R ชนิดของยาง (เรเดียล)  
  • 17 เส้นผ่าศูนย์กลางล้อ (นิ้ว)  
  • 91 พิกัดรับน้ำหนักบรรทุก (กก)  
  • W อัตราความเร็วที่ยางรับได้ (km/h)  
  • 0500 สัปดาห์ที่เท่าไหร่ของปีและปีค.ศ.ที่ผลิตยาง (เลข 4 หลักที่แก้มยาง)  

สำหรับชุดตัวเลข 4 หลักนี้ จะบอกวันที่ผลิตยางรถยนต์ ซึ่ง 2 ตัวแรก บอกสัปดาห์ที่ผลิต และ 2 ตัวหลัง บอกปีที่ผลิต จากรูปภาพ คือ ยางผลิตสัปดาห์ที่ 5 ของปี ค.ศ.2000  นอกจากนี้เมื่อคุณสามารถอ่านขนาดของยางรถยนต์และปีที่ผลิตแล้ว ยังทำให้คุณรู้อายุของยางรถยนต์อีกด้วย ซึ่งปกติแล้วยางรถยนต์ปกติจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี หรือ 40,000 กม. หากครบ 5 ปีแล้วแนะนำให้เปลี่ยนยางเส้นใหม่ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากจะทำให้เรารู้ขนาดยางรถยนต์ ปีที่ผลิตและอายุยางรถยนต์แล้ว เวลาที่เราอาจจำเป็นต้องซื้อยางรถยนต์มือสองใช้ คุณก็สามารถดูปียางรถยนต์ได้ เพื่อจะได้ไม่ถูกย้อมแมวขาย เพราะบางร้านมีการย้อมแมวขายยางรถเก่าโดยอ้างว่าเป็นยางรถยนต์ปีใหม่ โดยการขัดข้อมูลรหัสปียางรถยนต์ออก แล้วปั๊มเข้าไปใหม่ ให้ตัวเลขเป็นปัจจุบันมากที่สุดนั่นเอง เห็นหรือไม่ว่าแค่คุณสามารถอ่านรหัสบนแก้มยางรถยนต์ ทำให้คุณรู้ว่าขนาดยางและอายุของยางรถยนต์  เวลาที่คุณจำเป็นต้องซื้อยางรถยนต์มือสองมาใช้จะได้ไม่โดนหลอกอีกด้วย 

ทั้งนี้สำหรับการซื้อยางรถมือสอง การดูอายุยางรถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นเป็นอย่างมาก เพราะขึ้นชื่อว่ายางรถมือสองแล้ว นอกจากเราจะดูสภาพยางรถแล้ว  อายุยางรถยนต์ยังเป็นสิ่งสำคัญโดยยางมือสองที่นิยมนำมาเปลี่ยนยางแทนยางเส้นเดิม เช่น ยางเปอร์เซ็นต์ ยางใหม่ปีเก่า เป็นต้น เรามาดูกันว่ายางเปอร์เซ็นต์ และยางใหม่ปีเก่า ควรเลือกยางที่มีอายุยางรถยนต์กี่ปีค่ะ 

อายุยางรถยนต์สำหรับยางเปอร์เซ็นต์ เลือกอายุไม่เกินกี่ปี 

ยางเปอร์เซ็นต์ คือยางมือสองที่อยู่ในสภาพการใช้งานที่ค่อนข้างดีถึงบางเส้นยังสามารถเทียบเท่ากันยางใหม่มือหนึ่ง  เพราะยางเปอร์เซ็นต์ในบางรุ่น อาจจะซื้อให้แล้วคุ้มค่ากว่าการซื้อยางยี่ห้อและรุ่นเดียวกันที่เป็นของใหม่อีกด้วย  เพราะราคาของยางเปอร์เซ็นต์จะมีราคาถูกกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับการซื้อยางรถเส้นใหม่ในยี่ห้อและรุ่นเดียวกัน และในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานเมื่อเทียบกับราคาแล้ว ถือว่ายางเปอร์เซ็นต์มีความคุ้มค่าในราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย  ทั้งนี้การเลือกซื้อยางเปอร์เซ็นต์ ควรเลือกให้ดีและเลือกให้เป็นก็จะดีมาก ทั้งนี้ก่อนอื่นมาดูกันก่อนว่าอายุยางรถยนต์ของยางเปอร์เซ็นต์นั้น  

หากเลือกยางเปอร์เซ็นต์ที่ถอดมาจากรถยนต์ป้ายแดง ควรดูอายุยางรถยยนต์ โดยอ่านปีผลิตของยางที่แก้มยางรถ ควรเลือกยางอายุไม่เกิน 6 ปี หากอายุเกินกว่านี้ ยางรถยนต์มักจะเสื่อมสภาพ เนื้อแข็ง หากนำไปใช้อาจทำให้ยางมีรอยแตก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้  นอกอายุยางรถยนต์แล้ว สิ่งที่ควรดูอันดับต่อไป มีดังนี้ 

1.ยี่ห้อยางรถยนต์

การเลือกซื้อยางรถยนต์ยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและมาตรฐานดี เป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มความน่าเชื่อและความมั่นใจว่า ยางเส้นนั้นยังมีประสิทธิภาพดี พร้อมใช้งาน แม้ว่าจะเป็นยางเปอร์เซ็นต์ก็ตาม 

2.ดอกยางไม่สึก

ดอกยาง เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ยางรถเกาะถนนและรีดน้ำขณะขับรถเมื่อถนนเปียก คุณจึงควรสังเกตดอกยางว่ายังเหลืออยู่หรือไม่ โดยการนำเหรียญวางในช่องดอกยาง โดยสังเกตความสูงของดอกยางเมื่อเทียบกับขนาดของเหรียญบาท หากดอกยางรถยนต์ต่ำกว่าบริเวณเหรียญประมาณ 1/3 หมายถึง ดอกยางรถยนต์เหลือน้อยใกล้หมดแล้ว ไม่ควรนำมาใช้  

ความลึกของดอกยางที่ควรรู้  

ความลึกของดอกยางที่เหลือน้อย ส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ เรามาดูกันว่าความลึกของดอกยางเท่าไหร่จึงปลอดภัยหรือถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่แล้ว  

  • 8 mm. (ขึ้นไป) ยางรถยนต์ที่มีสภาพใหม่ ใช้งานได้อย่างปลอดภัย   
  • 4-5 mm. ดอกยางหมดแล้วประมาณ 50% สามารถใช้งานได้ต่อแต่ควรหมั่นตรวจเช็ก  3 mm. ถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่แล้ว หากยังไม่มีการเปลี่ยนยางเส้นใหม่ จะต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะถนนเปียก (ขึ้นอยู่กับยางรถยนต์แต่ละยี่ห้อ)  
  • 1.6 mm. (หรือน้อยกว่า) สภาพดอกยางหมดเกือบ 100% ถือเป็นยางหมดสภาพ ไม่ควรใช้ต่อ ต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่3.รอยแผลของยาง

หากเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงยางเปอร์เซ็นต์ที่มีรอยบาดจนหน้ายางหลุดออกจนทะลุใยเหล็ก เพราะยางรถที่ไม่สมบูรณ์เช่นนี้ จะมีผลต่อความสมดุลของรถ แต่หากมีรอยบาดเล็กน้อย ก็สามารถแก้ได้ด้วยการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ   

4.ทดสอบความนิ่มของเนื้อยาง  

ลองใช้นิ้วจิ้มที่เนื้อยางเปอร์เซ็นต์ เพื่อทดสอบความนิ่ม หากจิ้มแล้วเนื้อยางแข็งมาก ไม่ควรเลือกใช้เด็ดขาด  

  1. ดูรูปทรงของยางรถ

ลองสำรวจดูทรงของยางรถ หากพบว่ามีทรงที่บิดเบี้ยว บวม หรือฉีกขาด ไม่ควรใช้  

 

อายุยางรถยนต์สำหรับยางใหม่ปีเก่า เลือกอายุไม่เกินกี่ปี 

ยางใหม่ปีเก่า ยางใหม่ตกปี ยางใหม่ค้างปี ยางเก่าเก็บ หรือพวกยางรถยนต์มือหนึ่งที่ค้างสต็อกจากปีก่อน ๆ ที่ผ่านมาเป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนยางรถเส้นใหม่ในงบประมาณที่จำกัด ร้านขายยางบางร้านมักจะนำยางใหม่ปีเก่ามาทำโปรลดราคา เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อยางเส้นใหม่ในราคาที่ถูกลงได้ แต่เชื่อว่าหลายคนอาจมีความกังวลว่ายางใหม่ปีเก่า ยางใหม่ตกปี หรือยางใหม่ค้างปีเหล่านี้ จะมีคุณภาพเทียบเท่ายางรถยนต์เส้นใหม่หรือไม่ คำตอบคือ คุณภาพของยางใหม่ปีเก่าเทียบเท่ากับยางใหม่เลย และหากยางใหม่ปีเก่าเก็บไว้อย่างดี คุณภาพนั้นแทบไม่ต่างอะไรจากยางใหม่ปีใหม่เลย โดยมีการทดสอบจาก National Highway Traffic Safety Administration หรือ NHTSA ของสหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดสอบการใช้งานยางใหม่ปีเก่า โดยเก็บตัวอย่างจากยางที่ใช้แล้ว กับยางที่นำมาจากการจำลองเสมือนการใช้งานจริงจากผู้ใช้ พบว่า ยางรถยนต์จะเริ่มเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว เมื่อยางมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6 ปี ขึ้นไป แต่ยางจะเริ่มเสื่อมสภาพจริงๆ ก็ต่อเมื่อยางเส้นนั้นถูกติดตั้งบนชุดล้อและเริ่มมีกระบวนการเติมลมยางพร้อมใช้งานแล้วเท่านั้น  

ส่วนการเสื่อมสภาพของยางใหม่ที่ไม่ได้ถูกใช้งานมา 3 ปี จะมีอายุเท่ากับยางที่ติดตั้งในล้อครึ่งปี หมายความว่า ยางที่เก่าเก็บ 3 ปี ยังสามารถใช้งานได้อีก 4 ปีครึ่ง และถ้าเทียบอายุการใช้งานยางรถยนต์โดยทั่วไปแล้ว จะต้องเปลี่ยนยางทุก 3-4 หมื่นกิโลเมตรในการใช้งาน หมายความว่ายางเก่าเก็บ 3 ปี ก็ยังสามารถใช้งานได้ดี แถมมีราคาถูกกว่ายางใหม่ปีใหม่ หรือยางที่เพิ่งผลิตใหม่อีกด้วย   

อาการไหนบ้างที่ต้องเปลี่ยนยางรถยนต์

นอกจากจะดูที่อายุยางรถยนต์แล้ว หากการขับขี่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของยางรถยนต์เสื่อม โดยสัญญาณดังต่อไปนี้ ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่ได้แล้ว 

รู้สึกหนืด หน่วง
หากการขับขี่เริ่มรู้สึกหนืด ๆ หน่วง ๆ ตอนเลี้ยวรถ จะสังเกตได้ง่ายๆ ขับแล้วหน่วงไปข้างใดข้างหนึ่ง นี่อาจเป็นสัญญาณว่ายางเริ่มอ่อนตัว ลมยางไม่เท่ากัน ควรนำรถเข้าศูนย์นะ

รู้สึกพวงมาลัยหนัก
รู้สึกพวงมาลัยหนักๆ ขับแล้วรู้สึกพวงมาลัยหนักผิดปกติ และพอเลี้ยวแล้วรู้สึกสมดุลของรถจะเสียโดยเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง เป็นสัญญาณว่ายางรถแบนจากของมีคม ให้นำรถไปเข้าศูนย์ซ่อมเพื่อประเมินความเสียหาย

รถไถลตอนเลี้ยว
ตอนเลี้ยวรถชอบไถล เมื่อเลี้ยวแล้วรถไม่ค่อยเกาะถนน ยิ่งถนนเปียกก็จะยิ่งเห็นอาการชัดเจนขึ้น เป็นสัญญาณว่าดอกยางสึก หรือเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ที่มีดอกยางละเอียดนะ

ล้อรถมีเสียงเอี๊ยด
ล้อรถมีเสียงเอี๊ยดๆขณะขับ ฟังเสียงยางบดถนนดีๆ หากยางมีเสียงเอี๊ยดๆ ดังผิดปกติโดยเฉพาะเวลาขับขี่ในโรงจอดรถที่พื้นมีความมัน อาจเป็นสัญญาณว่ายางรถของคุณเก่าเกินไปแล้ว เนื้อยางแข็งกระด้าง หน้าสัมผัสยางสึก ควรเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่เลยนะครับ

พวงมาลัยสั่นและรถเด้ง
พวงมาลัยสั่นและรถเด้ง ขับบนถนนเรียบๆ แต่ทำไมรู้สึกรถเด้งเป็นจังหวะสม่ำเสมอแปลกๆ พร้อมกับพวงมาลัยสั่นๆ เป็นสัญญาณว่ารถของคุณยางบวม แสดงว่ายางเสื่อมสภาพและแก้มยางได้รับความเสียหายจากแรงกระแทกอย่างหนัก หากเกิดปัญหานี้ต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่เลยนะครับ

พวงมาลัยเอียง
พวงมาลัยเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง เมื่อไม่บังคับพวงมาลัย รถมักเฉออกทางซ้ายไม่ก็ทางขวาจน ทำให้ต้องเหนื่อยกับการขับรถตลอดเวลาเหมือนพวงมาลัยต้านมือคนขับ ให้นำรถไปตั้งศูนย์ล้อใหม่นะครับ

 

การอ่าน อายุยางรถยนต์ เป็นสิ่งพื้นฐานที่ผู้ขับขี่ควรรู้และเข้าใจ เพราะยางรถยนต์จะต้องสัมผัสกับผิวถนนในทุกสภาพพื้นผิว ทุกสภาพอากาศ จึงทำให้การเลือกยางรถยนต์ โดยเฉพาะยางมือสอง จะต้องรู้เรื่องของอายุยางรถยนต์ เพื่อที่จะได้เลือกยางที่ไม่เก่าเกินไป และไม่ถูกคนขายหลอกขายยางรถเก่าได้ นอกจากนี้อย่าลืมหมั่นตรวจสภาพรถตามจุดต่าง ๆ หากพบจุดไหนที่บกพร่อง จะได้รีบทำการแก้ไข ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนใหม่ต่อไป  และแนะนำควรเพิ่มความคุ้มครองในการเดินทางด้วยประกันรถยนต์จากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน สอบถามหรือสมัครประกันรถยนต์ ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน คลิกปุ่มสมัครด้านล่างเลย 

สมัครสินเชื่อ